Logo site Amarintv 34HD
Logo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯ ญี่ปุ่นต่อสายทรัมป์ ถกข้อพิพาทกับจีนปมไต้หวัน สหรัฐฯ ยืนตรงไหน?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

นายกฯ ญี่ปุ่นต่อสายทรัมป์ ถกข้อพิพาทกับจีนปมไต้หวัน สหรัฐฯ ยืนตรงไหน?

25 พ.ย. 68
12:42 น.
แชร์

ต่อสายตรงคุยพันธมิตร

นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ แห่งญี่ปุ่น โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อพูดคุยถึงความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนที่กำลังอยู่ในช่วงขัดแย้งรุนแรงขณะนี้ นับเป็นการพูดคุยกันครั้งแรก ตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวว่า จะใช้กำลังทหารตอบโต้จีน หากกองทัพจีนรุกรานไต้หวัน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาและเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก และนายกฯ ญี่ปุ่นโทรหาเขาได้ตลอด อีกทั้งทรัมป์ยังได้อธิบายให้ทาคาอิจิทราบถึงสถานะล่าสุดของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเมื่อวันจันทร์ด้วย

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้แจ้งกับทรัมป์ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า แนวคิด "ไต้หวันกลับคืนสู่จีน" เป็นส่วนสำคัญในวิสัยทัศน์ของรัฐบาลปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสนทนากับผู้นำจีน ทรัมป์ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในโพสต์บน Truth Social แต่ไม่ได้กล่าวถึงการหารือเรื่องไต้หวันกับสี จิ้นผิง 

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คำตอบของนางทาคาอิจิต่อคำถามในรัฐสภาที่กล่าวปกป้องไต้หวันด้วยการใช้กำลังทหารได้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลปักกิ่ง นำมาสู่มาตรการคว่ำบาตรต่อกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางระหว่างกัน ไปจนถึงคำสั่งงดนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น แบนสื่อบันเทิงของญี่ปุ่น ไปจนถึงกองทัพทั้งสองฝ่ายเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวัน

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของตน และไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อควบคุมไต้หวัน ขณะที่รัฐบาลของเกาะไต้หวันปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ของปักกิ่งและระบุว่ามีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินอนาคตของตนได้ ด้านนายกรัฐมนตรีไต้หวัน โช จุง-ไถ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า สำหรับประชากร 23 ล้านคนของเกาะนี้ การกลับคืนสู่จีนนั้น ไม่ใช่ทางเลือก

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวไม่ได้ตอบสนองทันทีต่อคำขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการโทรศัพท์ของทรัมป์กับทาคาอิจิ Spotlight ชวนวิเคราะห์บทบาทของสหรัฐฯ ต่อข้อพิพาทครั้งนี้ 

สหรัฐฯ ยืนตรงไหนในข้อพิพาทนี้

มิโนรุ คิฮาระ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวว่า "เสถียรภาพของความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นด้วย" พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวของสี จิ้นผิง ที่มีรายงานต่อทรัมป์เกี่ยวกับไต้หวัน

เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวของสี จิ้นผิงต่อทรัมป์เกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งน่านน้ำรอบเกาะไต้หวันนับเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการค้าสินค้าและพลังงานที่รัฐบาลโตเกียวต้องพึ่งพา

ญี่ปุ่นได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และได้เริ่มดำเนินการเสริมสร้างกำลังทางทหารครั้งประวัติศาสตร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับแสนยานุภาพที่เพิ่มขึ้นและความแข็งกร้าวของรัฐบาลจีนในภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปักกิ่งได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการของกองทัพญี่ปุ่นในการติดตั้งหน่วยขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศพิสัยกลางที่เกาะโยนากูนิ ซึ่งเป็นเกาะของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด โดยเรียกการกระทำดังกล่าวว่า เป็นความพยายามสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคและยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร

แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้เข้าแทรกแซงข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและจีนเกี่ยวกับประเด็นไต้หวันโดยตรง แต่จอร์จ กลาส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่นกล่าวว่า สหรัฐฯ สนับสนุนโตเกียวในการเผชิญหน้ากับการบีบบังคับของจีน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นมีความกังวลมานานแล้วว่า ทรัมป์อาจตัดสินใจลดการสนับสนุนไต้หวันเพื่อแลกกับการทำข้อตกลงทางการค้ากับจีน ซึ่งอาจเป็นมาตรการที่ส่งเสริมให้กองทัพปักกิ่งมีความแข็งกร้าวมากขึ้น และจุดชนวนความขัดแย้งในเอเชียตะวันออก

เซโกะ มิกิมาเอะ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการทูตของสหรัฐฯ ณ มหาวิทยาลัยโดชิชะของญี่ปุ่น เขียนไว้ในบทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์อาซาฮี ระบุว่า "มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลทรัมป์อาจเสียสละประเด็นไต้หวันเพื่อแลกกับข้อตกลงทางการค้ากับจีน" เธอกล่าวเสริมว่าสำหรับญี่ปุ่นแล้ว การจะกำหนดนโยบายใด ๆ ต่อจีน จะต้องคำนึงถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นและความเสี่ยงจากท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย

ทรัมป์ยังเล่นเกมคลุมเครือ เป็นมิตรทั้งกับจีนและญี่ปุ่น

ท่าทีของทรัมป์นั้น ยังถือว่าคลุมเครือต่อประเด็นข้อพิพาทของจีนและญี่ปุ่นต่อไต้หวัน โดยเขาสงวนความคิดเห็นที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ตอบรับการสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำทั้งสองฝ่าย หลังจากที่วางสายจากสี จิ้นผิง เขาเปิดเผยว่าสหรัฐฯ ตกลงที่จะเยือนปักกิ่งในเดือนเมษายนปี 2026 และได้เชิญประธานาธิบดีจีนสีจิ้นผิงให้มาเยือนอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีหน้า

กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่า ทรัมป์และสี จิ้นผิง ซึ่งพบกันเมื่อเกือบเดือนก่อนในเกาหลีใต้ ได้หารือกันในประเด็นต่างๆ มากมาย รวมถึงการค้า การรุกรานยูเครนของรัสเซีย เฟนทานิล และไต้หวัน ขณะที่ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ระบุว่า “ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับจีนแข็งแกร่งมาก!”

ผู้นำทั้งสองได้พบกันที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ตกลงที่จะสงบศึกเรื่องภาษีศุลกากร สหรัฐฯ ตัดสินใจลดภาษี 20% ลงครึ่งหนึ่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณเฟนทานิล ขณะที่สินค้าจีนยังคงมีภาษีศุลกากรอยู่และเฉลี่ยอยู่ที่ต่ำกว่า 50% เล็กน้อย จากนั้นสหรัฐฯ ก็ถอนตัวจากการคุกคามที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 100% ต่อสินค้าจีน ในขณะที่จีนก็ชะลอแผนการที่จะแนะนำมาตรการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากรอบล่าสุด

ความเป็นมิตรที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจในสมรภูมิการค้า ทำให้ญี่ปุ่นต้องเร่งทำคะแนนกับสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรอันเหนียวแน่น และแน่นอนว่าในประเด็นข้อพิพาทเรื่องไต้หวัน ญี่ปุ่นอาจจะต้องกลับมาทบทวนนโยบายของตนอีกครั้งว่าควรแข็งกร้าวต่อไปหรือไม่


แชร์
นายกฯ ญี่ปุ่นต่อสายทรัมป์ ถกข้อพิพาทกับจีนปมไต้หวัน สหรัฐฯ ยืนตรงไหน?