สื่อของกัมพูชารายงานข่าวว่า สมาคมมะม่วงหิมพานต์และข้าวแห่งกัมพูชาจัดงานยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยเพิ่มความร่วมมือกับเวียดนาม ข่าวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งทำให้มีการสั่งปิดชายแดน และระงับการนำเข้าสินค้าบางประเภทจากไทย
ขแมร์ไทม์ส สื่อของกัมพูชารายงานวันนี้ (28 มิถุนายน) ว่า เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา ร่วมมือกับสมาคมมะม่วงหิมพานต์แห่งกัมพูชาและสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา จัดงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรของกัมพูชา และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
จากแถลงการณ์ของสมาคมมะม่วงหิมพานต์ระบุว่า กัมพูชาวางเป้าหมายที่จะส่งเสริมการส่งออกด้านการเกษตร และกระชับความร่วมมือทางการค้ากับเวียดนาม หลังจากจัดเวิร์กชอปร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า
แถลงการณ์ยังระบุว่า วัตถุประสงค์หลักคือการรับรองว่าสินค้าจากกัมพูชาจะได้มาตรฐานสากล เปิดทางให้เพิ่มการส่งออกไปยังตลาดที่มีกำไรสูง เช่น สหภาพยุโรป สิงคโปร์ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ด้านรองประธานสมาคมมะม่วงหิมพานต์เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะผู้แทนทางธุรกิจของเวียดนามได้เดินทางมาเยือน เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนโดยตรงในกัมพูชา และระบุว่ากลุ่มธุรกิจของเวียดนามให้ความสนใจที่จะทำงานโดยตรงกับกัมพูชา ด้วยการร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าท้องถิ่น ขณะนี้กำลังศึกษาและหารือถึงแนวทางที่ผู้ประกอบการเวียดนามและกัมพูชาจะสามารถร่วมมือกันเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
ระหว่างการเวิร์กชอป ทั้งสมาคมมะม่วงหิมพานต์และสมาพันธ์ข้าวได้นำเสนอสินค้าเกษตรของกัมพูชาต่อคณะผู้แทนจากเวียดนาม และกระทรวงพาณิชย์ย้ำว่า ความริเริ่มนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงแค่ส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญอย่างข้าวและมะม่วงหิมพานต์ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมศักยภาพการผลิตภายในประเทศ เพิ่มรายได้และโอกาสในการทำงานสำหรับพลเมืองกัมพูชา
รายงานจากสื่อเวียดนามเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า อุตสาหกรรมมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามได้ประสบภาวะขาดดุลการค้า เนื่องจากการนำเข้าจากกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2025 และยังรายงานด้วยว่า บริษัทสัญชาติเวียดนามได้ทุ่มเงินกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำเข้ามะม่วงหิมพานต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชายืนยันว่า กัมพูชาไม่ได้นำเข้าไฟฟ้าจากไทยแล้ว โดยทางกระทรวงออกแถลงการณ์หลังจากมีรายงานสาธารณะที่ระบุว่า กัมพูชายังคงซื้อไฟฟ้าจากไทยอยู่
แถลงการณ์ยืนยันว่า กัมพูชามีศักยภาพภายในประเทศมากพอที่จะผลิตไฟฟ้าใช้เองทั่วประเทศ และรายงานที่ว่ายังมีการนำเข้าไฟฟ้าจากไทยอยู่นั้นไม่ได้สะท้อนสถานการณ์ที่แท้จริง และเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาธารณะ
กระทรวงยังได้แนะนำให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและมีความรับผิดชอบในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับประเด็นด้านพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานพลังงานข้ามพรมแดน