Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เลือกตั้ง69ชี้ชะตาศก.ไทย นักวิชาการชี้อย่าหลงเงินแจก เน้นแก้โครงสร้าง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เลือกตั้ง69ชี้ชะตาศก.ไทย นักวิชาการชี้อย่าหลงเงินแจก เน้นแก้โครงสร้าง

22 ธ.ค. 68
11:51 น.
แชร์

ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่กำลังเข้าสู่โค้งสำคัญของการเลือกตั้ง ศ. ดร.อธิภัทร มุทิตาเจริญ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยชี้ว่า ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกเชิงนโยบายที่มีนัยสำคัญต่ออนาคตเศรษฐกิจในระยะยาว ระหว่างการเลือกใช้นโยบายเยียวยาระยะสั้น กับการออกแบบนโยบายที่ทำให้ประชาชนสามารถ “ลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง” อย่างแท้จริง

นักเศรษฐศาสตร์จากจุฬาฯ ระบุว่า ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา สังคมไทยเริ่มเห็นภาพร่วมกันมากขึ้นว่า ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้เป็นเพียงความสะดุดเป็นครั้งคราว แต่กำลังติดอยู่ในกับดักเชิงโครงสร้างที่ลึกและซับซ้อน นโยบายเยียวยาระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นการแจกเงิน การอุดหนุนการใช้จ่าย หรือมาตรการล้างหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่เพียงไม่ช่วยพาประเทศหลุดพ้นจากกับดักดังกล่าว แต่ยังบั่นทอนแรงจูงใจ และตอกย้ำปัญหาเดิมให้ฝังรากลึกยิ่งขึ้นในระยะยาว

เศรษฐกิจไทยกับความเหลื่อมล้ำและ “การขาดโอกาส”

ศ. ดร.อธิภัทร ชี้ว่า ปัญหาที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทยไม่ใช่การขาดเงินช่วยเหลือ แต่คือการขาด “โอกาสในการเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจ” สำหรับคนจำนวนมาก สิ่งที่ประชาชนเผชิญไม่ใช่เพียงรายได้ไม่พอในบางช่วงเวลา หากแต่เป็นระบบที่ทำให้ความพยายามไม่คุ้มค่า ต่อให้ตั้งใจทำงานหรือพัฒนาทักษะของตนเอง โอกาสในการขยับสถานะทางเศรษฐกิจก็ยังมีจำกัด

ภาพดังกล่าวสะท้อนตั้งแต่ความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษา ระหว่างลูกหลานของครอบครัวรายได้สูงกับรายได้ต่ำ ไปจนถึงรูปแบบการทำมาหากินในเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม ที่ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร้านค้าและแรงงานแทบไม่มีอำนาจต่อรอง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เป็นปัญหาเชิงสถาบันทางเศรษฐกิจและการเมือง ที่กำหนดว่าใครมีโอกาสก้าวหน้า และใครถูกปล่อยให้ย่ำอยู่กับที่

“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นโยบายหาเสียงจากพรรคการเมืองต่าง ๆ จะทยอยถูกนำเสนอ ผมอยากชวนทุกคนใช้จังหวะนี้มาช่วยกันตั้งคำถามว่า นโยบายเหล่านั้นจะเป็นเพียงการเยียวยาระยะสั้น หรือจะตอบโจทย์การขยายโอกาสในระยะยาว” ศ. ดร.อธิภัทร ระบุ

งานวิจัยชี้ชัด ความเหลื่อมล้ำไม่ใช่แค่รายได้แต่คือ "โอกาส"

ศ. ดร.อธิภัทร อ้างอิงงานวิจัยของ Muthitacharoen & Burong (2023) ซึ่งนำเสนอภาพความเหลื่อมล้ำและการเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจของคนไทยในภาคเศรษฐกิจในระบบ ซึ่งชี้ตรงกันว่า ประเทศไทยมีระดับโอกาสการเลื่อนชั้นรายได้ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ คนที่เกิดมาอยู่ในกลุ่มรายได้สูงแทบไม่ขยับลง ขณะที่คนกลุ่มล่างมีโอกาสขยับขึ้นได้ยากอย่างเป็นระบบ ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสดังกล่าวยังแตกต่างกันชัดเจนตามเพศและลักษณะการจ้างงาน โดยแรงงานหญิงและแรงงานนอกระบบเสียเปรียบตั้งแต่จุดเริ่มต้น

“เรารู้ได้อย่างไรว่า “ความเหลื่อมล้ำเชิงโอกาส” ของคนไทยรุนแรงแค่ไหน คำตอบสำคัญอยู่ในสิ่งที่เรียกว่าโอกาสการเลื่อนชั้นรายได้ (Income Mobility) แนวคิดนี้ไม่ได้ดูแค่ว่าใครรวยหรือจน แต่ดูว่า คนที่เกิดมาอยู่บน “ขั้นหนึ่งของบันไดเศรษฐกิจ” มีโอกาสก้าวขึ้นไปได้มากน้อยแค่ไหนตลอดช่วงชีวิตการทำงาน”

“หลักฐานจากงานวิจัย (Muthitacharoen and Burong, 2023) ชี้ชัดว่า ประเทศไทยมีโอกาสการเลื่อนชั้นรายได้ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น คนกลุ่มบนสุดแทบไม่ขยับลง ขณะที่คนกลุ่มล่างขยับขึ้นได้ยากอย่างเป็นระบบ ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสนี้ยังแตกต่างชัดตามเพศและลักษณะการจ้างงาน แรงงานหญิงและแรงงานนอกระบบเสียเปรียบตั้งแต่ต้นทาง”

ศ. ดร.อธิภัทร ย้ำว่า นี่ไม่ใช่เพียงความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ แต่เป็นความเหลื่อมล้ำเชิงโอกาส เป็นระบบที่ไม่สามารถแปลงความพยายามของคนจำนวนมากให้กลายเป็นความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น ในช่วงที่พรรคการเมืองต่าง ๆ กำลังทยอยนำเสนอนโยบายหาเสียง นักวิชาการรายนี้จึงชวนสังคมตั้งคำถามว่า นโยบายเหล่านั้นจะเป็นเพียงการเยียวยาเฉพาะหน้า หรือจะตอบโจทย์การขยายโอกาสในระยะยาวอย่างแท้จริง

“นโยบายต้องถูกออกแบบอย่างไรเพื่อให้คนไทยสามารถขยับฐานะทางเศรษฐกิจได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่รอเงินช่วยเหลือหรือคนละครึ่งรอบถัดไป นโยบายที่ไม่แตะโครงสร้างของโอกาสเท่ากับการเลือกคงสภาพระบบเดิมที่จำกัดการเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจของคนส่วนใหญ่ไว้ตั้งแต่ต้นทาง”

ศ. ดร.อธิภัทร ทิ้งท้ายว่า หากต้องการเห็นเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน จุดเริ่มต้นไม่ควรอยู่ที่เงินเยียวยา แต่ต้องเริ่มจากการออกแบบโครงสร้างที่ทำให้แรงงานทุกกลุ่มมี “โอกาสที่แท้จริง” ในการลุกขึ้นและขยับฐานะทางเศรษฐกิจได้ด้วยตนเอง การเลือกตั้งครั้งนี้จึงควรเป็นเวทีที่พรรคการเมืองแสดงวิสัยทัศน์อย่างชัดเจน ว่าจะจัดการกับโจทย์เชิงโครงสร้างที่ท้าทายนี้อย่างไร ไม่ใช่เพียงการต่ออายุนโยบายเดิมที่คุ้นเคย

“ถ้าอยากให้เศรษฐกิจยั่งยืนต้องเริ่มจากโอกาส หากเรายังเน้นนโยบายที่ช่วยประคองเฉพาะหน้า โดยไม่แตะโครงสร้างพื้นฐานของโอกาส เราจะยังติดหล่มเดิม ถ้าอยากออกแบบนโยบายให้เศรษฐกิจไทยยั่งยืนจริง จุดเริ่มต้นไม่ใช่เงินเยียวยา แต่คือการทำให้แรงงานทุกกลุ่มมี “โอกาสที่แท้จริง” ในการลุกขึ้นและขยับขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงควรเป็นเวทีให้พรรคการเมืองแต่ละพรรค แสดงวิสัยทัศน์และข้อเสนอว่าจะตอบโจทย์เชิงโครงสร้างที่ท้าทายนี้อย่างไร” ศ. ดร.อธิภัทร ระบุ


แชร์
เลือกตั้ง69ชี้ชะตาศก.ไทย นักวิชาการชี้อย่าหลงเงินแจก เน้นแก้โครงสร้าง