หุ้นสหรัฐยังไงต่อ ? ประธาน Fed บอกราคาสูง แถมไม่เผยสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก
ในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุด หุ้นสหรัฐพุ่งสูงรับคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 3 ครั้งสุดท้ายของปี 2025 รวมเป็นการลด 75 bps (0.75%)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ดูจะไม่ค่อยหนุนหุ้นสหรัฐอย่างที่นักลงทุนคาดหวังสักเท่าไหร่ ซ้ำยังทำให้เกิดคำถามว่าหุ้นสหรัฐฯจะไปยังไงต่อ ยังจะปรับตัวสูงขึ้นได้หรือไม่ ? เพราะพาวเวลล์ไม่เพียงแต่ไม่ส่งสัญญาณถึงการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณว่าเส้นทางการลดดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน และเฟดกำลังเผชิญ “สถานการณ์ที่ท้าทาย”
เส้นทางการลดดอกเบี้ยยังท้าทาย
พาวเวลล์กล่าวในงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อรับฟังแนวโน้มเศรษฐกิจของหอการค้าเกรตเตอร์พรอวิเดนซ์ (Greater Providence) ประจำปี 2025 ในรัฐโรดไอแลนด์ สหรัฐอเมริกา ว่าแนวโน้มตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อกำลังเผชิญกับความเสี่ยง และย้ำมุมมองว่าผู้กำหนดนโยบายการเงินน่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
พาวเวลล์บอกว่า ความเสี่ยงระยะสั้นที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้น และความเสี่ยงด้านตลาดแรงงานที่การจ้างงานมีแนวโน้มลดลง เป็นสถานการณ์ที่ท้าทาย “ความเสี่ยงทั้งสองด้านนี้หมายความว่าไม่มีแนวทางที่ปราศจากความเสี่ยง”
คำกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวลล์สอดคล้องกับที่เขาเคยพูดในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 กันยายน หลังคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐได้ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2025 ซึ่งพาวเวลล์กล่าวในการแถลงข่าวว่า การลดดอกเบี้ยเป็น “การปรับลดเพื่อบริหารความเสี่ยง” เพื่อตอบสนองต่อสัญญาณเตือนที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงาน ซึ่งตัวเลขชี้ให้เห็นว่าการจ้างงานใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ให้สัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก
ที่สำคัญคือ ตลอดการกล่าวสุนทรพจน์ พาวเวลล์ไม่ได้ให้คำบอกใบ้หรือสัญญาณใดๆ ที่นักลงทุนอยากได้ยิน ว่าเขาจะสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งต่อไปในเดือนตุลาคมหรือไม่
ไม่เพียงแต่ไม่ได้ให้ความหวังแก่นักลงทุนเท่านั้น แต่พาวเวลล์ยังแอบทำลายความหวังโดยการกล่าวว่า เฟดควรให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้ที่มาตรการภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะนำไปสู่ผลกระทบด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวว่า การปรับขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อเร็วๆ นี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากมาตรการภาษีของทรัมป์ แต่เขาก็หวังว่าผลกระทบดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
โอเรน คลาชกิน (Oren Klachkin) นักเศรษฐศาสตร์จากเนชั่นไวด์ (Nationwide) แสดงความเห็นในบทวิเคราะห์ว่า พาวเวลล์ไม่ได้แสดงท่าทีผ่อนปรนมากเท่าที่ตลาดคาดหวัง ซึ่งสะท้อนถึงน้ำเสียงของเขาในการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เขายังคงมองว่ามาตรการภาษีจะส่งผลเป็นเพียงการปรับระดับราคาเพียงครั้งเดียว ซึ่งน่าจะทำให้เขาสามารถผ่อนคลายนโยบายต่อไปได้
ทั้งนี้ ความท้าทายสำหรับผู้กำหนดนโยบายของเฟดสะท้อนออกมาให้เห็นผ่านมุมมองที่หลากหลายของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับแนวทางที่ดีที่สุดในการปรับอัตราดอกเบี้ยในคาดการณ์รายไตรมาสซึ่งเผยแพร่หลังการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่หลายคนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่หลายคนก็เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีกเพียงครั้งเดียวในปีนี้ และยังมีบางรายที่เห็นว่าไม่ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้วในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่กำหนดไว้ 2%
มองหุ้นสหรัฐราคาสูง
นอกจากนั้น พาวเวลล์ยังแสดงความเห็นถึงสินทรัพย์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งหุ้นและตราสารหนี้เสี่ยง ว่าราคากำลังอยู่ในระดับสูงมากจริงๆ
ความเห็นนี้ของพาวเวลล์เกิดจากการที่เขาถูกถามว่า เขาและเพื่อนร่วมงานในเฟดให้ความสำคัญกับราคาสินทรัพย์ในตลาดมากน้อยเพียงใด และพวกเขายอมรับได้หรือไม่กับราคาสินทรัพย์ที่สูงขึ้น ซึ่งพาวเวลล์ตอบว่า “เราพิจารณาสภาวะทางการเงินโดยรวม และถามตัวเองว่านโยบายของเราส่งผลต่อสภาวะเหล่านั้นในแบบที่เราตั้งใจไว้หรือไม่ … แต่คุณพูดถูก ถ้าดูจากหลายๆ เกณฑ์แล้ว ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง”
“ตลาดรับฟังและติดตามเรา และประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร แล้วพวกเขาก็กำหนดราคา”
แม้ว่าพาวเวลล์จะกล่าวถึงราคาหุ้นที่สูง แต่เขาก็กล่าวว่านี่ไม่ใช่ “ช่วงเวลาที่ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินสูงขึ้น”
ทั้งนี้ หลังจากที่คำกล่าวของพาวเวลล์ถูกเผยแพร่ออกมา ราคาหุ้นสหรัฐก็ปรับตัวลงไปสู่การซื้อขายในแดนลบ และดัชนีหลักๆ ทั้ง S&P 500, Nasdaq 100 และ Dow Jones ปิดลบเล็กน้อย
อ้างอิง: Bloomberg, CNBC [1], CNBC [2]
