Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
พลังงาน การบิน คนสูงวัย? สนทนากับทูตฝรั่งเศส ยั่งยืนยังไงแม้ท้าทายมาก
โดย : ณัฏฐณิชา ภู่คล้าย

พลังงาน การบิน คนสูงวัย? สนทนากับทูตฝรั่งเศส ยั่งยืนยังไงแม้ท้าทายมาก

22 ต.ค. 68
18:20 น.
แชร์

ฝรั่งเศสเป็นประเทศลำดับที่ 5 บนโพเดียม “ประเทศยั่งยืน” ตามรายงาน Sustainable Development Report ของสหประชาชาติปีนี้ รายงานที่บ่งชี้ว่าแต่ละประเทศสมาชิกของสหประชาชาติไปได้ไกลแค่ไหนบนเส้นทางความยั่งยืน

เพื่อไขความลับความสำเร็จด้านความยั่งยืนของฝรั่งเศส Spotlight ได้คุยกับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย คุณฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimboeuf) เกี่ยวกับแนวคิด โครงการ และความท้าทายด้านความยั่งยืนของฝรั่งเศส

การตั้งเป้าหมายความยั่งยืนแต่ละครั้ง อาทิ ข้อตกลงปารีส หรือเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ต่างเป็นการกำหนดปลายทางไว้ให้เราเดินตาม เรียกได้ว่าเป็น “การเดินทาง” แน่นอนว่าสำหรับฝรั่งเศสก็เช่นกัน

“การพัฒนาที่ยั่งยืนคือการเดินทาง แต่เป็นการเดินทางที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดจบ และฝรั่งเศสก็เริ่มกระบวนการนี้มาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ข้อตกลงปารีสเริ่มต้นขึ้นในปี 2015 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ เราก็เร่งทำงานอย่างหนัก หนักมาก ๆ เพื่อพัฒนากลยุทธ์รับปี 2030 มาตลอด” เอกอัครราชทูตกล่าว

เชื้อเพลิงความสำเร็จของการพัฒนาที่ยั่งยืนของฝรั่งเศสนั้น นายปวงเบิฟกล่าวว่า คือพลังงานสะอาดนั่นเอง

พลังงานนิวเคลียร์ พลังงานที่ฝรั่งเศสใช้ลดคาร์บอน

“ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสัดส่วนพลังงานสะอาด พลังงานสีเขียว และพลังงานนิวเคลียร์สูงที่สุด โดยร้อยละ 85 ของไฟฟ้าที่ใช้ในฝรั่งเศสผลิตจากพลังงานนิวเคลียร์ จึงเป็นการลดคาร์บอนลงด้วย” ปวงเบิฟกล่าว

ข้อมูลจาก World Nuclear Association ชี้ว่า นโยบายระยะยาวของฝรั่งเศสคือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสเริ่มลงมือด้านพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ตั้งแต่ปี 1974 เมื่อเกิดวิกฤตน้ำมันครั้งแรก ฝรั่งเศสเร่งพัฒนาประสิทธิภาพด้านพลังงานนิวเคลียร์

เพราะการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ครั้งนั้นเอง ปัจจุบันฝรั่งเศสมีความอิสระด้านพลังงานสูง และมีการปล่อยคาร์บอนต่อหัวจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าต่ำ นอกจากนี้ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมายังสามารถส่งออกพลังงานนิวเคลียร์ 70 TWh ต่อปี และในปี 2021 ได้ขึ้นเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของยุโรป ส่วนใหญ่ส่งให้สหราชอาณาจักรและอิตาลี

อย่างไรก็ตาม การผลิตพลังงานนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ในปี 2022 ฝรั่งเศสผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ได้น้อยลง จากเฉลี่ย 320 TWh เป็น 282 TWh จากการหยุดเดินเครื่องปฏิกรณ์เก่าเพื่อบำรุงรักษา

อย่างไรก็ตาม การผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา คือ 361.7 TWh และส่งออกเพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 48 คือจาก 70TWh ในปี  2023 เป็น 130 TWh ในปี 2024

แม้จะก้าวข้ามอุปสรรคด้านไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ครั้งนั้นมาได้ แต่ความยั่งยืนในฝรั่งเศส ไม่ว่าจะแง่มุมด้านพลังงาน หรือสังคมยังมีอุปสรรคอีกข้อคือ ประชาชนต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง

อุปสรรคใหญ่คือทำความเข้าใจกับประชาชน

“ผมคิดว่า [ความท้าทาย] อย่างแรกคือทำให้คนยอมรับว่า การมีเศรษฐกิจหรือวิถีชีวิตที่ยั่งยืน คุณต้องเปลี่ยนนิสัยบางอย่าง”

ปวงเบิฟยกตัวอย่างการต่อต้านของคนฝรั่งเศสต่อการเปลี่ยนแปลง คือการประท้วงต่อต้านการปรับลดขีดจำกัดความเร็วบนท้องถนนจาก 90 กิโลเมตร/ชม. เป็น 80 กิโลเมตร/ชม.

การประท้วงการปรับลดความเร็วครั้งใหญ่เกิดขึ้นโดยขบวนการเสื้อกั๊กเหลือง หรือ yellow vest movement ที่เดิมทีต่อต้านการเพิ่มภาษี และปัญหาปากท้อง ต่อมามองว่าการเก็บค่าปรับด้วยกล้องจับความเร็วเป็นการหาทางเก็บเงินจากคนจน 

ทูตฝรั่งเศสกล่าวว่า หมุดหมายการทำให้คนเข้าใจความเปลี่ยนแปลงยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลฝรั่งเศสให้ความสนใจ และบรรจุอยู่ในนโยบายด้วย

“นโยบายรัฐกล่าวไว้อย่างชัดเจน และเรามีหน่วยงานภายในรัฐบาลที่ดูแลเรื่องนี้ แต่อย่างที่ผมบอก เราต้องคอยสร้างความเข้าใจกับประชาชนต่อไปว่าที่ทำไปเหตุผลคืออะไร และจะได้ประโยชน์อะไรคืนมา” เอกอัครราชทูตอธิบาย

“อาจจะมีการสูญเสียทางเศรษฐกิจในระยะสั้น หรือต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตบ้าง แต่ในระยะกลางและระยะยาวจะเป็นผลดีต่อประเทศและประชาชนเอง” ทูตเสริม

ตัวอย่างความสูญเสียที่หากไม่ปรับตัวคงจะเอาคืนมาไม่ได้ คือ ความเสียหายด้านนิเวศวิทยา ฝรั่งเศสเผชิญปัญหานี้จากการใช้ที่ดิน การเกษตร การขยายของเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในโลก ความเสี่ยงสูญพันธ์ุของพืชและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในฝรั่งเศสสูงขึ้น 

เพราะเหตุนี้ฝรั่งเศสจึงมียุทธศาสตร์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ 2030 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ครั้งที่ 15 เมื่อปี 2030 ที่กำหนดเป้าให้ประเทศสหภาพยุโรป “อยู่รวมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน” ภายในปี 2050

แนวทางการลดแรงกดดันต่อธรรมชาติมีตั้งแต่ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน การจำกัดมลพิษจากภาคการเกษตร ความพยายามในการป้องกันพืชต่างถิ่นรุกราน และข้อกำหนดการใช้สิ่งมีชีวิตโดยตรง โดยเฉพาะกับเรือประมงพาณิชย์

ความเสียหายที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นความเสียหายที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน แต่คนบางกลุ่มก็ยังตั้งคำถามอยู่ดีว่า “ความเสี่ยงเหล่านี้มีจริงไหม?”

“คุณจะเห็นได้ว่าในบางประเทศ หลายคนตั้งคำถามต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืนพวกนี้ แม้ว่าจะเป็นพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม หลายคนตั้งคำถามกับ SDGs คุณก็รู้ ประเทศใหญ่ ๆ บางประเทศ”

เมื่อฝรั่งเศสคือหนึ่งในประเทศที่ตั้งใจไปในแนวทางยั่งยืนแล้ว ก็มีโครงการหลายอย่างที่ทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยมองว่า สามารถนำมาปรับใช้กับสังคมไทยได้ หนึ่งในนั้นคือ การลดคาร์บอนในกระบวนการผลิตพลังาน และการบิน

พลังงาน-การบิน สองโมเดลโดดเด่นที่ไทยอาจเรียนรู้ได้

“เราทราบกันว่า มีความสนใจต่อโมเดลของฝรั่งเศส โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ว่าจะสามารถใช้งานที่ประเทศไทยได้หรือไม่ แต่แน่นอนว่ามีปัญหาการยอมรับจากสาธารณชน เราเองก็ผ่านช่วงนั้นมาแล้ว และพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์ของเรา” ทูตกล่าว

พลังงานนิวเคลียร์คือพลังงานที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงของอะตอม ทั้งการแตกตัวและการรวมตัว ซึ่งจะได้พลังงานความร้อนและรังสีออกมา อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลทั่วไปมักเป็นข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ขยะนิวเคลียร์ และผลกระทบต่อระบบนิเวศข้างเคียง ปัจจุบันไทยยังไม่มีโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์

อีกข้อคือการบิน การบินเป็นอุตสาหกรรมที่ฝรั่งเศสบินสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นหนึ่งในเสาหลักเศรษฐกิจของประเทศ ทำรายได้กว่า 70,200 ล้านยูโรในปี 2023 มีบริษัทการบินชั้นนำอย่าง Airbus และ Safran ที่มีการจ้างงานถึง 210,000 ตำแหน่ง

อุตสาหกรรมใหญ่ก็มักสร้างคาร์บอนมาก การบินก็เช่นกัน ในปี 2024 การบินผลิตคาร์บอนราว 2.5% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมด ดังนั้นภาคการบินทั่วโลกจึงพยายามทำให้อุตสาหกรรมดำเนินไปอย่างยั่งยืนมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ซึ่งทูตปวงเบิฟกล่าวว่า เป็นโอกาสในการทำงานร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจไทยและฝรั่งเศส

“เรามีบริษัทฝรั่งเศส เช่น แอร์บัส และบริษัทอื่น ๆ ที่ เข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากในการหารือกับบริษัทไทย เพื่อส่งเสริมและผลักดันการใช้เชื้อเพลิงการบินยั่งยืนในไทยให้มากขึ้น”

อีกหนึ่งความท้าทายที่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปกำลังเผชิญ แต่กลับไม่หนักหนามากนักในฝรั่งเศสคือ “สังคมผู้สูงอายุ” 

ฝรั่งเศสใช้ประกันสังคมต่อสู้สังคมผู้สูงอายุ

“ฝรั่งเศสไม่ได้มีปัญหาอย่างเดียวกันกับอีกหลายประเทศในยุโรปตะวันตก ที่การเติบโตของประชากรกำลังตกต่ำลง เรามีประชากรที่มีพลวัตรมากขึ้น [...] ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่น่าจะลงทุนกับระบบประกันสังคมและโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคมมากที่สุดประเทศหนึ่ง”

การลงทุนกับประกันสังคมและโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคมของฝรั่งเศสจะมีความท้าทายเรื่องการเงิน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายเหล่านี้ในระยะยาว และขณะนี้กำลังเป็นข้อถกเถียงร้อนในฝรั่งเศสที่เราคนไทยเองคงต้องติดตามต่อไป แต่อย่างไรก็ดี การสนับสนุนทางสังคมเหล่านั้นเองที่ทูตปวงเบิฟกล่าวว่าทำให้ฝรั่งเศสมีปัญหาด้านประชากรน้อยกว่าประเทศข้างเคียง

“นโยบายของภาครัฐคือการสนับสนุนให้คนมีครอบครัวด้วยการลดภาษี หรือการให้ประโยชน์บางอย่าง” ทูตกล่าว และยกตัวอย่างกรณีครอบครัวของเขาเมื่อยังเด็ก

“ตอนเรายังเด็ก ผมจำได้ว่าเราจะได้สิทธิพิเศษบางอย่าง อย่างตอนขึ้นรถไฟ ถ้าคุณมีลูกมากกว่า 3 คนก็จะได้ตั๋วถูกลง และยังได้เงินเบี้ยเลี้ยงถ้ามีบุตรมากกว่า 2 คน ดังนั้นเรามีทั้งประโยชน์ทางการเงิน สิ่งจูงใจ การลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ยังมีการจัดหาโรงเรียนอนุบาล หรือสถานที่รับเลี้ยงเด็ก ที่สามารถรับบุตรของคุณขณะที่ผู้ปกครองกำลังทำงานได้ด้วย”

การร่วมมือกับไทย

เมื่อฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนาน และจะครบ 170 ปีในปี 2569 นี้แล้ว ความร่วมมือระหว่างสองชาติย่อมมีหลากหลาย และความยั่งยืนคือหนึ่งในนั้น เอกอัครราชทูตปวงเบิฟยกตัวอย่างโครงการนำร่องที่เรียกว่า “FIN4Bio”

FIN4Bio คือโครงการของสำนักงานพัฒนาฝรั่งเศส (French Development Agency) ที่ทูตปวงเบิฟกล่าวว่า เปรียบเหมือนธนาคารโลกหรือธนาคารพัฒนาเอเชียของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส มุ่งเน้นการลดคาร์บอนด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชนของไทย

“เราทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่นี่ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่า การให้ความสำคัญกับแนวทางแก้ปัญหาที่อิงกับธรรมชาติ (nature based solutions) นั้นไม่ใช่แค่ดีต่อโลก แต่ก็ยังดีต่อธุรกิจของพวกเขาด้วย ไม่อย่างนั้นอาจเป็นธุรกิจบางรายเองที่จะหายไป ถ้ามีการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ หรือถ้าธรรมชาติได้รับผลกระทบมากเกินไป” ทูตกล่าว

อีกตัวอย่างความร่วมมือคือ ระหว่างสำนักงานพัฒนาฝรั่งเศส ทำร่วมกับกรุงเทพมหานคร (BMA) เรื่องเมืองอัจฉริยะ (smart cities)

“หนึ่งในโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการคือ เรื่องการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดการน้ำท่วม ประเทศไทยมีน้ำท่วมบ้าง และปีนี้ก็ประสบกับน้ำท่วมใหญ่ในภาคเหนือ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ตอนนี้จมน้ำไปแล้ว”

เพราะเหตุนี้ทูตจึงกล่าวว่า สำนักงานพัฒนาฝรั่งเศสร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) และสถาบันเงินทุนอื่น ๆ จึงร่วมมือสนับสนุนโครงการด้านการจัดการน้ำในไทย

นอกจากนี้ เมื่อปีก่อน สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสยังลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มการสนทนาระหว่างกันในหัวข้อเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสายพันธุ์ และความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ทูตกล่าวว่า มีความพอใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังพอใจกับการร่วมงานกันระหว่างฝรั่งเศสและไทยด้วย

ทูตเน้นย้ำว่า ไทยและฝรั่งเศสควรเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในความร่วมมือด้านพหุภาคี ที่ถึงแม้มีความท้าทายจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน หนึ่งความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่ทูตปวงเบิฟสนับสนุนคือการสนทนากันเพื่อแลกความเห็นก่อนการประชุม COP30 จะเริ่มขึ้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้


แชร์
พลังงาน การบิน คนสูงวัย? สนทนากับทูตฝรั่งเศส ยั่งยืนยังไงแม้ท้าทายมาก