เดือนเมษายน 2568 ประเทศไทยเผชิญกับปรากฏการณ์ “เงินเฟ้อติดลบ” หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ลดลง - 0.22% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน แต่กระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันว่า “ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด” แล้วอะไรคือเหตุผล?
ก่อนอื่นมาดูสาเหตุของการลดลงของอัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีข้อมูลว่า มีสาเหตุหลักจาก
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าสินค้าทุกอย่างจะถูกลง ในทางกลับกันยังมีสินค้าบางกลุ่มที่ราคาสูงขึ้น เช่น
แม้เงินเฟ้อจะติดลบ แต่กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า ยังไม่ใช่ภาวะเงินฝืด (Deflation) ด้วยเหตุผลคือ
แม้เมษายนจะเงินเฟ้อติดลบ แต่ กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ +0.8% โดยมีปัจจัยหนุนและเสี่ยง ดังนี้
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคม 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือนเมษายน 2568 และ มีแนวโน้มจะติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
ส่วนมุมมองของหลายสำนักคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2568 ไว้ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ 0.5 -1.0%
แม้ตัวเลขจะสะท้อนว่า “ราคาสินค้าโดยรวมลดลง” แต่เศรษฐกิจไทยยังไม่แสดงอาการที่เป็น “เงินฝืด” อย่างแท้จริง เช่น ความต้องการบริโภคลดลงเป็นวงกว้าง การเลิกจ้าง หรือการชะลอจับจ่ายใช้สอยจากประชาชน
ในระยะสั้น ผู้บริโภคอาจได้ประโยชน์จากราคาสินค้าบางกลุ่มที่ลดลง แต่ในระยะยาว หากราคาสินค้าต่ำเกินไป อาจกระทบรายได้ของผู้ผลิตและภาคธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลและนักวิเคราะห์ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่เศรษฐกิจไทยอาจถูกกระทบหนักจากสงครามการค้า หากการเจรจาการค้าแล้วภาษีไม่ลดลง ภาคการส่งออก การจ้างงาน หากกระทบหนักคงต้องมาประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด