
ปีนี้ มหาเศรษฐีหุ้นไทยที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นมากที่สุด 10 อันดับแรกของประเทศล้วนแต่รวยน้อยลงตามราคาหุ้นและสภาพตลาดหุ้นไทยที่ไม่ค่อยสดใส แต่ถึงอย่างนั้น มหาเศรษฐีทุกคนก็ยังคงครองความมั่งคั่งมหาศาลหลักหมื่นล้านถึงแสนล้านบาท
จากการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ปี 2568 โดยวารสารการเงินธนาคารร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปรากฏว่าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ยังคงเป็นของสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ซึ่งเป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว
ทั้งนี้ การจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย วัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นในสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
10 อันดับเศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้ ใครขึ้น ใครลง ใครเข้ามาอยู่ในท็อป 10 ได้ครั้งแรก ใครมีความมั่งคั่งลดลงเท่าไร มาดูกันเลย
อันดับ 1 สารัชถ์ รัตนาวะดี
สารัชถ์ถือครองหุ้นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 189,992.47 ล้านบาท ลดลง 50,349.43 ล้านบาท หรือ 20.95% จากปีก่อนหน้า (YoY) ประกอบด้วยหุ้น GULF ในสัดส่วน 29.19% สูงเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 189,684.32 ล้านบาท และ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นบริษัทลูกของไทยยูเนี่ยน 0.65% มูลค่า 308.15 ล้านบาท
ความมั่งคั่งของสารัชถ์ในปีนี้ลดลงไปถึง 50,349.43 ล้านบาท เนื่องจากราคาหุ้น GULF ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นวันคำนวณมูลค่าเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 อยู่ที่ 43.50 บาท จากราคา 57.00 บาท ในปี 2567 โดยลดลงไป 13.50 บาท หรือ 23.68%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าหุ้นที่สารัชถ์ถือครองจะลดลงไปในปีนี้ แต่ตลอด 7 ปี ของการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2562-2568 มูลค่าหุ้นที่สารัชถ์ถือครองยังคงอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 100,000 แสนล้านบาท
อันดับ 2 นิติ โอสถานุเคราะห์
นิติ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ยังคงอันดับเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 47,313.08 ล้านบาท ลดลง 12,159.34 ล้านบาท หรือ 20.45%
หุ้นในพอร์ตการลงทุนของนิติยังคงอยู่ใน 10 บริษัทเช่นเดียวกับปีที่แล้ว ได้แก่ บมจ.โอสถสภา (OSP) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บมจ.บีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) บมจ.อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) (IRC) และ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA)
อันดับ 3 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ยังคงครองอันดับ 3 ไว้ได้อีกปี โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 33,062.33 ล้านบาท ลดลง 17,602.89 ล้านบาท หรือ 34.74% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 9.18% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 11.38%
อันดับ 4 ดาวนภา เพ็ชรอำไพ
ดาวนภา เพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ปีนี้ยังคงอันดับเดิม ถือครองหุ้น MTC 33.96% มูลค่ารวม 29,160 ล้านบาท ลดลง 6,480 ล้านบาท หรือ 18.18%
อันดับ 5 ชูชาติ เพ็ชรอำไพ
ชูชาติ เพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ก็ยังคงครองอันดับเดิม รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 28,878.71 ล้านบาท ลดลง 6,561.89 ล้านบาท หรือ 18.52% โดยถือหุ้น MTC 33.49% และ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) 2.32%
อันดับ 6 ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ
ปรมาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ ยังคงอยู่ในอันดับเดิมเหมือนปีที่แล้ว รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 20,732.61 ล้านบาท ลดลง 10,210.61 ล้านบาท หรือ 33% ถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 5.81% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) BA 6.49%
อันดับ 7 ประทีป ตั้งมติธรรม
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานคณะกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย ปีนี้ขยับขึ้นมาติดทำเนียบ ท็อป 10 เศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยขยับขึ้นจากอันดับ 11 เมื่อปี 2567 ประทีปถือครองหุ้นเป็นมูลค่ารวม 18,088.53 ล้านบาท ลดลง 134.67 ล้านบาท ถือเป็นเศรษฐีหุ้นที่มูลค่าความมั่งคั่งลดลงน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ Top 10 เศรษฐีหุ้นไทยด้วยกัน โดยลดลงเพียง 0.74%
หุ้นที่ประทีบถือครองมีทั้งหมด 11 บริษัท เช่นเดียวกับปีที่แล้ว แต่ปีนี้มีสัดส่วนการถือครองเพิ่มขึ้นทุกบริษัท ประกอบด้วยหุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) 34.53% บมจ.บางกอกแร้นช์ (BR) 12.69% บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PDJ) 12.95% บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) 4.23% บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) 3.16% บมจ.บ้านปู (BANPU) 2.34% บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) 2.04% บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) 1.97% บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) 1.95% บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) 1.47% และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 0.78%
อันดับ 8 สุระ คณิตทวีกุล
สุระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เจ้าของเครือธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที ขยับขึ้นจากอันดับ 13 เมื่อปีที่แล้ว กลับเข้าสู่ทำเนียบ ท็อป 10 เศรษฐีหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากเข้ามาเป็นปีแรกเมื่อปี 2566 โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 17,208.38 ล้านบาท ลดลง 310.97 ล้านบาท หรือ 1.78%
พอร์ตของสุระในปีนี้มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 21 บริษัทเท่ากับปีที่แล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงตัวหุ้นเล็กน้อย ซึ่งหุ้นที่ยังคงถือครองเหมือนปีที่แล้ว 16 บริษัท ได้แก่ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) 25.05% บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) 0.81% บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP) 7.00% บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) 6.77% บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) 6.20% บมจ.นิวทรีชั่น เอสซี (NTSC) 4.27% บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) 3.82% บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) 2.71% บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) 2.59% บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) 1.94% บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) 1.11% บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) 0.87% บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) 0.83% บมจ.ไอที ซิตี้ (IT) 0.6% บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) 0.56% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 0.52%
ส่วนหุ้นที่ถือเพิ่มในปีนี้มี 5 บริษัท ได้แก่ บมจ.โปร อินไซด์ (PIS) 4.72% บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) 2.11% บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX) 1.05% บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) 0.72% และ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) 0.66%
อันดับ 9 คีรี กาญจนพาสน์
คีรี ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) หล่นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 16,063.10 ล้านบาท ลดลง 3,395.31 ล้านบาท หรือ 17.45% ประกอบด้วย หุ้น BTS 31.73% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) 2.14% และ บมจ.ซุปเปอร์ เทอร์เทิล (TURTLE) 1.64%
อันดับ 10 นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี
หมอพงศ์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งคลินิกเสริมความงาม ‘พงศ์ศักดิ์คลีนิค’ และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด มีพอร์ตการลงทุนมูลค่ารวม 15,404.11 ล้านบาท ลดลง 1,796.82 ล้านบาท หรือ 10.45%
ปีนี้หมอพงศ์ศักดิ์กลับเข้ามาติด TOP 10 เศรษฐีหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากที่หล่นไปอยู่อันดับ 14 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหุ้นในพอร์ตที่เหมือนกับปีที่แล้วมี 10 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.คอมเซเว่น (COM7) 19.81% บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) 9.96% บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX) 9.06% บมจ.นิวทรีชั่น เอสซี (NTSC) 4.86% บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) 4.20% บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) 3.68% บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) 3.48% บมจ.เฮลท์ลีด (HL) 1.15% บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 0.94% และ บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) 2.86%
ส่วนหุ้นที่มีเพิ่มในพอร์ตปีนี้มี 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) 9.08% บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) 2.18% บมจ.โปร อินไซด์ (PIS) 1.64% และ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) 0.71%
ส่วนอันดับ ‘ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย’ ในปี 2568 นี้ ตระกูลรัตนาวะดี ของสารัชถ์ รัตนาวะดี ยังคงครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยมีความมั่งคั่งรวม 189,992.47 ล้านบาท ลดลง 50,349.43 ล้านบาท หรือ 20.95%
อันดับ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยเครือญาติรวม 48 คน ถือครองหุ้นรวมกันมูลค่า 70,933.48 ล้านบาท ลดลง 20,614.23 ล้านบาท หรือ 22.52%
อันดับ 3 ตระกูลปราสาททองโอสถ โดย 6 เครือญาติถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่า 65,049.21 ล้านบาท ลดลง 37,630.57 ล้านบาท หรือ 36.65%
อันดับ 4 ตระกูลโอสถานุเคราะห์ โดย 14 เครือญาติถือครองหุ้นรวมมูลค่า 60,231.20 ล้านบาท ลดลง 15,411.74 ล้านบาท หรือ 20.37%
อันดับ 5 ตระกูลเพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ดาวนภา-ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 58,038.71 ล้านบาท ลดลง 13,041.89 ล้านบาท หรือ 18.35%