Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เลือกตั้ง69 ชาติใดเตรียมเปิดหีบพร้อมไทยปีหน้า จับตาการเมืองโลกเปลี่ยน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เลือกตั้ง69 ชาติใดเตรียมเปิดหีบพร้อมไทยปีหน้า จับตาการเมืองโลกเปลี่ยน

12 ธ.ค. 68
12:35 น.
แชร์

หลายประเทศทั่วโลกกำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 2569 หรือในปีหน้า โดยไทยเองจะเป็นหนึ่งนั้น หลังนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศยุบสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการจัดเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งคาดการณ์กันว่า การเลือกตั้งน่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึง

Spotlight รวบรวมการเลือกตั้งของประเทศที่น่าสนใจ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้าเช่นกัน โดยผลลัพธ์ของการเลือกตั้งจากประเทศเหล่านี้ น่าจะส่งผลต่อภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังผันผวนอย่างหนัก ท่ามกลางสงคราม และการบริหารประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐฯ โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีซึ่งมีบุคลิกยากจะคาดเดา


เมียนมา

เมียนมาจะเป็นประเทศที่จะเริ่มเลือกตั้งก่อนใคร โดยการเลือกตั้งที่รัฐบาลทหารชุดนี้ประกาศขึ้น จะเริ่มตั้งแต่ห้วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า โดยมีโรดแมป (Roadmap) 6 ห้วงเวลาหลัก ได้แก่

1. การเลือกตั้งรอบแรก 28 ธันวาคม 2568

2. การเลือกตั้งรอบที่สอง 11 มกราคม 2569

3. การเลือกตั้งรอบที่สาม 25 มกราคม 2569

4. ประกาศผลเลือกตั้ง ภายใน 90 วันหลังการเลือกตั้ง

5. การเปิดประชุมรัฐสภา เดือนกุมภาพันธ์ 2569 และ

6. การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ 1 เมษายน 2569 (ตรงกับวันเริ่มต้นวงจรงบประมาณใหม่)

ทั้งนี้ จะมีการจัดเลือกตั้งครอบคลุม 267 เมือง จากทั้งหมด 330 เมือง (Township) คิดเป็น 80% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยมีพื้นที่ยกเว้นอีก 63 เมืองที่รัฐบาลทหารประเมินดูแล้วไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ลงคะแนนตามกรอบรัฐธรรมนูญ ปี 2551 ก็ไม่ได้ระบุเกณฑ์ขั้นต่ำของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ นั่นหมายความว่า แม้จะมีผู้มาลงคะแนนเพียงน้อยนิด การเลือกตั้งยังถือว่าสมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น การรณรงค์คว่ำบาตรเลือกตั้งหรือไม่ลงคะแนนเสียงของฝ่ายต่อต้านจึงไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วประเทศในวันเดียว แต่รัฐบาลเนปิดอว์ได้แบ่งเวลาเลือกตั้งออกเป็น 3 ขยัก เพื่อทยอยรวบรวมคะแนนเสียงทีละครั้งจนเบิกทางไปสู่การเปิดรัฐสภาและเลือกประธานาธิบดีในอันดับถัดไป

รัฐสภาส่วนกลางของเมียนมา มีจำนวน ส.ส. ทั้งสิ้นไม่เกิน 664 คน แบ่งเป็นสมาชิกสภาประชาชน 440 คน (มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตจาก 330 เมือง และ มาจากนายทหารที่ได้รับการคัดเลือกเสนอชื่อจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีก 110 คน) กับสมาชิกสภาชนชาติอีก 224 คน (มาจากการเลือกตั้งในรัฐและภาคทั้ง 14 แห่ง รวม 168 ที่นั่ง และมาจากนายทหารที่ถูกคัดเลือกเสนอชื่อจาก ผบ.ทสส. อีก 56 ที่นั่ง) จากโครงสร้างดังกล่าว กองทัพเมียนมาซึ่งมี ส.ส. ทหารอยู่ในสังกัดรวม 166 คน หรือ 25% ของ จำนวน ส.ส.ในสภาแห่งชาติ พร้อมมี “Connection” ต่อติดกับพรรคสหสามัคคีและการพัฒนาสหภาพ หรือ พรรค USDP (Union Solidarity and Development Party) (ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ที่โดดเด่นที่สุดในการเลือกตั้งครานี้) จึงมีโอกาสสูงที่จะเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่อันจะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลและเริ่มงานบริหารประเทศ

อิสราเอล

อิสราเอลกำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2569 โดยเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบัน ประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง และบอกด้วยว่า เขาน่าจะคว้าชัยได้สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของอิสราเอลเมื่อปี 2565 พรรคลิคุด (Likud) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาของเนทันยาฮูชนะการเลือกตั้ง 32 ที่นั่ง และเนทันยาฮูได้รับการเสนอชื่อจากสมาชิกคเนสเซต (Knesset) หรือรัฐสภาอิสราเอล จำนวน 64 คน จากทั้งหมด 120 ที่นั่ง ให้มีคุณสมบัติในการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน และเป็นผู้นำรัฐบาลผสมฝ่ายขวาจัดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม คะแนนความนิยมของเขาเริ่มลดลงในช่วงทำสงครามกาซา และตัวเขาเองก็มีคดีความที่ล่าสุด เขาเพิ่งออกมาขอให้นิรโทษกรรมตัวเอง

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐฯ กำลังจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2569 โดยจัดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้จะชิงเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 435 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอีก 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง

การเลือกตั้งกลางเทอมเช่นนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเกิดขึ้นหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ มาแล้วสองปี ก่อนที่การเลือกตั้งครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในปี 2571 อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมในตัวทรัมป์ลดลงอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Reuters และ  Ipsos จัดทำแบบสำรวจความนิยมของทรัมป์ พบว่า อยู่ในจุดต่ำที่สุด นับตั้งแต่เขาเริ่มรับตำแหน่งสมัยสองเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่เห็นด้วยกับการทำหน้าที่ของทรัมป์มีจำนวนเพิ่มขึ้น

คะแนนไม่เห็นด้วยกับทรัมป์เพิ่มขึ้นจาก 52 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็น 58 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนคะแนนเห็นด้วยยังคงอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขเดิมกับในช่วงเดือนพฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งถัดไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2571 แม้ทรัมป์จะไม่มีสิทธิลงสมัครชิงตำแหน่งแล้ว เนื่องจากดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศครบสองสมัยแล้ว แต่คะแนนความนิยมในตัวทรัมป์ที่ลดลงก็อาจจะส่งผลกระทบต่อคะแนนของพรรครีพับลิกัน และผู้ท้าชิงคนถัดไปจากพรรครีพับลิกัน

แชร์
เลือกตั้ง69 ชาติใดเตรียมเปิดหีบพร้อมไทยปีหน้า จับตาการเมืองโลกเปลี่ยน