Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เศรษฐกิจแย่ขวางทางรัก? ไทย-เวียดนามไม่แต่งงาน แต่งช้า จดทะบียนฯ ลดฮวบ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เศรษฐกิจแย่ขวางทางรัก? ไทย-เวียดนามไม่แต่งงาน แต่งช้า จดทะบียนฯ ลดฮวบ

12 ธ.ค. 68
13:30 น.
แชร์

โสด = ไร้ภาระ?

“เรารู้สึกว่าร่างกาย หัวใจ และจิตใจเรามันก็ยังเด็กอยู่ อั้มมีความรู้สึกว่าอั้มยังเด็กอยู่เลย คุยเรื่องเด็ก ๆ คุยกับเพื่อนสนุกสนาน อั้มอาจจะไม่มีลูก ไม่มีสามี มันก็อาจจะไม่มีเรื่องปวดหัว และอั้มก็มีความสุขในทุก ๆ วันด้วย” 

คำตอบของคุณอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เมื่อถูกนักข่าวบันเทิงถามเกี่ยวกับความกังวลของอายุที่มากขึ้น เพราะปีนี้ดาราสาวตัวท็อปที่คนไทยคุ้นหน้าคุ้นตามานาน อายุ 47 ปีแล้ว แต่ยังดูแลตัวเองได้ดีเหมือนผู้หญิงวัย 25 - 30 ปีเท่านั้น เธอให้เหตุผลว่าอาจเป็นเพราะไม่ได้แต่งงานมีลูก มีสามี จึงไร้ความกังวลในชีวิต 

ขณะที่คอมเมนต์ของสาวไทยก็เห็นดีเห็นงามกับความคิดนี้ เช่น “บางครั้งสามี-ลูก ก็ไม่จำในชีวิตสำหรับคนบางคนค่ะ เพราะไม่ได้ตัดสินว่าชีวิตจะดีหรือไม่ดี ก็เหมือนการแต่งงานแหละค่ะ” หรือ “ไม่มีสามี ไม่มีลูก นี่คือมีความสุข อิสระเรื่องในหัวจริง” คอมเม้นต์เหล่านี้มาพร้อมกับยอดกดไลค์จนเป็นท็อปคอมเมนต์ในหลายคลิป ได้สะท้อนเทรนด์และแนวคิดของผู้หญิงไทยที่มองการแต่งงาน มีครอบครัวเป็นภาระมากขึ้น

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยเช่นนี้ สอดคล้องกับผลสำรวจทางสังคมของ Insight พบว่า ชาวไทยหนึ่งในสี่ยังคงเป็นโสด โดยเฉพาะหนุ่มสาวในกลุ่มอายุ 25 ถึง 34 ปี ในกรุงเทพมหานคร หันหลังให้กับการแต่งงานมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ประมาณสามในสิบคนยังคงเป็นโสด ผลสำรวจยังพบว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียวเท่านั้นที่ปฏิเสธการแต่งงานมากขึ้น บ้านใกล้เรือนเคียงของเราอย่างเวียดนาม ก็กำลังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จนอาจส่งผลกระทบด้านสังคมในอนาคต

Spotlight ชวนอ่านบทความ “ทำไมคนหนุ่มสาวในไทยและเวียดนามจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงหันหลังให้กับการแต่งงาน”

วัยแต่งงานเพิ่มขึ้น การจดทะเบียนลดลง

Channel News Asia รายงานว่า เวียดนาม ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วเป็นหนึ่งในสังคมที่มุ่งเน้นการแต่งงานมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันคนหนุ่มสาวได้เปลี่ยนทัศนคติไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สะท้อนผ่านอายุเฉลี่ยของการแต่งงานเพิ่มขึ้นจากอายุ 25.2 ปี ในปี 2019 เป็น 27.3 ปีในปัจจุบัน และในนครโฮจิมินห์ อายุเฉลี่ยของการแต่งงานอยู่ที่ 30.4 ปี 

ขณะที่ในประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย จำนวนการจดทะเบียนสมรสลดลงอย่างมาก โดยประเทศที่ยึดถือการแต่งงานอย่างจีน ก็มีบันทึกการจดทะเบียนสมรสลดลงถึง 54.7% เมื่อปีที่แล้ว เทียบกับปี 2013 รวมถึงตัวเลขผู้จดทะเบียนสมรสใน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และ เกาหลีใต้ ก็กำลังเดินตามแนวโน้มขาลงเช่นเดียวกัน

คนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้มองว่าการแต่งงานเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญอีกต่อไป หลายคนกำลังลังเลหรือปฏิเสธการแต่งงานโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งนี้ได้สร้างความไม่พอใจในบางกลุ่ม เจิ่น ทัญ นาม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการศึกษา ภายใต้มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนามกล่าวว่า “ในบางแง่มุม ส่วนตัวแล้วผมมองว่าพวกเขาค่อนข้างเห็นแก่ตัว พวกเขาใช้ชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น”

อธิการบดีชาวเวียดนามท่านนี้ยังกล่าวอีกว่า “พวกเขาขาดความรับผิดชอบ หากมองจากมุมที่ว่าพวกเขาเป็นพลเมืองของประเทศและมีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างครอบครัวเพื่อสร้างชาติด้วย”

แต่พวกเขากำลังแสดงออกด้วยความเห็นแก่ตัวจริง ๆ หรือเพียงแค่กำลังใช้ชีวิตในโลกให้อยู่รอดจากวิกฤตทางเศรษกิจและสังคมที่เกิดขึ้นมากมายในขณะนี้ ? แท้จริงแล้วอาจมีเหตุผลมากกว่าการใช้ชีวิตอิสระที่ไร้ภาระ

การแต่งงานมีค่า แต่ไม่จำเป็น

ในเอเชียส่วนใหญ่ การแต่งงานและการมีบุตรเคยเป็นเส้นทางชีวิตเดียวที่ไม่มีใครตั้งคำถาม เด็ก ๆ ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ และชีวิตก็ดำเนินไปตามลำดับที่คุ้นเคย นั่นคือเรียนหนังสือ ทำงาน แต่งงาน มีบุตร แต่เส้นทางชีวิตเช่นนี้ไม่ได้มีอิทธิพลในปัจจุบันอีกต่อไป

ดร.นายแพทย์บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งประเทศไทย เปิดมุมมองแก่ผู้สื่อข่าว CNA ระบุว่า คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันเข้าใกล้การแต่งงานด้วยความเป็นอิสระมากขึ้น ด้วยการเข้าถึงการศึกษาและโอกาสทางอาชีพที่มากขึ้น และการสนทนาที่เปิดกว้างมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาททางเพศและโครงสร้างครอบครัว พวกเขาจึงมองเห็นความเป็นไปได้ที่กว้างขึ้นในการสร้างชีวิตที่พึ่งพาตนเองได้ โดยมีภาระผูกพันน้อยลง

บริษัทวิจัยด้านการตลาด Milieu พบว่า จากการสำรวจล่าสุด การแต่งงานและบุตรยังคงมีคุณค่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่ถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่สมบูรณ์อีกต่อไป ซึ่งเป็นมุมมองที่คนเจน Z ยึดถือมากที่สุด

ดร.พงษ์ระพี บูรณสมภพ นักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพมนุษย์กล่าวว่า คนวัยเจน Z เติบโตขึ้นมาในยุคที่ "มืดมน" ซึ่งมีลักษณะเป็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โรคระบาด ความวิตกกังวลเรื่องสภาพอากาศ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ พวกเขาเกิดมาพร้อมกับการมองโลกในแง่ร้าย และมีแนวโน้มที่จะกำหนดเส้นทางชีวิตของตนเองมากขึ้น

คนรุ่นใหม่มองว่าสร้างครอบครัวต้องใช้เงิน

ชีวิตของคนวัยเจน Z ยังเชื่อมโยงกับโลกดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง การใช้เวลาหลายชั่วโมงออนไลน์ในแต่ละวันทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลท่วมท้น ซึ่งดร. พงษ์ระพีอธิบายว่า เป็นมุมมองที่ไม่กระตือรือร้นและมีแนวโน้มที่จะ "เลื่อนทุกอย่างออกไป" และสำหรับหลาย ๆ คน ความมั่นคงทางการเงินยังมีความสำคัญมากกว่าการแต่งงาน หลายคนอยากสร้างเครือข่ายทางอาชีพ เริ่มธุรกิจ และสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ได้ก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการแต่งงาน 

ดังนั้น เมื่อคนหนุ่มสาวให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน ความลังเลที่จะแต่งงานของพวกเขาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของวัตถุนิยมเท่านั้น สำหรับหลาย ๆ คน การแต่งงานและการมีบุตรก่อให้เกิดภาระทางการเงินที่สำคัญ

ในขณะที่การสำรวจล่าสุดของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ใน 14 ประเทศในห้าทวีปแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 60% ต้องการมีบุตรอย่างน้อยสองคน แต่พวกเขากลับติดอยู่ในกับดักทางเศรษฐกิจ และเกรงว่าตนเองจะมีเงินไม่พอที่จะสร้างครอบครัวให้แข็งแรง


แชร์
เศรษฐกิจแย่ขวางทางรัก? ไทย-เวียดนามไม่แต่งงาน แต่งช้า จดทะบียนฯ ลดฮวบ