
วัยทำงานต้องระวัง "โรคหัวใจและหลอดเลือด" ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนอายุน้อยลงเรื่อยๆ ลดความเสี่ยงได้แค่ปรับพฤติกรรม ในชีวิตประจำวัน
คนวัยทำงานที่อายุยังน้อย กลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยด้วยปัญหาสุขภาพมากขึ้น มีหลายโรคที่คุกคามชีวิตคนทำงาน หนึ่งในนั้นคือ โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจวาย เกิดจากไขมันและคราบพลัคสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลงและเลือดไหลเวียนได้น้อย
อาการที่พบบ่อย ได้แก่ เจ็บแน่นหน้าอก ปวดร้าวไปที่แขนหรือกราม หายใจลำบาก เหงื่อออกมาก และอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น ใจสั่น หน้ามืด
ข้อมูลจากสมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation, WHF) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก ทั่วโลกพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 20.5 ล้านคนต่อปี และร้อยละ 85 ของการเสียชีวิตเกิดจากอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง
หมอเจด นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา แนะวัยทำงานโดยเฉพาะในวัย 30–50 ปี ต้องระวัง เพราะหลายคนละเลยในการดูแลตัวเอง บวกกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ความเครียดจากการทำงาน อาจทำให้เสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้โดยไม่รู้ตัว
หัวใจของเราทำงานไม่เคยหยุด แต่ในช่วงวัยทำงาน หลายคนกลับละเลยการดูแลหัวใจโดยไม่รู้ตัว ชีวิตที่เร่งรีบ เครียด นอนดึก กินตามใจปาก หรือขาดการออกกำลังกาย
ทั้งหมดนี้ค่อย ๆ ทำให้หัวใจและหลอดเลือดเสื่อมเร็วกว่าที่คิด และเป็นเหตุผลที่ทำให้โรคหัวใจและหลอดเลือดกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยเฉพาะในวัย 30–50 ปี
ข่าวดีคือ เราสามารถลดความเสี่ยงได้มากกว่า 80% เพียงแค่ปรับพฤติกรรมง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันตามนี้ครับ
อาหารเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญของไขมันเลว (LDL) และภาวะหลอดเลือดอักเสบ โดยเฉพาะของทอดจากน้ำมันซ้ำ อาหารแปรรูป และเนื้อแดงติดมัน คนที่กินอาหารทอดมากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงโรคหัวใจสูงขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับคนที่กินน้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเปลี่ยนจากของทอดเป็นเมนูต้ม นึ่ง หรือผัดน้ำมันน้อยๆ ก็ช่วยลดภาระหัวใจได้มากครับ
หัวใจชอบ “การเคลื่อนไหว” มากกว่าการอยู่นิ่ง การเดินเร็ว 30 นาทีช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดไขมันในเลือด ผู้ที่เดินเร็วสม่ำเสมอมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจลดลงถึง 24% เมื่อเทียบกับกลุ่มไม่ออกกำลังกาย ไม่ต้องวิ่งหรือเข้าฟิตเนสก็ได้ครับ แค่เดินไปตลาด ขึ้นบันไดแทนลิฟต์ หรือเดินรอบบ้านหลังอาหารเย็น ก็ถือว่าเริ่มต้นได้แล้ว
การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและความดันสูง คนที่นอนน้อยเรื้อรัง มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดสูงขึ้น 20% และมีความดันเฉลี่ยสูงกว่า 10–15 มม.ปรอท นอกจากนี้ความเครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ความดันสูง และเกิดการอักเสบในหลอดเลือด เพราะฉะนั้น “การนอนให้พอ และการพักใจให้เย็น” สำคัญพอ ๆ กับการออกกำลังกายเลยครับ
โรคหัวใจส่วนใหญ่ “ไม่มีอาการในระยะแรก” แต่ไขมันและความดันอาจค่อยๆ สูงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ หมอแนะนำให้ตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะค่า
- LDL, HDL, Triglyceride
- Fasting Glucose / HbA1c
- ความดันโลหิต
รู้ก่อน ป้องกันได้ก่อน เพราะหัวใจที่แข็งแรงเริ่มจาก “การไม่ประมาท” ครับ
ไขมันดี (Omega-3) เป็นสารอาหารที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่มีบทบาทสำคัญในการ “ลดการอักเสบของหลอดเลือด” ลดไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มไขมันดี (HDL) ที่ช่วยปกป้องหัวใจ คนที่ได้รับกรดไขมัน EPA 4 กรัมต่อวัน มีความเสี่ยงหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดตีบลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมแหล่งที่ดีของโอเมก้า-3 คือ ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน น้ำมันปลา หรือเมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัทสำหรับคนที่ไม่กินปลา เพียงเพิ่มในมื้ออาหารสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง ก็ช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้จริงครับ
เพราะหัวใจของเราไม่เคยหยุดเต้นแม้แต่วินาทีเดียว สิ่งที่เราทำได้คือ “อย่าทำให้มันต้องทำงานหนักเกินไป”
เริ่มจากสิ่งง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวัน ลดของทอด เคลื่อนไหวให้มากขึ้น นอนให้พอ ตรวจสุขภาพ และกินอาหารที่ดีต่อหัวใจ เพราะสุขภาพหัวใจดีไม่ได้เกิดจากโชคครับ แต่เกิดจาก “การดูแลอย่างสม่ำเสมอ”
ที่มา : หมอเจด , กรมควบคุมโรค
Advertisement