การเงิน

ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำจะขึ้นหรือจะลง ?

4 พ.ค. 65
ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำจะขึ้นหรือจะลง ?

ต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำคึกคักอย่างมาก ขึ้นไปทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ รวมถึงราคาทองคำในประเทศได้อานิสงค์จากเงินบาทที่อ่อนค่าทำให้ราคาทองทะลุ 30,000 บาทต่อบาททองคำเช่นกัน นั่นคืออานิงค์ที่มาจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน ทำให้ราคาทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)อีกครั้ง แม้ว่าปัจจุบันสงครามจะยังไม่จบ แต่สถานการณ์แทรกซ้อนอย่างเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี เป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางหสรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นกว่าเดิม


 ราคาทองคำ

ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยทองคำจะขึ้นหรือลง

การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯรอบล่าสุดนี้  มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75% - 1.00% เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า "คณะกรรมการเฟดมีความเห็นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า และที่น่าจะทำให้ตลาดการลงทุนเบาใจลงได้คือ ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%

 

สำหรับราคาทองคำอยู่ในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ดังนั้นหากธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยแรงจะเป็นเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปรับลดลง  ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ วรุต รุ่งขำ ได้ประเมินทิศทางราคาทองคำว่า  กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแบ่งเป็น 2 กรณี

  • FED ขึ้นดอกเบี้ยแรง (เช่น 0.75%หรือมากว่า)

ราคาทองคำมีโอกาสลงมาแตะ 1823 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือ เป็นทองไทยคือราว 29,500 บาท/บาททองคำ

  • FED ขึ้นดอกเบี้ยไม่แรง (เช่น 0.25% - 0.50% )

ราคาทองมีแนวรับอยู่ประมาณ 1854  ,  1872 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ คิดเป็นราคาทองแท่งของไทยประมาณ 30,000 -30,300 บาท  / บาททองคำ

 

แต่ราคาทองคำล่าสุด เวลา 9.35 น. ที่สมาคมค้าทองคำรายงานคือ Gold Spot กลับพุ่งขึ้นทะลุ 1900 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์แล้ว ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้น 250 บาทต่อบาททองคำ 

ทองคำแท่ง รับซื้อ 30,550 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 30,650 บาทต่อบาททองคำ

ทองรูปพรรณ รับซื้อ 30,001.64 บาทต่อบาททองคำ  ขายออก 31,150 บาทต่อบาททองคำ

 

บทวิเคราะห์จาก บจ.ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง หลังจากดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี จากที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด และเฟดจะทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มิ.ย.ทิศทางในระยะสั้น แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,880 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,870 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,920 ดอลลาร์ และ 1,930 ดอลลาร์

 

ขณะที่ YLG มองว่า ราคาทองคำในปี 2022 ถือว่า ได้ยกฐานขึ้นมาจากปี 2021 ด้วยแม้นจะกังวลว่าดอกเบี้ยขาขึ้นก็ตาม โดยในปี 2021 ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1676 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1958 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์   ส่วนในปี 2022 นี้ราคาต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1778 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์   สูงสุดอยู่ที่ 2,069 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์   

 

แต่ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ 2-6 พ.ค. 2565 ซึ่งมีผลการประชุมเฟด ราคาทองได้มีการปรับลดลงมาทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ประมาณ  1,850.38 ดอลลาร์ต่อทรอยซ์ออนซ์  และมีแรงซื้อกลับมาราคาก็เด้งกลับขึ้นมาได้ เชื่อว่า ราคาทองคำการปรับลดลงรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมาในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นราคาทองคำแม้จะมีจะย่อลงต่ออาจจะไม่แรงมากนัก และเป็นจังหวะดีสำหรับนักลงทุน เพราะสัญญาณย่อและเด้งกลับมาทันที

 

ธนาคารกลางสหรัฐ
ธนาคารกลางสหรัฐ



สัญญาณธนาคารกลางหลายแห่งชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

สาเหตุสำคัญที่ทองยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภยอยู่ในเวลานี้ YLG มองว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆมีความเปราะบางอย่างมาก แม้แต่สหรัฐอเมริกาแองก็ตาม จึงเห็นว่าท่าทีของธนาคารกลางหลายประเทศชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะเจอปัญหาเงินเฟ้อก็ตาม เช่น ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป เพราะเคยปรับขึ้นไปแล้วในเดือน ก.พ.และ มี.ค. เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรปที่อาจจะต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจเสี่ยงเกิดภาวะถดถอย จากผลกระทบของสงครามรัสเซีย ยูเครน ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ก็ยังมีท่าทีผ่อนคลายนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจเช่นกัน      

 

สงครามรัสเซีย ยูเครนยังยืดเยื้อส่งผลบวกต่อทองคำ

ความเปราะบางทางเศรษฐกิจเกิดจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน ยังไม่น่าจะจบลงง่ายๆ  ทั่วโลกจับตาในวันที่ 9 พ.ค.นี้ว่า รัสเซียจะประกาศสงครามต่อยูเครนอย่างเป็นทางการหรือไม่ เนื่องจากเป็น "วันแห่งชัยชนะ" ของรัสเซีย โดยทหารโซเวียต รัสเซียในขณะนั้นสามารถพิชิตกองทัพนาซีในวันดังกล่าวในปี 1945 แน่อนว่า หากสงครามยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นผลบวกต่อราคาทองคำนั่นเอง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

โลกแห่ตุน "ทองคำ" ดีมานด์ไตรมาส 1 พุ่ง 34%

advertisement

SPOTLIGHT