
เปิดคุณประโยชน์ "เมล็ดเจีย" เม็ดเล็กมหัศจรรย์ ช่วยลดคอเลสเตอรอลร้าย (LDL) และปกป้องหัวใจของคุณ ต้องกินแบบไหนถึงดีกับสุขภาพ
เมล็ดเจีย ชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Salvia hispanica L. มีต้นกำเนิดมาจากพืชล้มลุกฤดูร้อนที่อยู่ในวงศ์ Lamiaceae (สะระแหน่) มีประโยชน์โดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องคุณค่าทางโภชนาการที่ได้มาตรฐาน
เมล็ดเจียมีความหลากหลายทางโภชนาการและมีปริมาณใยอาหารที่ละลายน้ำได้สูง เมื่อนำไปแช่ในสารละลายของเหลว เมล็ดเจียจะก่อตัวเป็นชั้นเจล ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและความเหนียวนุ่มให้กับอาหารหลากหลายชนิด ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์แค่ต่อการย่อยอาหารและการดูดซึมส่วนประกอบบางส่วนของอาหารที่เรากิน แต่เม็ดเล็กๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีนี้ ยังมีประโยชน์อย่างมากกับสุขภาพหัวใจของคนเรา
มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าเมล็ดเจียอาจช่วยลดความดันโลหิต คอเลสเตอรอล และระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ ผลการวิจัยพบว่าระดับไตรกลีเซอไรด์ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในกลุ่มที่ได้รับเมล็ดเจียในปริมาณสูงและปริมาณต่ำ โดยมีค่าความแตกต่างของค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (WMD) อยู่ที่ -8.69 มก./ดล. และ -13.11 มก./ดล. ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังพบการลดลงของระดับ LDL-C อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มที่ได้รับเมล็ดเจียในปริมาณสูง โดยมีค่า WMD อยู่ที่ -4.77 มก./ดล. ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าความดันโลหิตซิสโตลิก (-2.78 มม.ปรอท) จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่ก็พบได้เฉพาะในกลุ่มที่ได้รับเมล็ดเจียในปริมาณสูงเท่านั้น ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการเสริมเมล็ดเจียอาจส่งผลดีต่อภาวะไขมันในเลือดสูงความดันโลหิตสูง และน้ำหนักตัว และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้
1. มีไฟเบอร์สูง
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้สูง ซึ่งอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ เมื่อนำไปแช่ในสารละลายของเหลว เมล็ดเจียจะก่อตัวเป็นชั้นเจลหรือที่เรียกว่าเมือก ซึ่งสามารถช่วยในการกำจัดคอเลสเตอรอลผ่านทางเดินอาหารได้
2. อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ
เมล็ดเจียมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) หรือที่รู้จักกันในชื่อ คอเลสเตอรอลดี เมล็ดเจียยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกัน LDL หรือคอเลสเตอรอลไม่ดี ไม่ให้ถูกออกซิไดซ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพหัวใจ
LDL ที่ถูกออกซิไดซ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดคราบพลัคในหลอดเลือดแดงซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
3. อาจช่วยลดการอักเสบได้
กรดอัลฟา-ไลโนเลนิก (ALA) ซึ่งเป็นโอเมก้า 3 จากพืชที่พบในเมล็ดเจีย ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและทั่วร่างกาย
มื้อเช้า ช่วยให้อิ่มและลดความอยากอาหาร
การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเมล็ดเจียอาจช่วยสร้างสมดุลและความอยากอาหารของคุณได้ การเติมเมล็ดเจียลงในอาหารเช้า เช่น ในสมูทตี้ ข้าวโอ๊ต โยเกิร์ต หรือพุดดิ้งเจีย จะช่วยเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในตอนเช้า ช่วยให้คุณอิ่มและรู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดความถี่ในการอยากทานอาหารว่างที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้
มื้อเที่ยง ช่วยเอาชนะความหิวจุกจิกในตอนบ่าย
เมล็ดเจียเป็นของว่างยามบ่ายที่ช่วยให้อิ่มท้องเมื่อรู้สึกหิว สามารถทำเมนูง่ายๆ อย่างน้ำเมล็ด ที่บีบน้ำมะนาวเพิ่มลงไปเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและไฟเบอร์ให้กับวันของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นของว่าง เช่น พุดดิ้งเมล็ดเจีย จะช่วยบรรเทาอาการอยากอาหารและป้องกันการจุกจิกโดยไม่ตั้งใจได้
มื้อเย็นก่อนนอน ทานเพื่อช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด
การรับประทานอาหารดึกไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามอาหารว่างที่มีไฟเบอร์สูง เช่น การรับประทานพุดดิ้งเจียหลังอาหารเย็น อาจช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ตลอดคืน ความสมดุลนี้ช่วยลดความอยากอาหารในตอนกลางคืนและส่งเสริมการเผาผลาญโดยรวม
แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการรับประทานไฟเบอร์มากนัก เมล็ดเจียอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องในช่วงแรก จึงควรเริ่มต้นด้วยปริมาณเล็กน้อยและดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อช่วยป้องกันอาการท้องผูก
Advertisement