Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
‘เที่ยวดี มีคืน’ ลดหย่อนภาษี 20,000 บาท เที่ยวเมืองรองได้ 30,000 บาท
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

‘เที่ยวดี มีคืน’ ลดหย่อนภาษี 20,000 บาท เที่ยวเมืองรองได้ 30,000 บาท

21 ต.ค. 68
17:22 น.
แชร์

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ตุลาคม 2568 มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 5 มาตรการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ครอบคลุมทั้งมาตรการที่ให้กับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยมุ่งเน้นให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ส่งผลกระทบเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการในระยะยาว และเกิดการกระจายตัวอย่างทั่วถึง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล โดยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบด้วย 5 มาตรการ ได้แก่  

1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว

ให้บุคคลธรรมดานำค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ มาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง ดังนี้ 

  • ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) นำมาหักได้ไม่เกิน 10,000 บาท 
  • หักเพิ่มได้อีก 10,000 บาท สำหรับค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น 

สำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง ประกอบด้วยจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดและพื้นที่บางอำเภอในจังหวัด 15 จังหวัด สามารถหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า ของจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาท 

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนิติบุคคลการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ

ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดให้แก่ลูกจ้าง และค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนานั้น ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 โดยจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เว้นแต่ค่าขนส่ง จะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ต้องได้ใบรับที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) 

โดยสามารถหักรายจ่ายได้ดังนี้

  • หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง 
  • หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากพื้นที่เมืองรอง
  • ในกรณีที่การจัดอบรมสัมมนาครั้งหนึ่งๆ เกิดขึ้นในท้องที่เมืองรองและนอกเมืองรองต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใด แล้วแต่กรณี ส่วนรายจ่ายที่ไม่สามารถแยกได้ชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดให้หัก1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง 

3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (Front Load) 

ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ อปท. เร่งรัดการเบิกค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของวงเงินฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569 โดยให้พิจารณาดำเนินการในเมืองท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองเป็นลำดับแรก 

นอกจากนี้ กำหนดให้การขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดผลการปฏิบัติราชการ (Key Performance Indicator: KPI) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ (เฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามปีงบประมาณ) และ อปท. โดยขอความร่วมมือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประสาน อปท. พิจารณาจัดการอบรมสัมมนาในท้องถิ่นอื่น และให้รายงานผลการเบิกจ่ายดังกล่าวต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐต่อไป

พร้อมทั้งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าเช่าที่พักและค่าอาหารสำหรับการจัดฝึกอบรมในประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน 

4. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก

ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม สามารถหักรายจ่ายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือปรับปรุง ‘ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ’ ให้ดีขึ้น (โดยไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม) 2 เท่า ของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569 

ทั้งนี้ ‘ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ’ ประกอบด้วย  
(1) อาคารถาวรที่มีไว้ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรม 
(2) เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบและยึดติดกับอาคารตาม (1) เป็นการถาวร โดยให้หักรายจ่ายเท่าแรกเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามปกติ และทยอยหักรายจ่ายเท่าที่ 2 เป็นระยะเวลา 20 รอบระยะเวลาบัญชีในจำนวนที่เท่ากันทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้เริ่มหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน 

นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมแหล่งเงินสำหรับรองรับการปรับปรุงโรงแรมที่พัก โดยธนาคารออมสิน ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

5. มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ 

ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 5 ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 เช่น ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ เป็นต้น 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตได้บูรณาการร่วมมือกับกรมการปกครองให้นำผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิตต่อไป 

รองนายกฯ และ รมว.คลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังคาดว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ จะช่วยให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชน ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจท่องเที่ยวมีรายได้เพิ่มขึ้น จ้างงานเพิ่มขึ้น และรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ประกอบกับเกิดการลงทุนใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและมีความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการวางรากฐานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคตตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการกระตุ้นในระยะสั้น ได้ผลในระยะยาว และกระจายพื้นที่ทั่วประเทศ

แชร์
‘เที่ยวดี มีคืน’ ลดหย่อนภาษี 20,000 บาท เที่ยวเมืองรองได้ 30,000 บาท