Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ผู้นำแคเมอรูนวัย 92 ไม่ยอมวางมือ ปชช. ชี้ทุจริตลุกประท้วงใหญ่อีกครั้ง
โดย : ณัฏฐณิชา ภู่คล้าย

ผู้นำแคเมอรูนวัย 92 ไม่ยอมวางมือ ปชช. ชี้ทุจริตลุกประท้วงใหญ่อีกครั้ง

28 ต.ค. 68
12:09 น.
แชร์

เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2025 พอล บียา (Paul Biya) นักการเมืองวัย 92 ปีชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีแคเมอรูนเป็นสมัยที่ 8 ชัยชนะของเขาปลุกให้เกิดการลุกฮือในหมู่ประชาชน และเกิดการปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุนฝ่ายค้านและกองกำลังความมั่นคง อ้างว่าผลการเลือกตั้งทุจริต

ผลการเลือกตั้งที่คนกังขา

การเลือกตั้งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการคาดการณ์จาก Al Jazeera เอาไว้ว่า บียาน่าจะชนะการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศเจ้านี้ยังชี้ถึงเสียงตั้งคำถามจากประชาชนแคเมอรูนว่า อาจมีการทุจริตผลการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า บียาจะขยายเวลาการบริหารงานออกไปอีก 7 ปี หรือจนกว่าเขาจะอายุครบ 100 ปี 

อิสสา ชิโรมา บาคารี (Issa Tchiroma Bakary) ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอ้างว่า ตนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งตัวจริงด้วยคะแนนโหวตกว่า 54.8% หากแต่ประธานาธิบดีวัย 92 ปีนั้นทุจริตการเลือกตั้ง จึงเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาเดินขบวนอย่างสันติเพื่อประกาศชัยชนะ และ “ปล่อยแคเมอรูนให้เป็นอิสระ”

ผู้พิพากษาในสภารัฐธรรมนูญปฏิเสธคำอ้างของชิโรมา กล่าวว่า มีหลักฐานไม่เพียงพอชี้ว่าการเลือกตั้งมีการทุจริต อย่างไรก็ตาม ชิโรมาเองก็ไม่ยอมรับคำตัดสินของสภาฯ ซึ่งผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งจากบียาเอง และชิโรมายังประกาศตนว่า เป็น “ประธานาธิบดีผู้ชอบธรรมตามกฎหมาย”

แก๊สน้ำตา น้ำแรงดันสูง ผู้ชุมนุมตายแล้ว 4 ราย

ในกรุงดูอาลา เมืองท่าขนาดใหญ่ที่สุดของแคเมอรูน ผู้สนับสนุนชิโรมาหลายร้อยคนรวมตัวกันในหลายเมืองหลังผู้ท้าชิงเรียกร้องให้พวกเขาออกมาชุมนุมอย่างสันติ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการกรุงดูอาลา ดิเออโดเน่ ดิบูอา (Dieudonné Diboua) กล่าวว่า ผู้ชุมนุมฝ่ายชิโรมาโจมตีกองบังคับการตำรวจภูธร และสถานีตำรวจใน 2 เขตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงและผู้ชุมนุม 

การปะทะดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย แต่ผู้ว่าการระบุว่า กองกำลังฯ ทำไปเพื่อป้องกันตัว และมีเจ้าหน้าที่หลายรายบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งยังกล่าวว่า การประท้วงครั้งนี้เป็น “การกระทำรุนแรงโดยเจตนา”

ณ ฐานที่ตั้งของชิโรมา ในเมืองการัว (Garoua) ทางเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฉีดแก๊สน้ำตาและน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สถานการณ์การชุมนุมรุนแรงขึ้น ภาพวิดีโอจากกรุงดูอาลาฉายภาพผู้สนับสนุนฝ่ายค้านปิดถนนด้วยการเผายางให้ลุกไหม้ ใช้ไม้และหินเป็นอาวุธ พร้อมเดินประท้วงผลการเลือกตั้งที่บียาชนะ เจ้าหน้าที่สั่งห้ามการรวมตัวกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา 

ผู้ชุมนุมบางรายถือป้ายเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือ และย้ำว่าจะไม่ยอมรับ “ชัยชนะที่ขโมยมา”

รู้จักพอล บียา ทำอย่างไรครองอำนาจมาได้ 7 สมัย

พอล บียา เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1933 ในเมืองมโวเมกาอา ทางใต้ของแคเมอรูน เขาจบการศึกษาด้านกฎหมายสาธารณะจากสถาบันการศึกษาโพ้นทะเลในฝรั่งเศส

เขาเริ่มมีชื่อเสียงในสมัยประธานาธิบดีอาห์มาดู อาฮิดโจ ประธานาธิบดีคนแรกของแคเมอรูน (ดำรงตำแหน่ง 1960-1982) จากการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติในเดือนมกราคม ปี 1964 และต่อมาได้เป็นเลขาธิการใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติในเดือนกรกฎาคม ปี 1965

เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานประธานาธิบดีฝ่ายพลเรือน ในเดือนธันวาคม 1967 และเป็นเลขาธิการใหญ่ประธานาธิบดี (ในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายพลเรือน) ในเดือนมกราคม 1968 และในปี 1970 เขาได้รับตำแหน่ง “รัฐมนตรีแห่งรัฐ” ในขณะที่ก็ยังคงเป็น “เลขาธิการใหญ่ประธานาธิบดี”

ปี 1972 ประธานาธิบดีอาฮิดโจแต่งตั้งเขาเป็นนายกรัฐมนตรี และในปี 1979 ได้มีการปรับกฎหมายให้ “รัฐมนตรีเป็นผู้สืบทอดรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดี” เมื่ออดีตประธานาธิบดีอาฮิดโจประกาศวางมือในปี 1982 จากปัญหาสุขภาพ บียาก็รับช่วงต่อทันที

อาฮิดโจยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค Cameroon People's Democratic Movement (CPDM) หรือที่ขณะนั้นเรียกว่า Caemroon National Union (CNU) อยู่ และยังคงแสดงออกว่าสนับสนุนบียา ในขณะที่บียาก็ยังแสดงความภักดีต่ออาฮิดโจในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม เพียง 1 ปีหลังบียารับตำแหน่ง ในปี 1983 อาฮิดโจต้องลี้ภัยไปฝรั่งเศส หลังกล่าวหาว่าบียาใช้อำนาจในทางมิชอบ และกังวลว่าบียาจะมุ่งร้ายต่อเขา

บียาชนะการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1984 ด้วยคะแนนโหวตกว่า 99.98% และอาฮิดโจถูกนำตัวขึ้นศาลด้วยข้อหาพยายามก่อรัฐประหารในปี 1983  พร้อมผู้ต้องหาอีก 2 คน ทั้งหมดถูกตัดสินประหารชีวิต แต่บียาลดโทษให้เป็นการจำคุกตลอดชีวิต 

ภายใต้การปกครองของบียา แคเมอรูนนำแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่เสนอโดย World Bank และ International Monetary Fund มาใช้ มีการแปรรูปกิจการรัฐ การเปิดเสรีแข่งขัน และการลดงบประมาณสังคม เงินเดือนของข้าราชการถูกลดลง ร้อยละ 60 

บิยาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 1988 (ตั้งแต่ปี 1970-1988 เป็นการเลือกตั้งแบบพรรคเดียว) และปี 1992 ด้วยผลโหวต 40% หลังเขาปรับกฎหมายเปิดระบบการปดครองให้พรรคฝ่ายค้านถูกกฎหมายได้ ผลโหวตครั้งนั้นถูกกล่าวหาโดยผู้ท้าชิง จอห์น ฟรุนดี ซึ่งได้คะแนนโหวต 36% ว่ามีการทุจริตเช่นกัน

ปี 1997 เขาชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน 92.6% หลังคว่ำบาตรพรรคฝ่ายค้าน 3 พรรคหลัก 2004 เขาชนะการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีวาระดำรงตำแหน่ง 7 ปีอีกครั้ง ด้วยคะแนน 70.92% และก็เป็นอีกครั้งที่ฝ่ายค้านอ้างว่ามีการทุจริต

แม้ว่าตามรัฐธรรมปี 1996 แล้ว เขาจะหมดสิทธิการลงแข่งขันเพราะดำรงตำแหน่งมาครบ 2 วาระ แต่บียากลับแก้ปัญหาด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่า “ไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าจะจำกัดตัวเลือกของประชาชน” หลังจากนั้นมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2008 ตามมาด้วยการจลาจล และการปราบปราม มีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นนับร้อยคน และคนอีกนับพันถูกจับ

ครบ 7 ปีหลังการเลือกตั้งปี 2004 ในปี 2011 บียาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งด้วยคะแนน 77.9% ตามมาด้วยการกล่าวหาว่ามีการทุจริตอีกครั้ง และต่อมาในปี 2018 เขาชนะเลือกตั้งได้ หลังให้คำสัญญาว่าจะเพิ่มการจ้างงานให้คนหนุ่มสาว จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งล่าสุดในเดือนตุลาคมนี้

การปกครองของบียาแม้จะครองอำนาจมาอย่างยาวนาน แต่ก็เป็นที่กังขาของคนในประเทศ เห็นได้จากการต่อต้านและลุกฮือหลายครั้ง แต่รายงานระบุว่า แท้จริงแล้ว บียาได้รับการสนับสนุนฝรั่งเศส อดีตชาติเจ้าอาณานิคมของแคเมอรูน ผ่านการสนับสนุนอาวุธให้กองทัพแคเมอรูน และในฐานะผู้ลงทุนรายหลักในแคเมอรูน หลายคนวิจารณ์การกระทำของฝรั่งเศสว่า กำลังทำ “อาณานิคมสมัยใหม่” ในประเทศแอฟริกาประเทศนี้

ปัญหาแคเมอรูน

นอกจากปัญหาการครองอำนาจทางการเมืองของบียาที่กระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งหลายครั้ง แคเมอรูนยังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน แม้ว่าอัตราการว่างงานรวมจะลดลงจาก 3.6% ในปี 2023 เป็น 3.5% ในปี 2024 แต่ในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-35 ปี กลับมีอัตราการว่างงานกว่า 39% (ปี 2023)

ประชากรแคเมอรูนส่วนมากเป็นคนวัยเยาว์ กว่า 60% ของประชากรมีอายุน้อยกว่า 25 ปี อย่างไรก็ตาม พวกเขาจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการจ้างงานที่มีคุณภาพและการตัดสินใจในเวทีการเมืองได้ นอกจากการเรียกร้องและลุกฮือของคนหนุ่มสาว และพบว่า มีบัณฑิตกว่า 12,000 คนที่จบการศึกษาในปี 2024 เดินทางออกนอกประเทศ

แม้ว่า GDP ประเทศจะเพิ่มขึ้น 3.5% ในปีก่อน เพราะราคาเมล็ดโกโก้และฝ้ายที่เพิ่มขึ้น แต่แคเมอรูนยังคงมีอัตราความยากจนสูง (ต่ำกว่าเกณฑ์สากล 38% ในปี 2022) ชาวแคเมอรูนกว่า 4 ใน 10 ใช้ชีวิตอยู่ใต้เส้นความยากจนของประเทศ พวกเขายังคงขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่ อย่างไฟฟ้า น้ำประปา สุขาภิบาล และการโทรคมนาคม รวมถึงปัญหาการก่อการร้ายทางเหนือและตะวันตกของประเทศ และหนี้สาธารณะกว่า 70% เป็นหนี้ต่างประเทศ


แชร์
ผู้นำแคเมอรูนวัย 92 ไม่ยอมวางมือ ปชช. ชี้ทุจริตลุกประท้วงใหญ่อีกครั้ง