
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ได้เรียกทูตจีนเข้าพบ หลังเกิดเหตุเครื่องบินจีนเล็งเรดาร์ล็อกเป้าใส่เครื่องบินญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายระหว่างทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่นายกฯ คนใหม่ของญี่ปุ่นออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องไต้หวัน
ด้านซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศว่า จะรับมืออย่างสงบและเฉียบขาด หลังมีการกล่าวหาว่า เครื่องบินทหารของจีนเล็งเรดาร์ล็อกเป้าใส่เครื่องบินของญี่ปุ่น ใกล้กับจังหวัดโอกินาวาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทาคาอิจิเปิดเผยเมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม 68) ว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการที่ทำได้ทั้งหมด เพื่อเสริมศักยภาพของการลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศ รวมถึงเฝ้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนทางทหารของจีนอย่างใกล้ชิด
กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เครื่องบินรบ J-15 ของจีนได้เล็งเรดาร์ล็อกเป้าใส่เครื่องบิน F-15s ของญี่ปุ่นถึงสองครั้ง คือเมื่อเวลา 16.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น และอีก 2 ชั่วโมงถัดจากนั้นของวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นย้ำว่า ไม่มีความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บเกิดขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยเหตุการณ์ในลักษณะนี้ โดยสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เครื่องบินรบจะใช้เรดาร์ของตนเพื่อระบุเป้าหมาย รวมถึงใช้ในการค้นหาและปฏิบัติการกู้ภัยด้วย
รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ชินจิโร โคะอิซุมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายและน่าเสียใจอย่างยิ่ง
ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้เรียกตัวอู๋ เจียงหาว เอกอัครราชทูตจีนประจำโตเกียว เข้ารับการชี้แจง โดยทาเคฮิโระ ฟุนาโกชิ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ได้ยื่นการประท้วงอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่เป็นอันตรายและน่าเสียใจอย่างยิ่ง
กองทัพเรือจีนเปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาของรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงอย่างแน่ชัด และขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นหยุดใส่ร้ายและป้ายสีจีนในทันที
แถลงการณ์ของกองทัพเรือจีนระบุว่า เครื่องบินจากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นกระทำการที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยทางการบิน เพราะเข้าใกล้เขตที่มีการฝึกซ้อมกันอยู่ อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการเล็งเรดาร์ใส่แต่อย่างใด
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนออกมาแนะนำให้ญี่ปุ่นหยุดความเคลื่อนไหวอันตรายที่ทำร้ายการฝึกซ้อมและการซ้อมรบทางทหารตามปกติทั่วไปขอจีน
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและจีนมีข้อพิพาทด้านอธิปไตยเหนือหมู่เกาะเซนกากุ ซึ่งจีนเรียกว่า “เตียวหยู่” เป็นเวลาเนิ่นนาน โดยเกาะดังกล่าว ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดโอกินาวาและไต้หวัน ซึ่งจีนก็อ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือไต้หวันด้วยเช่นกัน
นอกเหนือไปกว่านั้น จีนยังอ้างสิทธิ์ครอบคลุมเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ และเพิ่มการแสดงอำนาจควบคุมในบางส่วนของเส้นทางเดินเรือยุทธศาสตร์แห่งนี้ แม้ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศมีคำตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายก็ตาม