คิม จองอึนควงลูกสาว คุมโปรเจกต์เรือดำน้ำ-ซ้อมยิงขีปนาวุธรับคริสต์มาส
สำนักข่าวกลางเกาหลี KNCA รายงานว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้เข้าตรวจเยี่ยมการก่อสร้างเรือดำน้ำร่วมกับบุตรสาว คิม จูแอ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเธอถูกวางตัวให้เป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป พร้อมเข้าชมการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในการเผยแพร่ข่าวทางโทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งตะวันออก มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินเทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศในการพัฒนาขีปนาวุธเพดานบินสูงชนิดใหม่ โดยขีปนาวุธสามารถทำลายเป้าหมายกลางอากาศที่อยู่ห่างออกไปถึง 200 กิโลเมตรได้สำเร็จ
ทางด้านคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ หรือ JCS ยืนยันว่า การทดสอบเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยสำนักข่าวยอนฮัพรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า กองทัพเกาหลีใต้ได้รับทราบถึงการเตรียมการยิงล่วงหน้าและมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เรือดำน้ำผลิตโดยเกาหลีเหนือ ใกล้พร้อมใช้!
ภาพถ่ายจาก KCNA เผยให้เห็นนายคิมอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างเรือดำน้ำพร้อมกับคิม จูแอ บุตรสาวของเขา ท่ามกลางวงล้อมของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เขายิ้มในขณะที่เด็กสาววัยรุ่นยืนอยู่ข้างเขาภายในอาคารโรงงานที่ประดิษฐานเรือสีแดงลำหนึ่ง
KCNA รายงานว่า นายคิมได้ไปตรวจเยี่ยมไซต์งานก่อสร้าง เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ขนาด 8,700 ตัน ซึ่งมีความสามารถในการปล่อยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศได้ อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุสถานที่หรือวันที่ในการเข้าเยี่ยมชมอย่างชัดเจน
โครงการเรือดำน้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของพรรคแรงงานในการปรับปรุงกองทัพเรือให้ทันสมัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 นโยบายหลักที่พรรคกำลังผลักดันเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางทหารของชาติ นายคิมกล่าวว่า เกาหลีเหนือกำลังสร้างเรือทำลายล้างเพื่อการโจมตีและเรือดำน้ำนิวเคลียร์หลายลำ และกำลังทำงานเพื่อเร่งการก่อสร้างให้เร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เรือเหล่านี้สามารถติดตั้งอาวุธประเภทต่าง ๆ ได้
ฮง มิน นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันเพื่อการรวมชาติเกาหลีในกรุงโซล เขียนในรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การออกแบบตัวเรือดำน้ำบ่งชี้ว่ามันได้รับการติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แล้ว และเรือลำดังกล่าวเกือบจะพร้อมสำหรับการออกเดินเรือ
เรือดำน้ำ รับมือภัยคุกคามภายนอก
ก่อนหน้านี้ คิม จองอึน เคยกล่าวว่า การพัฒนาขีดความสามารถทางนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบและการทำให้กองทัพเรือทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจะภายนอก ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ นายคิมยังเคยกล่าวอย่างชัดเจนว่า แผนการของเกาหลีใต้ในการพัฒนาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ร่วมมือกับสหรัฐฯ นั้น จะยิ่งทำให้ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูงขึ้น และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติที่บีบให้เขาต้องดำเนินการตอบโต้
สื่อของรัฐเกาหลีเหนือยังได้วิพากษ์วิจารณ์การที่เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เดินทางเข้าสู่ท่าเรือของเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ยกระดับความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีและในภูมิภาค
หลายฝ่ายคาดว่า ท่าทีการเยี่ยมชมเรือดำน้ำของผู้นำเกาหลีใต้เป็นการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เนื่องจากเมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา กองทัพเรือเกาหลีใต้ระบุว่า เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ กรีนวิลล์ (Greeneville) ได้เดินทางมาถึงท่าเรือปูซานเพื่อให้ลูกเรือได้ขึ้นฝั่งพักผ่อนและเพื่อบรรทุกเสบียง
