ยูเครนแฉทุจริตโดรน จัดซื้อราคาสูงเกินจริง เซเลนสกีไม่ทนคนโกง
2 สิงหาคม 2568 หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของยูเครนเปิดเผยว่า ได้ค้นพบการทุจริตครั้งใหญ่ในโครงการจัดซื้อโดรนทางทหาและระบบตัดสัญญาณ ด้วยการซื้อที่ราคาสูงเกินจริง หน่วยงานค้นพบการฉ้อโกงเพียง 2 วัน หลังกลับมาทำงานโดยอิสระหลังประท้วงใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
NABU และ SAPO คือหน่วยงานสอบสวนและต่อต้านการทุจริตของยูเครน ซึ่งเพิ่งได้รับการคืนสถานะโดยรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังมีความพยายามยกเลิกความเป็นอิสระในการดำเนินงานของหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่การประท้วงครั้งล่าสุดนับตั้งแต่ยูเครนถูกรุกรานโดยรัสเซียในปี 2022
ในแถลงการณ์ล่าสุดของ NABU และ SAPO ระบุว่า พวกเขาได้จับกุมผู้ร่างกฎหมายซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งสำคัญอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2 คน และเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ระบุจำนวนในข้อหารับสินบน แต่ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อบุคลเหล่านี้ในแถลงการณ์
เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า “สาระสำคัญของแผนการนี้คือการทำสัญญาของรัฐกับบริษัทผู้จัดหาในราคาที่จงใจตั้งไว้สูงเกินจริง” และเสริมว่า ผู้กระทำผิดได้รับเงินสินบนมากถึง 30% ของมูลค่าสัญญา และมีผู้ถูกจับกุมสี่คน
โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเขียนถึงเหตการณ์ดังกล่าวบน Tegegram ว่า “ความอดทนที่เรามีต่อการทุจริตคือศูนย์เท่านั้น มีการทำงานเป็นทีมอย่างชัดเจนเพื่อเปิดโปงการทุจริต และผลลัพธ์คือคำพิพากษาที่เป็นธรรม”
ความพยายามของเซเลนสกีในการนำ NABU และ SAPO ไว้ภายใต้การควบคุมของอัยการสูงสุด ทำให้เซเลนสกี ผู้ที่ตลอดมาได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวยูเครน ถูกบีบบังคับให้กลับลำทางการเมืองอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความพยายามนั้นได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในช่วงสงคราม
ต่อมา เซเลนสกีกล่าวว่า เขาได้รับฟังความไม่พอใจของประชาชน และได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อฟื้นฟูเอกราชของหน่วยงานทั้งสอง ซึ่งรัฐสภาได้ลงมติผ่านเมื่อวันพฤหัสบดี
การเปลี่ยนท่าทีตามเสียงประชาชนครั้งนี้ได้รับแรงนับสนุนจากพันธมิตรประเทศยุโรปของยูเครนเป็นอย่างมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิกถอนสถานะของหน่วยงานเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปหลายคนได้กล่าวกับเซเลนสกีว่า ยูเครนกำลังเสี่ยงต่อการบั่นทอนความพยายามในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ด้วยการจำกัดอำนาจของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของตน
“เป็นเรื่องสำคัญที่สถาบันต่อต้านการทุจริตจะสามารถดำเนินงานได้อย่างเป็นอิสระ และกฎหมายที่ผ่านเมื่อวันพฤหัสบดีรับประกันโอกาสทุกประการให้พวกเขาได้ต่อสู้กับการทุจริตอย่างแท้จริง” เซเลนสกีเขียนเมื่อวันเสาร์ หลังจากพบกับหัวหน้าหน่วยงานทั้งสอง ซึ่งได้สรุปผลการสอบสวนล่าสุดให้เขาฟัง
