
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน เปิดเผยว่า ขณะนี้ จีนกำลังเดินหน้าความร่วมมือกับรัสเซียในภาคอุตสาหกรรมการทหาร โดยจีนและรัสเซียได้กระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้น นับตั้งแต่รัฐบาลรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน
เซเลนสกีโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า มีรายงานจากหัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัฐบาลยูเครนชี้ว่า จีน-รัสเซียกำลังเดินหน้าความร่วมมือในภาคส่วนดังกล่าว และย้ำถึงการที่รัฐบาลรัสเซียต้องพึ่งพาการลงทุน เทคโนโลยีและการเมืองจากรัฐบาลจีน
ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า รายงานดังกล่าวชี้ถึงความเคลื่อนไหวของรัฐบาลรัสเซียและจีนที่จะเดินหน้าความร่วมมือในภาคส่วนอุตสาหกรรมการทหาร และเขาได้สั่งการให้หน่วยข่าวกรองเฝ้าจับตาความร่วมมือของทั้งสองประเทศว่าจะเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตกหรือไม่
เซเลนสกีโพสต์ข้อความหนึ่งย้ำว่า “ความมั่นคงของโลกไม่ควรจะถูกบั่นทอน เพียงเพราะความกระหายของรัสเซียที่จะรุกรานยังคงไม่ลดลงเลย”
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากชาติตะวันตก แต่รัฐบาลจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซีย ได้กระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียมากขึ้นตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022
จีนยังคงอ้างความเป็นกลางในความขัดแย้งครั้งนี้ และรักษาท่าทีที่ค่อนข้างมากท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการเจรจาสันติภาพ แม้หลายฝ่ายเรียกร้องให้จีนใช้บทบาทและอิทธิพลเหนือรัสเซียให้ช่วยยุติสงคราม เพราะมองว่ารัสเซียต้องพึ่งพาจีนอย่างมากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้นำจีนและรัสเซียได้ประกาศวิสัยทัศน์ต่อระเบียบโลกพหุภาคีใหม่ ในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจะขยายการลงทุนและกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยอธิบายว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนี้เป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกัน”
สีระบุว่า อุตสาหกรรมที่ทั้งสองประเทศสามารถขยายความร่วมมือได้ ได้แก่ อวกาศ พลังงาน เกษตรกรรม และเศรษฐกิจดิจิทัล
ขณะที่เซเลนสกีเปิดเผยเมื่อวานนี้ด้วยว่า เขาได้หารือประเด็นกฎหมายและปัญหาอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับการจัดการเลือกตั้ง และขอให้ประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ อย่ากดดันในประเด็นการเลือกตั้ง
“หากพันธมิตรต่าง ๆ รวมถึงพันธมิตรหลักอย่างสหรัฐฯ ออกมาพูดถึงมากเกินไปหรือเจาะจงมากเกินไปเกี่ยวกับการเลือกตั้งในยูเครน เราก็จะหาคำตอบทางกฎหมายมาให้สำหรับทุกคำถามและทุกความสงสัย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นการกดดันในประเด็นดังกล่าวจึงไม่ใช่สิ่งที่ยูเครนต้องการ”
ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก็แสดงความเป็นกังวลว่า ยูเครนไม่ได้จัดการเลือกตั้งมานานมากแล้ว โดยเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้แก่เซเลนสกี ซึ่งกล่าวมาโดยตลอดว่า ในเวลานี้ยูเครนเลือกตั้งไม่ได้เพราะอยู่ภายใต้ภาวะสงคราม
ทรัมป์บอกว่า เขาได้คุยกับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษ เกี่ยวกับยูเครน โดยสหรัฐฯ จะไม่ให้เงินโดยตรงต่อรัฐบาลยูเครนอีกต่อไปแล้ว แต่จะขายอาวุธให้ชาติพันธมิตรนาโตแทน เพื่อส่งให้ยูเครน
ทรัมป์ยังระบุว่า ชาติพันธมิตรยุโรปพยายามเรียกร้องให้จัดการประชุมในยุโรปช่วงสุดสัปดาห์ โดยจะมีทั้งสหรัฐฯ และผู้นำยูเครนเข้าร่วมด้วย แต่ตัวทรัมป์เองยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ โดยเขาจะตัดสินใจอีกทีหลังจากได้รับการตอบรับจากผู้นำยุโรปก่อน