
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯยุบสภา และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ซึ่งหมายความว่าตอนนี้การยุบสภามีผลอย่างเป็นทางการแล้ว
คำนวณตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วันหลังยุบสภา คาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคมถึง 10 กุมภาพันธ์ โดยอาจจะเป็นอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในกรอบ 60 วันหรือไม่ เพราะมีปัจจัยที่ส่งผลให้อาจจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งได้ นั่นคือ การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบให้อาจจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ชายแดนได้
ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ดัชนี SET Index ของตลาดหุ้นไทยเปิด 1,255.75 จุด แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ปิด 1253.54 จุด (ปรับตัวลง -16.33 จุด หรือ - 1.29%) ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าตลาดรับรู้ข่าวล่วงหน้าและได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ทางการเมืองไปแล้วในวันที่ 11 ธันวาคม ก่อนที่สาธารณชนจะทราบข่าวยื่นยุบสภาในช่วงค่ำ หลังตลาดหุ้นปิดทำการ
ในระยะต่อจากนี้ไปจนถึงเลือกตั้ง บรรยากาศการลงทุนในตลาดจะตอบสนองต่อสภาวะทางการเมืองอย่างไร ?
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อใกล้เลือกตั้ง เรามักจะเห็นการพูดถึงกลยุทธ์การซื้อหุ้นที่เชื่อมโยงกับการเมืองหรือได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่กำลังมาถึงนี้ ยังควรทำตามกลยุทธ์ที่ทำ ๆ กันมาหรือไม่ ? ปรากฏการณ์ Pre-Election Rally หรือภาวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนเลือกตั้งที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง จะเกิดขึ้นไหมในรอบนี้ ?
การเลือกตั้ง 10 ครั้งหลังสุด (นับย้อนไปถึงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2535) ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นในช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้ง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.4% โดยเฉพาะหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก การเงิน และอาหาร ซึ่งได้แรงหนุนจากความคาดหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่
กางสถิติการเลือกตั้ง 10 ครั้งหลังสุดดูรายละเอียด หุ้นไทยในกลุ่มที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก การเงิน อาหาร (ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง) มีการเกิด Pre-Election Rally ตามระยะเวลา ดังนี้
หากพิจารณาเฉพาะการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด (ย้อนไปถึงการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549) ตลาดหุ้นไทยเกิด Pre-Election Rally ในช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้งเพียง 2 ครั้ง และในช่วง 2 เดือนก่อนเลือกตั้ง เกิดขึ้นเพียง 1 ครั้ง ส่วนในระยะ 1 เดือน ไม่เกิดขึ้นเลย (0 ครั้ง)
จากสถิติดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงสรุปว่า Pre-Election Rally มักจะเกิดในบริบทที่การเมืองมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตชัดเจน สะท้อนว่าการเกิด Pre-Election Rally ขึ้นอยู่กับระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจและการเมือง
แล้วสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ Pre-Election Rally มีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ ?
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง (Bualuang Securities) วิเคราะห์ว่า Pre-Election Rally จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น สถิติเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ใช้วิเคราะห์แนวโน้ม แต่ต้องรอดูหลายปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้น ต้องรอความชัดเจนว่าจะมีการสานต่อนโยบายที่ประกาศไว้หรือไม่ เซนติเมนต์ของตลาดจะเปลี่ยนไปหรือไม่ อย่างไร
วิกิจยกตัวอย่างว่า โครงการบัญชีการออมการลงทุนส่วนบุคคล หรือ Thailand Individual Saving Account (TISA) ที่ตลาดทุนคาดหวังว่าจะช่วยหนุนตลาดนั้น อาจจะไม่ทันใช้สำหรับปีภาษี 2569 เนื่องจากเป็นโครงการที่มีผลผูกพันงบประมาณ ดังนั้น รัฐบาลรักษาการจะไม่สามารถผลักดันต่อได้
ถ้าถามว่าควรซื้อดักหรือไม่ ? วิกิจบอกว่า ไม่แนะนำให้ ‘ซื้อดัก’ หรือซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มองว่าเชื่อมโยงกับการเมืองตั้งแต่ตอนนี้ เพราะยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม
“หุ้นที่มีชื่อนักการเมือง จำเป็นต้องโดดเข้าเล่นไหม บอกเลยว่าไม่จำเป็น ส่วนหุ้นบลูชิพ (หุ้นตัวใหญ่) จะแรลลีตามการเลือกตั้งหรือไม่ ตอบเหมือนเดิมว่า ถ้าดูสถิติ 5 ครั้งหลังสุด คือ มี 3 ครั้งที่แย่ ต้องบอกว่าหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (commodity) คงไม่แรลลีเช่นเดิม”
“ถ้าจะซื้อดัก ต้องเล็งดี ๆ ต้องดูเป็นตัว คงไม่ดูเป็นกลุ่ม”
วิกิจสรุปว่า โมเมนตัมเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าโมเมนตัมเปลี่ยน นักลงทุนก็พร้อมเปลี่ยน แต่ตอนนี้โมเมนตัมยังไม่เอื้อให้เล่นธีม Pre-Election มากนัก เพราะฉะนั้นต้องดูโมเมนตัมเป็นหลัก
ส่วนในระยะสั้น ๆ วิกิจบอกว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในโหมดการระมัดระวัง เพราะสถานการณ์หุ้นไทยยังน่าเป็นห่วง ยังไม่พ้นขีดอันตราย ราคาหุ้นหลายตัวยังเดินหน้าทำจุดต่ำสุดใหม่ เหลือเพียงหุ้นกลุ่มธนาคารที่ยังแบกตลาดหุ้นไทยอยู่ ดังนั้น จึงแนะให้จับตามองตลาดอย่างไม่ละสายตา และซื้อเมื่ออาการตลาดดีขึ้นเท่านั้น