สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ได้แจ้งแก่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงว่า รัฐบาลเปียงยางจะสนับสนุนผลประโยชน์แห่งชาติของจีน อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ขณะที่ทั้งสองฝ่ายประกาศเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในมิตรภาพระหว่างกัน ในโอกาสที่ผู้นำคิมได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
นายคิม จองอึนและสี จิ้นผิงได้หารือกันแบบทวิภาคีที่มหาศาลาประชาชน (Great Hall of people) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้นำทั้งสองและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ปรากฏตัวร่วมกันในพิธีสวนสนามทางทหารเพื่อรำลึกครบรอบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือวันแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเขา
ในการหารือทวิภาคี คิม จองอึนกล่าวกับสี จิ้นผิงว่า เกาหลีเหนือจะยังคงสนับสนุนและส่งเสริมจุดยืนและความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์ในการพัฒนาของรัฐอย่างไม่เปลี่ยนแปลงเช่นเคย
ภาพแห่งประวัติศาสตร์ที่สี จิ้นผิง, คิม จองอึน, และวลาดิเมียร์ ปูตินร่วมงานฉลองชัยชนะกันอย่างชื่นมื่น อาจทำให้ทั่วโลกรู้สึกว่าสัมพันธ์ของสามประเทศพันธมิตรแข็งแกร่งขึ้นมากที่สุด แต่นักวิเคราะห์ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ท่ามกลางความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางทหารที่แข็งแกร่งระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและจีนสั่นคลอนหรือไม่ เพราะนั่นหมายถึงเกาหลีเหนืออาจพึ่งพาจีนน้อยลง
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวชินหัวของจีนรายงานว่า คิม จองอึนกล่าวว่ามิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ว่า รัฐบาลเปียงยางที่จะกระชับและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สี จิ้นผิง กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลของเขา ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ และพร้อมที่จะรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือ เขายังกล่าวอีกว่า จีนและเกาหลีเหนือเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และเป็นสหายที่ดีที่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน
ในการประชุมทวิภาคีครั้งนี้ ทั้งสองยังได้หารือถึงประเด็นการเพิ่มความเข้มข้นในการแลกเปลี่ยนระดับสูง และแจ้งจุดยืนเชิงนโยบายของรัฐบาลในด้านความสัมพันธ์ภายนอก สี จิ้นผิง ตอกย้ำว่า จีนจะวางตัว "เป็นกลาง" และ "ยุติธรรม" ต่อความขัดแย้งคาบสมุทรเกาหลี
การประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีถือเป็นการพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกของผู้นำทั้งสองในรอบกว่าหกปี นอกจากนี้ คิม จองอึน ยังได้หารือทวิภาคีกับปูติน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแผน "ระยะยาว" สำหรับความร่วมมือทวิภาคี ล่าสุด ขบวนรถไฟส่วนตัวของคิม จองอึน ออกจากสถานีในเมืองหลวงของจีนเมื่อเวลา 22:05 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งถือเป็นการเดินทางไปจีนครั้งที่ห้าของเขา หลังจากครั้งสุดท้ายในปี 2019
แม้ทั้งสามสุดยอดผู้นำจะมารวมตัวกันที่เมืองหลวงของจีนในสัปดาห์นี้ แต่การประชุมสามฝ่ายไม่ได้เกิดขึ้นคาดกันว่า ทั้งสามประเทศกังวล เพราะอาจถูกมองว่ากำลังส่งสารที่ชัดเจนว่ากำลังต่อต้านสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พวกเขาปรากฏตัวร่วมกันในพิธีสวนสนามทางทหาร ซึ่งเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารที่ยิ่งใหญ่ของจีน
หลังจากที่ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือมีบทบาทในเวทีโลก กระทบไหล่สี จิ้ผิงและปูตินบ่อยขึ้นในช่วงนี้ ก็เรียกได้ว่า เกาหลีเหนือ “เนื้อหอมขึ้น” อย่างเห็นได้ชัด ล่าสุด สำนักข่าวยอนฮัพ รายงานว่า พล.อ.เลือง เกือง ประธานาธิบดีเวียดนาม ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีถึงผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ก่อนถึงวันครบรอบการก่อตั้งประเทศในสัปดาห์หน้า โดยแสดงความปรารถนาที่จะพบปะเป็นการส่วนตัว "โดยเร็วที่สุด"
ด้านสำนักข่าว KCNA ของเกาเหนือ รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือได้รับข้อความขอเข้าพบของผู้นำเวียดนามแล้ว ซึ่งเกาหลีเหนือจะฉลองครบรอบ 77 ปีการสถาปนาประเทศในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยผู้นำเวียดนามแสดงความยินดีล่วงหน้าอย่างสุดซึ้ง พร้อมระบุว่า ปีนี้ยังเป็นโอกาสครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเกาหลีเหนือและเวียดนามด้วย
พล.อ.เลือง เกือง แถลงว่า เวียดนามหวังว่าความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะสามารถพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ โดยสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชน อันจะนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก” เขายังกล่าวว่า “ผมหวังว่าจะได้พบคุณโดยเร็วที่สุดนะ เพื่อน”
ในเดือนมีนาคม 2019 คิม จองอึน เดินทางเยือนฮานอย ประเทศเวียดนาม เพื่อร่วมประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโอกาสที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเวียดนาม จนล่าสุด ผู้นำทั้งสองเข้าร่วมขบวนพาเหรดทางทหารของจีนในกรุงปักกิ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้ และแม้ว่าจะไม่มีการหารือทวิภาคีเกิดขึ้น แต่การกล่าวเชิญชวนของเวียดนามก็แสดงให้เห็นว่าพันธมิตรระหว่างเกาหลีเหนือและเวียดนามมีความแน่นแฟ้นขึ้นอีกระดับ