เมียนมาประกาศจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ปี 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่ปัจจุบัน เมียนมายังอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังของกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ฝ่ายต่อต้านอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ในพื้นที่ที่กลุ่มกบฏสามารถยึดครองเอาไว้ได้ก่อนหน้านี้
ในเดือนที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเปิดฉากถล่มทางอากาศในหลายพื้นที่ของกลุ่มกบฏอีกระลอก ซึ่งทำให้ในเวลานี้ กองกำลังรัฐบาลทหารสามารถยึดพื้นที่กลับมาได้เป็นจำนวนมาก แต่วิธีการที่รัฐบาลใช้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนอย่างหนัก เพราะเป็นการถล่มที่รุนแรง สร้างความเสียหายต่อตัวเมืองอย่างหนัก
เมื่อปีที่แล้ว กองกำลังกลุ่มกบฏสามารถยึดเมืองจ๊อกแม (Kyaukme) เมืองสำคัญบนเส้นทางการค้าหลักจากชายแดนจีนสู่พื้นที่ตอนในของเมียนมา หลังเกิดการสู้รบกับกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมานานหลายเดือน
เมืองจ๊อกแมตั้งอยู่บนถนนเอเชียสาย 14 ซึ่งเป็นเส้นทางที่รู้จักกันในชื่อ “ถนนพม่า” ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และการที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอั้ง หรือ TNLA สามารถยึดเมืองนี้ได้ ถือเป็นชัยชนะสำคัญของฝ่ายต่อต้าน และถูกมองว่า ขวัญกำลังใจของรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจเมื่อปี 2021 อาจเริ่มสั่นคลอน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคมนี้ ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์ กองทัพรัฐบาลทหารเมียนมากลับสามารถยึดเมืองจ๊อกแม่คืนได้อย่างรวดเร็ว
ชะตากรรมที่พลิกผันของเมืองเล็ก ๆ บนภูเขาแห่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ดุลอำนาจทางทหารในเมียนมาได้เปลี่ยนกลับมาเข้าข้างรัฐบาลทหารอีกครั้ง
แต่ชัยชนะของกองทัพรัฐบาล ทำให้เมืองสูญเสียอย่างหนัก พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองถูกถล่มจนราบจากการโจมตีทางอากาศรายวันของกองทัพ โดยเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดขนาด 500 ปอนด์ลงบนเป้าหมาย ส่วนปืนใหญ่และโดรนก็โจมตีแนวกำลังของกบฏนอกเมือง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องอพยพหนี แต่เริ่มทยอยกลับมาหลังจากกองทัพยึดเมืองคืนได้
โฆษกของ TNLA ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า มีการสู้รบอย่างหนักทุกวันที่จ๊อกแม่และสี่ป้อ แต่ปีนี้กองทัพมีทั้งกำลังพลมากกว่า อาวุธหนักมากกว่า และอำนาจทางอากาศเหนือกว่า
หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพรัฐบาลก็สามารถยึดเมืองสี่ป้อคืนได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายที่ TNLA เคยยึดไว้เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้รัฐบาลทหารกลับมาควบคุมเส้นทางสู่ชายแดนจีนได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
เมืองเหล่านี้ตกอยู่ในมือของกองทัพเมียนมาอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจีนได้แสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลทหารอย่างชัดเจน โดยให้การหนุนหลังแผนการจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมนี้
แผนดังกล่าวถูกประณามอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการตัดพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ของ ออง ซาน ซูจี ออกจากการแข่งขัน โดยพรรค NLD เคยชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดก่อนถูกรัฐประหาร และในปัจจุบัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมียนมายังอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง
บีบีซีรายงานว่า การเลือกตั้งอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่กองทัพกำลังพยายามยึดพื้นที่ที่สูญเสียไปกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งในพื้นที่เหล่านั้นได้ และปีนี้กองทัพเริ่มประสบความสำเร็จมากขึ้น เนื่องจากได้เรียนรู้จากความล้มเหลวที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้รับเทคโนโลยีทางทหารใหม่ที่มีอานุภาพร้ายแรงกว่าเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพได้ตอบโต้ความได้เปรียบในช่วงต้นของฝ่ายต่อต้าน ซึ่งเคยใช้โดรนราคาถูกในการรบ ด้วยการหันไปจัดซื้อโดรนจากจีนจำนวนหลายพันลำ และฝึกกำลังพลแนวหน้าให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพจนสร้างความเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ กองทัพยังใช้ ร่มบินติดเครื่องยนต์ (Motorised Paragliders) ที่บินได้ช้าและควบคุมง่าย เพื่อบินวนเหนือพื้นที่ที่มีการป้องกันน้อยและทิ้งระเบิดได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องโดยใช้อากาศยานที่จัดหาจากจีนและรัสเซีย ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,000 คน และตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้