
จากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชารอบใหม่ ที่ทำให้มีทหารไทยเสียชีวิต Spotlight สัมภาษณ์รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา และอาจารย์ประจำม.ธรรมศาสตร์ ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอาจารย์ชี้ว่า ทหารกัมพูชามีการปรับกำลังพลประชิดชายแดนไทยมากขึ้นมาสักระยะแล้ว ดังนั้น หากครั้งนี้ไทยต้องตอบโต้ ก็อาจจะต้องใช้วิธีโจมตีให้เลยเส้นแนวหลังเข้าไปให้ลึก เนื่องจากจุดเดิมที่ไทยเคยโจมตี กัมพูชาปรับทหารออกแล้ว
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา และอาจารย์ประจำม.ธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อีสานใต้ ในฐานะกรรมาธิการวุฒิสภา MoU 43/44 เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เริ่มพบเห็นว่าทหารกัมพูชาขยายกำลังมาที่เทือกเขาพนมดงรักมากขึ้น ทั้งในเขตอำเภอต่าง ๆ ของสุรินทร์ บุรีรัมย์และศรีสะเกษ แถวภูเขาตาควาย ปราสาทเขาพระวิหารและภูผี รวมถึงพื้นที่ขัดแย้งอื่น ๆ
เนื่องจากการปะทะกับไทยก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อน ไทยได้ใช้ระดมโจมตีเส้นแนวหลังของกัมพูชา ทำให้บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย กัมพูชาจึงแก้เกมด้วยการส่งทหารขยับเข้ามาประชิดชายแดนไทยมากขึ้น ใช้วิธีปีนเขา ไต่หน้าผาขึ้นมา บางส่วนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบริเวณดังกล่าว
ตามที่พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ระบุว่าเป้าหมายคือ กองทัพบกจะทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน รศ.ดร.ดุลยภาค ระบุว่า หากกองทัพไทยต้องการทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพทางการทหารไปอีกนาน ไทยจำเป็นต้องโจมตีทางอากาศเลยเส้นแนวหลังไปให้ลึก เพราะแนวโน้มการปะทะกันครั้งนี้ค่อนข้างมีความตึงเครียดมากขึ้น กัมพูชาไม่ได้วางทหารเช่นเดิมแล้ว
เมื่อถามว่า กัมพูชาเตรียมการมาสักพักแล้วใช่หรือไม่ ก่อนจะเปิดฉากโจมตีรอบนี้ อาจารย์ดุลยภาคมองว่า กัมพูชาพยายามแก้เกมจากครั้งก่อนที่มีการปะทะกัน จะสังเกตเห็นได้ว่า กัมพูชามีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะโดรน ซึ่งใช้สอดแนม และการปะทะกันรอบนี้ กัมพูชาก็สามารถโจมตีเป้าหมายในไทยได้แม่นยำขึ้น หมายความว่า กัมพูชาต้องวางแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ถ้าหากสถานการณ์รอบนี้จบลง ก็มีความเป็นไปได้ที่การปะทะอาจจะเกิดขึ้นอีกเป็นระยะ เพราะเจตนาของกัมพูชานั้นชัดเจน คือ การจะยึดดินแดนไทย
ส่วนเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ธันวาคม 2568) ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เขาได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมดในช่วงเวลานี้ เพื่อมาร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต นั่งบัญชาการกองกำลังติดอาวุธเพื่อรับมือกับเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้
อาจารย์ดุลยภาคมองว่า นี่ถือเป็นกลยุทธ์ของฮุน เซน ที่ต้องการสร้างภาพเป็นวีรบุรุษ เป็นสิ่งที่เรียกว่า “ประชานิยมเชิงชาตินิยม” โดยเขาต้องการความนิยมจากการเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของคนในชาติ ในการต่อสู้กับศัตรู ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเพราะฮุน เซนทำเช่นนี้มาโดยตลอด และวันนี้ก็ถือเป็นการใช้กลยุทธ์เดิมบวกกับกลยุทธ์ใหม่ ๆ เท่านั้นเอง