สินทรัพย์ดิจิทัล

'Binance' เลือดไหล? คนแห่ถอนเหรียญพุ่งกว่า 6 หมื่นล้าน ภายใน 24 ชม. 

14 ธ.ค. 65
'Binance' เลือดไหล? คนแห่ถอนเหรียญพุ่งกว่า 6 หมื่นล้าน ภายใน 24 ชม. 

โลกคริปโทฯ จับตา 'Binance' หลังบริษัทสั่งห้ามถอน USDC ชั่วคราว ทำคนแห่ถอนเหรียญพุ่งกว่า 6 หมื่นล้านบาท ภายใน 24 ชม. 


ถ้าอดีตแพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซีเบอร์ 2 ของโลกอย่าง FTX ยังล้มละลายมาแล้ว ท่ามกลางการล้มหายตายจากของบริษัทคริปโทฯ หลายแห่งในปีนี้  "แล้วทำไมเบอร์ 1 อย่าง Binance จะล้มไม่ได้"

นี่คือประเด็นฮอตที่ชุมชนคริปโทฯ เช่นใน Cointelegraph กำลังคุยกันอยู่ในขณะนี้ หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณไม่ดีบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นทั้งกับไบแนนซ์ และผลพวงจากกรณี FTX ด้วย

cointelegraph

สัญญาณแรกคือ ไบแนนซ์ประกาศระงับการถอนเหรียญ USDC หรือเหรียญประเภท Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์ เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า ต้องระงับการถอนชั่วคราว เพราะกำลังดำเนินการสวอปเหรียญโทเคน เพื่อเปลี่ยนเหรียญสเตเบิลประเภทอื่น ๆ เช่น PAX หรือ BUSD เป็น USDC เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการถอน USDC ของนักลงทุน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมากลับเป็นกระแส "การแห่ถอนเหรียญ" ออกจากไบแนนซ์ ซึ่งบ่งชี้ถึง "ความไม่เชื่อมั่น" ที่กำลังเกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มเบอร์ 1 แห่งนี้

บริษัทข้อมูลบล็อกเชน แนนเซน (Nansen) เปิดเผยข้อมูลว่า ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ประกาศระงับการถอนเหรียญ USDC ไบแนนซ์เผชิญการแห่ถอนเหรียญไปมากถึง 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.57 หมื่นล้านบาท)  

มูลค่าดังกล่าวนับเป็นการถอนเหรียญรายวันครั้งใหญ่ที่สุดของไบแนนซ์ นับตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 65 และยังเป็นเงินส่วนใหญ่ที่ไหลเข้าแพลตฟอร์มตลอด 7 วันที่ผ่านมา (เงินเข้า 7 วัน ถูกถอนออกเกือบหมดภายในวันเดียว)

"นักลงทุนแห่ถอนคริปโทฯ ออกจากไบแนนซ์มากขึ้น เพราะความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับรายงานทุนสำรอง" โฆษกของนานเซนกล่าว

จ้าว ฉางเผิง หรือ CZ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของไบแนนซ์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า "การถอนคริปโทฯ ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องของธุรกิจตามปกติ วันนี้เราเห็นการถอนเงินสุทธิ 1.14 พันล้านดอลลาร์ แต่เราเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน บางวันเราก็เผชิญการถอนสุทธิ บางวันเราก็เผชิญการฝากสุทธิ"

000_32mm9eq(1)

ส่วนโฆษกไบแนนซ์ ก็ได้แถลงย้ำความเชื่อมั่นว่า บริษัทมีทุนสำรองเพื่อรองรับการถอนเงินมากเกินพอเสมอ "โดยสินทรัพย์ของผู้ใช้งานไบแนนซ์นั้นมีทุนสำรองในสัดส่วน 1:1 และโครงสร้างทุนของไบแนนซ์นั้นปลอดหนี้สิน"

เมื่อถูกถามว่าไบแนนซ์มีเหรียญ USDC เพียงพอสำหรับให้นักลงทุนถอนหรือไม่ โฆษกไบแนนซ์ระบุว่า บริษัทอาจต้องโยกย้ายทุนจากกระเป๋าออฟไลน์ไปยังกระเป๋าออนไลน์ รวมถึงแปลงเหรียญสเตเบิลคอยน์ชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง หรือปรับปรุงเครือข่าย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความล่าช้า

ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไบแนนซ์พยายามเรียกความเชื่อมั่นด้วยการโพสต์รายงาน "ทุนสำรอง" ที่จัดทำโดย Mazars บริษัทตรวจสอบบัญชีผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ โดยรายงานฉบับดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ไบแนนซ์ถือครองบิตคอยน์ในจำนวนมากกว่าที่ลูกค้าฝากเอาไว้ในวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด ไบแนนซ์ได้ออกมาประกาศผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อเวลา 23.54 น. วานนี้ (13 ธ.ค.) ตามเวลาในไทย ว่า ผู้ใช้งานสามารถกลับมาถอนเหรียญ USDC ได้ตามปกติดังเดิมแล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจุบันบรรดาผู้ใช้งานและหน่วยงานกำกับดูแล กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับวิธีการที่แพลตฟอร์มเทรดคริปโทฯ เช่น Binance และ FTX(ยื่นล้มละลายแล้ว) รับมือกับการฝากเหรียญคริปโทฯ ของลูกค้า 

ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีการล้มละลายของ FTX ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของทุกฝ่าย หลังมีการแฉว่า FTX เอาเงินลูกค้าไปค้ำให้บริษัทในเครือ ซึ่งล่าสุดนั้น แซม แบงก์แมน-ฟรีด (Sam Bankman-Fried) ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ FTX ได้ถูกทางการบาฮามาส ควบคุมตัวเอาไว้แล้วจากการร้องขอของฝ่ายกฎหมายในสหรัฐ ซึ่งทางอัยการและ ก.ล.ต.สหรัฐ ต่างก็ได้ยื่นฟ้องแบงก์แมนฟรีดแล้ว 

000_333m8lp

สำหรับราคาเหรียญต่างๆ ในช่วง 24 ชั่วโมง จากเว็บ Coinmarketcap เช่น Bitcoin, BNB, Binance USD และ USDC นั้น แม้จะมีแรงเทขายเกิดขึ้นแต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในภายหลัง ทำให้ราคาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กลับมาเป็นบวกได้ทุกตัว โดยเฉพาะบิตคอยน์ BTC ที่บวกได้ 3.48% ไปอยู่ที่ 17,765 ดอลลาร์/BTC เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ที่ผ่านมา 

advertisement

SPOTLIGHT