Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
น้ำมันโลกราคาขึ้น2.5% สหรัฐฯคว่ำบาตรบ.น้ำมันรัสเซีย กดดันอินเดียลดซื้อ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

น้ำมันโลกราคาขึ้น2.5% สหรัฐฯคว่ำบาตรบ.น้ำมันรัสเซีย กดดันอินเดียลดซื้อ

23 ต.ค. 68
13:01 น.
แชร์

ราคาน้ำมันโลกปรับตัวขึ้นแรงราว 2.5% ในวันพฤหัสบดี ต่อเนื่องจากแรงซื้อในวันก่อนหน้า หลังความกังวลเรื่องอุปทานกลับมาอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ได้แก่ Rosneft และ Lukoil เนื่องจากมีบทบาทเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน มาตรการดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดพลังงานทั่วโลก และส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลน

ข้อมูลการซื้อขายระบุว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent crude futures) เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.49% มาอยู่ที่ 64.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ (WTI crude futures) เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.62% มาอยู่ที่ 60.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายหลังการประกาศคว่ำบาตรไม่กี่ชั่วโมง ราคาทั้งสองชนิดดีดตัวขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงเกินคาด

ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯ พร้อมจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม หากรัสเซียไม่ยุติการสู้รบในยูเครน เขายอมรับว่าได้หลีกเลี่ยงการใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานมานาน โดยหวังให้มอสโกยินยอมเจรจาสันติภาพ แต่เมื่อสถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มสิ้นสุด เขาเห็นว่าถึงเวลาต้อง “ลงมืออย่างจริงจัง”

แรงสะเทือนจากตะวันตกสู่ตลาดโลก

การดำเนินการของสหรัฐฯ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังสหราชอาณาจักรออกมาตรการคว่ำบาตร Rosneft และ Lukoil เช่นกัน และในเวลาไล่เลี่ยกัน สหภาพยุโรป (EU) ก็ได้อนุมัติชุดคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 19 ซึ่งรวมถึงการห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากรัสเซีย มาตรการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการประสานแรงกดดันจากตะวันตก เพื่อบีบให้รัสเซียสูญเสียรายได้หลักจากการส่งออกพลังงาน

ปรียังกา สัจเดวา นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Phillip Nova กล่าวว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้ “มุ่งตรงไปยังหัวใจของรายได้สงครามของเครมลิน” และอาจทำให้การส่งออกน้ำมันของรัสเซียสะดุด โดยบีบบังคับให้ผู้ซื้อน้ำมันต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสู่ตลาดเสรีมากขึ้น เธอยังเสริมว่า หากอินเดียลดการซื้อน้ำมันจากรัสเซียภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ความต้องการน้ำมันในเอเชียอาจหันไปสู่ฝั่งสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันฝั่งแอตแลนติกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เปิดเผยว่ากำลังทบทวนคำสั่งซื้อใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการรับน้ำมันโดยตรงจาก Rosneft หรือ Lukoil หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการ การเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งสร้างแรงซื้อในตลาดฟิวเจอร์ส เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าปริมาณน้ำมันจากรัสเซียในตลาดโลกอาจลดลงอย่างฉับพลัน

ตลาดยังคงสงสัยต่อผลกระทบเชิงโครงสร้าง

แม้ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเพียง “ปฏิกิริยาชั่วคราวของตลาด” มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เคลาดิโอ กาลิมเบอร์ตี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ตลาดโลกของ Rystad Energy ระบุว่า “มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้แน่นอนว่าทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียยกระดับขึ้น แต่การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในทันทีนี้เป็นเพียงการตอบสนองตามอารมณ์ของนักลงทุน มากกว่าการสะท้อนภาวะอุปทานที่เปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา มาตรการคว่ำบาตรจำนวนมากต่อรัสเซียยังไม่สามารถลดทั้งปริมาณการผลิตและรายได้จากการส่งออกน้ำมันได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อผู้ซื้อรายใหญ่ในอินเดียและจีนยังคงซื้อน้ำมันรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

ในระยะสั้น นักวิเคราะห์มองว่าตลาดยังต้องจับตาปัจจัยหลักสามประการที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาน้ำมันในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ การทยอยยกเลิกการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ การกักตุนสำรองน้ำมันของจีน และสถานการณ์สงครามทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาทิศทางพลังงานโลกในช่วงต่อไป

แชร์
น้ำมันโลกราคาขึ้น2.5% สหรัฐฯคว่ำบาตรบ.น้ำมันรัสเซีย กดดันอินเดียลดซื้อ