ธุรกิจการตลาด

'อะเมซอน' ลงทุนไทย 1.9 แสนล้าน เปิดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 11 ในเอเชีย

19 ต.ค. 65
'อะเมซอน' ลงทุนไทย 1.9 แสนล้าน เปิดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 11 ในเอเชีย

ยักษ์ไอทีสหรัฐ "อะเมซอน" ประกาศปักหมุดลงทุนไทย 1.9 แสนล้านบาท สร้างศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ เสริมโครงสร้างดิจิทัลประเทศไทย


บริษัทอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ในเครือของ Amazon.com, Inc. ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ด้วยการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคแห่งใหม่ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะมีชื่อว่า AWS Asia Pacific (Bangkok) ด้วยงบลงทุนกว่า 1.9 แสนล้านบาท ในช่วง 15 ปีข้างหน้า ผลักดันไทยขึ้นเป็นแถวหน้าในเศรษฐกิจดิจิทัล  

ศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค (Region) จะเชื่อมต่อไปยังศูนย์ข้อมูลแบบกระจาย (Avaiability Zone: AZ) อีก 3 แห่ง ในแต่ละแห่งถือเป็นจุดเด่นของ AWS ในการให้บริการคลาวด์แก่ลูกค้า เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน รวมถึงความปลอดภัยที่มากขึ้นจากการแยกระบบพลังงานไฟฟ้า และระบบทำความเย็น จนถึงการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายที่มีความแฝงต่ำจำนวนมาก

ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการตั้งศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคทั้งหมด 9 แห่ง คือใน สิงคโปร์ โตเกียว โซล มุมไบ ฮ่องกง โอซากา จาการ์ตา ปักกิ่ง และหนิงเซี่ย พร้อมกำลังเปิดที่ ไฮเดอราบัด เป็นแห่งที่ 10 ทำให้ "ไทย" นับเป็นแห่งที่ 11 ในภูมิภาค

นอกจากนี้ AWS ยังมีแผนที่จะขยาย AZ เพิ่มอีก 24 แห่ง และ AWS Region อีก 8 แห่ง ในออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย อิสราเอล นิวซีแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงในประเทศไทยด้วย

101831

นายคอเนอร์ แมคนามารา กรรมการผู้จัดการภาคพื้นอาเซียน AWS ระบุว่า AWS Regions ในไทยจะช่วยปลดล็อกศักยภาพของคลาวด์ที่เปิดให้องค์กรธุรกิจ และสตาร์ทอัปสามารถเข้าถึงบริการที่หลากหลายและเชี่ยวชาญของ AWS ได้ทั้งแมชชีนเลิร์นนิ่ง การวิเคราะห์ข้อมูล และ IoT รวมถึงการให้บริการของภาครัฐแก่ประชาชนในระยะยาว ช่วยให้เกิดการสร้างธุรกิจและการแข่งขัน

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แผนของ AWS ในการสร้างศูนย์ข้อมูลในประเทศไทย ถือเป็นก้าวสําคัญที่จะนำบริการการประมวลผลบนระบบคลาวด์ขั้นสูงมาสู่องค์กรจำนวนมากขึ้น และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย Thailand 4.0 ในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมูลค่า ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยสร้างแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลขั้นสูงอีกด้วย

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า AWS Region ในประเทศไทยจะช่วยภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในการให้บริการดิจิทัลที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของประเทศในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 48 ล้านคน ซึ่งหมายถึงมีความต้องการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพิ่มขึ้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ประกาศแผนกระตุ้นภาคธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่ผ่านเกณฑ์กำหนด โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงิน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้าสู่ประเทศมากยิ่งขึ้น 

ปัจจุบัน ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการหลายรายทั้งไทย เช่น True IDC และต่างชาติ เช่น NTT จากญี่ปุ่น, SUPERNAP จากสหรัฐ หรือ STT GDC จากสิงคโปร์ และเริ่มมีหลายประเทศสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น อาทิ กลุ่มไอทีจากจีนที่นำโดย Tencent และ Huawei ซึ่งเข้ามาตั้งแต่ปี 2561 และ Alibaba ที่เข้ามาในปี 2564

ขณะที่ AWS นั้นมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ได้ซื้อที่ดินร่วมสามแปลงเพื่อพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นเองในเขตพื้นที่ทางตอนใต้ของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ได้เปรียบทางกลยุทธ์ เพราะใกล้กับสถานีเคเบิล ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

 

 

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT