Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
10 แบงก์กำไร Q3/68 ยังดี โกยรวม 73,000 ล้าน โต 13% แม้รายได้ดอกเบี้ยลด
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

10 แบงก์กำไร Q3/68 ยังดี โกยรวม 73,000 ล้าน โต 13% แม้รายได้ดอกเบี้ยลด

22 ต.ค. 68
20:21 น.
แชร์

ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 ออกมาหลายแห่งแล้ว ซึ่งจากที่ SPOTLIGHT รวบรวมข้อมูลและคำนวณพบว่า 10 ธนาคารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีกำไรรวมกันเกือบ 72,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรในงวด 9 เดือนของปี 2568 รวมกัน 206,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 

จากข้อมูลงบการเงินของธนาคารที่ประกาศออกมาแล้วนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปสถานการณ์ว่า กลุ่มแบงก์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBX) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ธนาคาารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ยังสามารถประคองผลการดำเนินงานไว้ได้ แม้รายได้จากธุรกิจหลักยังคงอ่อนแอ

10 ธนาคาร กำไรรวม 72,785 ล้านบาท

สำหรับ 10 ธนาคารที่ SPOTLIGHT รวบรวมข้อมูล มีผลกำไรในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2568 ดังนี้ 

ธนาคารกรุงไทย (KTB) 

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 14,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.07% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่  11,107 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 37,456 เพิ่มขึ้น 6.52% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่  33,381 ล้านบาท 

ธนาคารกรุงเทพ (BBL)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 13,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.52% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 12,476 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 38,247 เพิ่มขึ้น 9.88% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่  34,807 ล้านบาท 

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 13,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.79% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 11,965 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 39,287 เพิ่มขึ้น 1.16% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่  38,104 ล้านบาท 

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBX)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 12,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.19% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 10,941 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 37,344 เพิ่มขึ้น 15.85% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 32,236 ล้านบาท 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 8,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.48% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 7,672 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 24,612 เพิ่มขึ้น 5.07% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 23,424 ล้านบาท 

ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 5,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.53% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 5,230 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 15,399 ล้านบาท ลดลง 4.00% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 15,919 ล้านบาท 

ธนาคารทิสโก้ (TISCO)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.99% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 1,713 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 5,017 ล้านบาท ลดลง 3.50% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 5,199 ล้านบาท 

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.97% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 1,305 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 4,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.70% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 3,579 ล้านบาท 

ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1,013 ล้านบาท ลดลง 12.75% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 1,161 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 2,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 2,432 ล้านบาท 

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.86% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 596 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 1,830 ล้านบาท ลดลง 3.17% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 1,890 ล้านบาท 

รวม 10 ธนาคาร 

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 72,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43% จากไตรมาส 3 ปี 2567 (YoY) ซึ่งกำไรอยู่ที่ 64,166 ล้านบาท 

กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 อยู่ที่ 206,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.96% จากงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งกำไรอยู่ที่ 190,971 ล้านบาท 

รายได้ดอกเบี้ยลด แต่ได้กำไรจากการลงทุนมาชดเชย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกบทวิเคราะห์ในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมที่ขยายตัวแบบไม่ทั่วถึงยังคงเป็นสภาพแวดล้อมที่ท้าทายการประคองรายได้ของของกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งปรับตัวลงมาแล้ว 5 ไตรมาสติดต่อกัน (นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2567-ไตรมาส 3/2568) 

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า กำไรจากเงินลงทุนและกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ปรับเพิ่มสูงขึ้น และมีส่วนช่วยหนุนผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งตลอดหลายไตรมาสที่ผ่านมา โดยล่าสุดในไตรมาส 3/2568 รายการกำไรจากเงินลงทุน และ FVTPL ขยับขึ้นไปสูงกว่า 30,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 22.4% ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ 

นอกจากนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมบางรายการ เช่น ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจการจัดการกองทุน และค่าธรรมเนียมการให้บริการด้าน Wealth Management ที่ได้รับอานิสงส์จากสภาวะตลาดเงินตลาดทุนที่เอื้ออำนวย ก็มีส่วนช่วยเพิ่มแรงหนุนต่อผลการดำเนินงานด้วยเช่นกัน

สินเชื่อหดต่อเนื่อง และ NIM ยังชะลอต่อ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ไปที่ข้อมูล ‘ยอดคงค้างสินเชื่อ’ จากงบการเงินของธนาคารรวม 9 แห่ง ณ ไตรมาส 3/2568 หดตัวลง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนห้นา (YoY) ต่อเนื่องจากที่หดตัว 1.7% (YoY) ในไตรมาส 2/2568 แล้วอธิบายว่า นอกจากภาพรวมสินเชื่อจะได้รับแรงกดดันจากผลของการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ และการระมัดระวังความเสี่ยงด้านเครดิตในการปล่อยสินเชื่อใหม่ของสถาบันการเงินแล้ว ความต้องการเบิกใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจเพื่อลงทุนในระยะยาวก็ปรับตัวลดลงตามสัญญาณการฟื้นตัวล่าช้าและความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจไทยด้วยเช่นกัน 

ผลจากสถานการณ์สินเชื่อที่อ่อนแอ เมื่อรวมเข้ากับผลของการทยอยปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้าโครงการคุณสู้เราช่วย ทำให้ผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อ (Yield on Loans) ปรับลดลงเร็วกว่าต้นทุนทางการเงิน (Funding Cost) ซึ่งสะท้อนผ่านการชะลอตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) ที่ปรับลดลงมาแล้ว 4 ไตรมาสติดต่อกัน โดย NIM ในไตรมาส 3/2568 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.18% จาก 3.22% ในไตรมาสที่ 2/2568  

คุณภาพสินเชื่อเสี่ยงจะแย่ลงอีก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยบอกอีกว่า แม้ว่าสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ NPL ratio ตามข้อมูลงบการเงินรวมของธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ขยับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยมาที่ 3.18% ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2568 จากระดับ 3.16% ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 2/2568 แต่สินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต หรือ Stage 2 ratio ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 7.38% ของสินเชื่อรวมในไตรมาสที่ 3/2568 สะท้อนว่า คุณภาพของพอร์ตสินเชื่อยังมีความเสี่ยงที่จะด้อยลงในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะหากแนวโน้มเศรษฐกิจและรายได้ภาคครัวเรือนยังไม่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ และมีผลกระทบต่อเนื่องต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

ไตรมาส 4 สถานการณ์ยังท้าทาย

ศูนย์วิจัยกสิกกรไทยวิเคราะห์อีกว่า จากข้อมูลงบการเงินรวมของธนาคารพาณิชย์และบริษัทย่อย 9 แห่งที่มีสัญญาณอ่อนแอดังกล่าวข้างต้น สะท้อนว่า ข้อมูลสถานการณ์ภาพรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 17 แห่งในระบบแบงก์ไทย ที่จะทยอยรายงานตามมาคงจะให้ภาพที่คล้ายคลึงกัน 

สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แรงกดดันด้านค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มสูงขึ้นตามปัจจัยด้านฤดูกาล และธนาคารพาณิชย์หลายแห่งน่าจะกลับมามีแนวทางการตั้งสำรองฯ ที่ระมัดระวังเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจไทย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นโจทย์ที่ท้าทายต่อการประคองผลการดำเนินงานของระบบแบงก์ไทย โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมบางตัวที่ต้องพึ่งพาสภาวะที่เอื้อของตลาดการเงิน รวมไปถึงรายได้จากธุรกิจหลักอย่างการปล่อยสินเชื่อ และเมื่อรวมกับผลของทิศทางดอกเบี้ยในประเทศที่มีโอกาสปรับลดลงอีกก่อนสิ้นปี อาจทำให้ NIM ของระบบแบงก์ไทยชะลอลงไปอยู่ต่ำว่าระดับ 2.72% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 (เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ NIM ของระบบแบงก์ไทยในไตรมาส 3/2568 ที่ 2.80% และตัวเลขจริงของ NIM ในไตรมาส 2/2568 ที่ 2.84%) ขณะที่ คาดว่า อัตราส่วนค่าใช้จ่ายสำรองต่อสินเชื่อ (Credit Cost) ของระบบแบงก์ไทยน่าจะยังอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ และปิดปี 2568 ที่ระดับประมาณ 1.27% ใกล้เคียงกับปี 2567 

“ทิศทางเหล่านี้ ทำให้โจทย์หลักของแบงก์จะกลับมาเป็นเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนส่วนอื่นๆ เฉพาะหน้า เพื่อประคองความสามารถในการทำกำไรในช่วงดอกเบี้ยขาลงนี้” ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ 

แชร์
10 แบงก์กำไร Q3/68 ยังดี โกยรวม 73,000 ล้าน โต 13% แม้รายได้ดอกเบี้ยลด