Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
TRUE จ่อปันผลครั้งแรกหลังควบรวม กำไรเพิ่ม หนี้ลด คลื่นใหม่ช่วยลดต้นทุน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

TRUE จ่อปันผลครั้งแรกหลังควบรวม กำไรเพิ่ม หนี้ลด คลื่นใหม่ช่วยลดต้นทุน

7 ส.ค. 68
19:19 น.
แชร์

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศความพร้อมพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ควบรวมกิจการกับ DTAC โดยจะเป็นการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นจากผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทคือการจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท

นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน ของ TRUE เผยว่า การพิจารณาจ่ายปันผลในช่วงปลายปีจะอิงจากผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนแรก ซึ่งจะสะท้อนภาพรวมผลประกอบการของบริษัทและ ย้ำว่า หากผลประกอบการสอดคล้องตามเป้า การจ่ายเงินปันผลก็จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้บริษัท TRUE โฉมใหม่ที่เกิดจากการรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC

กำไรสุทธิและ EBITDA โตแรงจากผลของคลื่นความถี่ใหม่

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันผลประกอบการของ TRUE ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การได้รับสิทธิใช้งานคลื่นความถี่ใหม่ คือ คลื่น 2300 MHz และ 1500 MHz ซึ่งเข้ามาแทนที่การใช้งานคลื่น 850 MHz ที่เคยใช้ร่วมกับ NT ในรูปแบบโรมมิ่ง ส่งผลให้บริษัทสามารถลดต้นทุนได้รวม 5.3 พันล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นการลดค่าเช่าโรมมิ่งคลื่น 850 MHz ราว 2.5 พันล้านบาท และลดต้นทุนเครือข่ายจากคลื่นใหม่อีกราว 2.8 พันล้านบาท

นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านจากข้อตกลงโรมมิ่งมาเป็นการถือครองสินทรัพย์ถาวร ยังช่วยให้ TRUE ปรับค่าใช้จ่ายจากต้นทุนการดำเนินงาน ไปเป็นค่าใช้จ่ายลงทุน (CapEx) ส่งผลให้ EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินว่าหากคิดทั้งปี EBITDA จะเพิ่มขึ้น 7.1 พันล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.3 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคลื่นใหม่เริ่มมีผลในเดือนสิงหาคม 2568 ตัวเลขดังกล่าวจะสะท้อนผลเฉพาะช่วงเวลา 5 เดือนสุดท้ายของปี หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5 ใน 12 ของผลประโยชน์เต็มปี

ทั้งนี้ TRUE จะสามารถใช้ประโยชน์จากคลื่นใหม่ได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 15 ปี ซึ่งจะสนับสนุนการขยายเครือข่าย 5G ของบริษัทให้มีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นในระยะยาว

เดินหน้าลดหนี้ สร้างเสถียรภาพการเงินระยะยาว

ในด้านโครงสร้างทุน TRUE ยังคงเดินหน้าลดหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดหนี้ลงได้ถึง 33,000 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ลดลงจากระดับ 5.7 เท่า ณ ช่วงควบรวมกิจการ เหลือเพียงประมาณ 4.0 เท่าในปัจจุบัน และบริษัทตั้งเป้าว่าในปี 2568 จะรักษาอัตรานี้ให้อยู่ต่ำกว่า 4.1 เท่า พร้อมตั้งเป้าหมายระยะยาวว่าจะลดลงเหลือเพียง 3.2 เท่าภายในปี 2570

แนวทางการลดหนี้ของ TRUE อาศัยการใช้กระแสเงินสดอิสระที่บริษัทเริ่มสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นตามที่คุณซิกเว่ เบรกเก้ ได้เคยกล่าวไว้ พร้อมกับการนำกระแสเงินสดมาลดภาระหนี้สินของบริษัท

อีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายการลดหนี้ก็คือการเติบโตของ EBITDA จากผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสด และลดค่าใช้จ่ายด้านการเช่าเครือข่าย เนื่องจากบริษัทกำลังดำเนินการปรับปรุงเครือข่าย ลดจำนวนเสาสัญญาณ และเมื่อโครงการปรับปรุงแล้วเสร็จ ค่าใช้จ่ายด้าน CapEx ก็จะลดลงตามไปด้วย

องค์ประกอบทั้งหมดนี้จะช่วยให้ TRUE มีงบดุลที่แข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น และส่งเสริมให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทดีขึ้นอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินระยะยาวของบริษัท

ทุ่มงบ 3 หมื่นล้านบาทปรับโครงข่ายทั่วประเทศ หวังขยายฐานลูกค้าเน็ตบ้าน

สำหรับปี 2568 บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) คาดรายได้จากการให้บริการจะเติบโต 0-1% ส่วน EBITDA โต 7-8% พร้อมเดินหน้าทุ่มงบลงทุน 30,000 ล้านบาท คิดเป็น 16% ของรายได้รวม เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายทั่วประเทศ รองรับการเติบโตของบริการดิจิทัลและการขยายฐานลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้านให้ครอบคลุมกว่า 21 ล้านครัวเรือนทั่วไทยในระยะเวลา 6 ปี โดยมีเป้าหมายลดสัดส่วน CapEx ให้เหลือ 13-14% ของรายได้ในอนาคต

หนึ่งในโครงการสำคัญคือ “One Network” ซึ่งเป็นการรวมเครือข่าย 5G และ 4G เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความครอบคลุมของโครงข่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนปีนี้

TRUE เพิ่งได้รับคลื่นความถี่ 2.3 GHz เพิ่มอีก 10 MHz จากเดิมที่มีอยู่ 60 MHz เป็น 70 MHz หรือเพิ่มขึ้น 17% ส่งผลให้ศักยภาพในการให้บริการ 4G และพื้นที่รองรับ 5G เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน ลูกค้าจะสามารถใช้งานดาต้าได้มากขึ้นโดยไม่สะดุดหรือถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดของเครือข่าย ทั้งยังยกระดับสถานะของ TRUE ให้เป็นผู้นำด้านบริการ 4G และ 5G

ควบคู่กันนั้น TRUE ยังเดินหน้าปรับโครงสร้างการใช้งานคลื่น 2600 MHz ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) เพื่อเปิดให้บริการ 5G บนสถานีฐานทุกแห่งที่ใช้คลื่นนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการให้บริการ 5G ได้ถึง 2.5 เท่า ทั้งยังเสริมความเร็วในฝั่งของ 4G ไปพร้อมกัน โดยประสิทธิภาพเครือข่ายที่เปลี่ยนแปลงไปนี้จะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนในช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคมปีนี้

นอกจากนี้ TRUE ยังเข้าร่วมการประมูลและคว้าคลื่น 1500 MHz ซึ่งเป็นคลื่นเชิงกลยุทธ์ที่มือถือรุ่นใหม่จำนวนมาก รวมถึง Samsung Galaxy ทุกรุ่น รองรับอยู่แล้ว การมีคลื่นนี้ในครอบครองจะช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการ 5G ได้เร็วขึ้นและขยายพื้นที่ครอบคลุมเครือข่ายได้กว้างขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต

นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม TRUE กล่าวว่า “คลื่นความถี่ทั้งสามย่านนี้ คือ 2.3, 2.6 และ 1.5 GHz จะเป็นตัวขับเคลื่อนศักยภาพเครือข่ายของทรูให้ ‘เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน’ ภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า และมั่นใจว่าเครือข่าย TRUE จะสามารถแข่งขันได้อย่างแท้จริง”

ในด้านบริการลูกค้า TRUE เร่งขยายการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยปัจจุบันมีแอปหลัก 3 ตัว ได้แก่ แอปร้านค้าตัวแทน, แอป TrueMoney และแอปลูกค้า ซึ่งสามารถรองรับบริการได้ครบถ้วนโดยไม่ต้องโทรหาคอลเซ็นเตอร์หรือไปที่ร้านอีกต่อไป แอปใหม่นี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ และเพียงไม่กี่เดือนต่อมา มีธุรกรรมลูกค้า 19% ที่เปลี่ยนผ่านมาบนแอปแล้ว เป้าหมายภายในสิ้นปีคือเพิ่มเป็น 30% ของธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการให้บริการอย่างมาก พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม

TRUE ยังมุ่งพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย โดยอยู่ระหว่างการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่เน้น “ความน่าเชื่อถือ” ควบคู่กับการปรับวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับแบรนด์ใหม่ ไม่เพียงแค่ให้แบรนด์สะท้อนวัฒนธรรมองค์กร แต่ให้วัฒนธรรมภายในสะท้อนคุณค่าของแบรนด์เช่นกัน

ในแง่โครงสร้างองค์กร บริษัทดำเนินการลดความซับซ้อนของระบบบริหารด้วยการปรับให้โครงสร้าง “แบน” ลง เพิ่มความคล่องตัว พร้อมผลักดันการใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการต่าง ๆ และปรับสู่รูปแบบการทำงานที่พร้อมรับอนาคต (Future-proof Way of Work) โดยเน้นความรับผิดชอบแบบ End-to-End และการทำงานร่วมกันเป็นทีม

TRUE ยังเดินหน้าเสริมทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้กับพนักงาน โดยตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นปีนี้ พนักงาน 60% จากทั้งหมด 10,000 คน จะมีความรู้พื้นฐานด้าน AI, อีก 30% ผ่านการอบรมเชิงลึก และอีก 10% จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ส่งผลให้พนักงานทั้งหมดได้รับการฝึกอบรมเรื่อง AI และพร้อมต่อยอดสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า

“เราเชื่อว่าการจัดการ AI ไม่ใช่แค่การจ้างคนใหม่ แต่ต้องสร้างความเข้าใจให้คนของเราว่า AI คืออะไร ใช้อย่างไร และสามารถนำมาใช้ในงานประจำวันได้จริง นี่คือเส้นทางสู่ความเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างมีประสิทธิภาพ” นายเบรกเก้กล่าว

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการเดินทางของ TRUE สู่การเป็น Customer Champion อย่างแท้จริง ผ่านการยกระดับเครือข่าย พัฒนาแอปพลิเคชัน บริการดิจิทัล และการปฏิรูประบบภายในองค์กร

แชร์
TRUE จ่อปันผลครั้งแรกหลังควบรวม กำไรเพิ่ม หนี้ลด คลื่นใหม่ช่วยลดต้นทุน