
รู้จัก Hardware Wallet จากคดีนานา ไรบีนา หัวใจสำคัญผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าสูง ที่ยากจะเข้าถึง แม้แต่หน่วยงาน IRS ในสหรัฐอเมริกา ยังต้องยอม
จากข่าวการบุกจับกุม นานา ไรบีนา ในคดีฉ้อโกงประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดทรัพย์สินหรูหรามากมาย หนึ่งในของกลางที่น่าจะสะดุดตาใครหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุน นั่นก็คือ Ledger Nano X ที่ภายนอกดูเหมือนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปกติชิ้นหนึ่ง แต่ทว่าสิ่งนี้คือ Hardware Wallet หัวใจสำคัญผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าสูง!
อมรินทร์ออนไลน์ พามารู้จักกับ Hardware Wallet ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงน่าสนใจในคดีของนานา ไรบีนา
ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hardware Wallet) คืออุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อจัดเก็บ Private Keys (คีย์ส่วนตัว) ที่ใช้ในการเข้าถึงและควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล
Private Key เหล่านี้เป็น หัวใจสำคัญของการเป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซี โดยทำหน้าที่เป็นเหมือนรหัสผ่านหลักที่อนุญาตให้ผู้ใช้ลงนามในธุรกรรมและโอนเหรียญได้ ซึ่งมีหลายยี่ห้อที่นิยมและมีหลายรุ่น เช่น Ledger, Trezor , SafePal , CoolWallet, OneKey, และ Keystone แต่ละยี่ห้อก็มีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไปในด้านคุณสมบัติ ความปลอดภัย และราคา เช่น Ledger Nano X ที่เน้นความปลอดภัยสูง
ผิวเผินอาจดูเหมือนเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปกติ แต่ในทางปฏิบัติ Hardware Wallet ถูกจัดประเภทเป็น Cold Wallet หรือ Cold Storage เนื่องจากคุณสมบัติหลักคือการเก็บ Private Key แยกขาดออกจากสภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยสมบูรณ์ การแยกตัวนี้ทำให้ Hardware Wallet มีความปลอดภัยสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนระยะยาวและบุคคลหรือสถาบันที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าสูง
Hardware Wallet ประกอบด้วย ตัวเครื่องที่เป็นเสมือนปราการสำคัญในการเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัล และจะมีสองสิ่งที่สำคัญในการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ภายใน นั่นคือ
ชุดรหัสข้อมูล SHA-256 (Secure Hash Algorithm 256-bit) ชุดข้อมูลตัวเลขมหาศาล ขนาดคงที่ 256 บิต (32 ไบต์) โดยมีชุดข้อมูลที่ไม่ซ้ำกันและป้องกันการย้อนกลับ เพื่อใช้ในการเข้ารหัสและตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูล ทำให้เหมาะสำหรับงานด้านความปลอดภัยหลายประเภท เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์ผ่านใบรับรอง SSL/TLS , การสร้างลายเซ็นดิจิทัล , การจัดเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัย และการยืนยันธุรกรรมในเทคโนโลยีบล็อกเชน
และจากรหัสข้อมูล SHA-256 จะถูกแปลงจากตัวเลข ไปเป็น BIP39 ให้เป็นรายการคำศัพท์ สำหรับสุ่มเลือกในการสร้าง Master Private Key ที่ถูกแปลงมาเป็นชุดคำศัพท์จำนวน 24 คำ มีได้หลายภาษาแต่ไม่ใช่ภาษาไทย สำหรับใช้ในการเข้าสู่ข้อมูลภายใน Hardware Wallet
ซึ่ง ผู้ถือรหัส Hardware Wallet ดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องจำคำศัพท์ทั้ง 24 คำให้แม่น ถูกต้องและห้ามสลับตำแหน่งโดยเด็ดขาด ซึ่งนักลงทุนเรียกรหัสเหล่านี้ว่าเป็น Seed Phrases ในการเข้าถึงหรือกู้คืนกระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto Wallet) เป็นเสมือนกุญแจหลักที่จะช่วยให้เข้าถึงและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าเงินนั้นได้ และจำเป็นมากหากอุปกรณ์สูญหายหรือลืมรหัสผ่าน แม้อุปกรณ์เครื่องเดิมสูญหายแต่หากยังจำรหัสได้ ก็สามารถใช้รหัสเข้าสู่เครื่องใหม่ได้ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการจัดการ Seed Phrase รวมถึงการป้องกันอุปกรณ์สูญหายหรือเสียหาย
เพราะแม้แต่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีทรัพยากรสูง เช่น หน่วยงานสืบสวนคดีอาญาของสรรพากรในสหรัฐอเมริกา (IRS) ยังเคยต้องออกคำขอเพื่อพัฒนาเทคนิคการเจาะ Crypto Wallet ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าระบบความปลอดภัยของ Hardware Wallet นั้นแข็งแกร่งจนเกินขีดความสามารถของเครื่องมือมาตรฐานทั่วไป
เมื่อข้อมูลธุรกรรมเข้าสู่อุปกรณ์แล้ว Private Key จะถูกเก็บไว้ภายในชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่เรียกว่า Secure Element (SE) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดเก็บข้อมูลลับที่สำคัญที่สุดของกระเป๋าเงิน นั่นคือ Private Keys และ Seed Phrases จะถูกนำมาใช้เพื่อลงนามธุรกรรมนั้นภายในสภาพแวดล้อมที่แยกขาดจากโลกภายนอก กระบวนการนี้ทำให้ Private Key ไม่เคยถูกเปิดเผยต่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเลย ตัวอุปกรณ์จะส่งกลับไปเฉพาะลายเซ็นดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งลายเซ็นนี้จะถูกส่งกลับไปยังคอมพิวเตอร์ออนไลน์เพื่อ Broadcast ไปยังเครือข่ายบล็อกเชน ทำให้ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
เคยนักวิเคราะห์มักเปรียบเทียบหลักการนี้ว่า Hardware Wallet คือ เอลฟ์ใบ้ในห้องปิดตาย ที่รับข้อมูลการทำธุรกรรม ผ่านช่องส่งผลลัพธ์ (ลายเซ็น) กลับออกมา โดยที่คีย์ส่วนตัวไม่เคยถูกนำออกจากห้องเลย
ความท้าทายในการเข้าถึง Private Key มีระดับความยากที่สูงมาก เนื่องจากชิป SE ถูกออกแบบมาเพื่อต้านทานการงัดแงะทางกายภาพ แต่อย่างไรก็ตาม Hardware Wallet เองมีความเสี่ยงที่จะสูญหาย ถูกขโมย หรือถูกทำลายทางกายภาพ เช่น ความเสียหายจากไฟไหม้หรือน้ำท่วมได้ หากอุปกรณ์เสียหายหรือสูญหาย การกู้คืนสินทรัพย์เดียวคือการใช้ Recovery Seed Phrase หรือใช้คำศัพท์ 24 คำ ที่ถูกสร้างขึ้นในระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้นในการกู้คืน และหากเจ้าของไม่เปิดปากบอกรหัส ก็ยากที่จะเข้าถึงข้อมูลภายในได้
บางคนมีการจัดการ Seed Phrase ด้วยการเขียนหรือบันทึกลงบนทนทาน เช่น แผ่นโลหะ หรืออะลูมิเนียม เพื่อป้องกันความเสียหายทางกายภาพ เนื่องจากการเก็บข้อมมูลผ่านไฟล์ดิจิทัล ถ่ายรูป หรือเก็บไว้ในคลาวด์ มีความเสียงที่จะสูบหายหรือโดนขโมยข้อมูลได้ง่าย
ด้วยเหตุนี้ Hardware Wallet จึงมอบความปลอดภัยทางเศรษฐศาสตร์ให้กับนักลงทุนส่วนใหญ่ ในมุมนักลงทุนทั่วไปที่ลงทุนอย่างใสสะอาด Hardware Wallet คือเครื่องมือป้องกันทรัพย์สินที่สำคัญยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันสิ่งนี้กลายเป็นเสมือนช่องโหว่ใหญ่ที่ยากจะตรวจสอบในกลุ่มสีเทา ที่สะสมความมั่งคั่งไว้ในเครื่องมือเล็กๆ ที่ยากจะตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตามการยึดฮาร์ดแวร์วอลเล็ตได้อาจจะไม่มีประโยชน์ใดๆ หากไม่ได้ Private Key หรือตัวเจ้าของได้มอบ Private Key ให้ผู้อื่นไปก่อนแล้ว ซึ่งก็จะทำให้สามารถถ่ายเททรัพย์สินดิจิทัลไปได้
Advertisement