
ท่ามกลางการใช้นโยบายภาษีเชิงกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ หลายประเทศให้ความสนใจเข้าร่วม ‘ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค’ (CPTPP) เพื่อหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ ที่จะช่วยลดผลกระทบจากอัตราภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ
กัมพูชา เป็นประเทศล่าสุดที่มีข่าวว่าสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิก CPTPP โดย นิกเคอิเอเชีย (Nikkei Asia) รายงานเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 อ้างถึงคำบอกเล่าของแหล่งข่าวในญี่ปุ่นว่า กัมพูชาได้ยื่นหนังสือเพื่อขอเจรจาเข้าเป็นภาคี CPTPP แล้ว
กัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาสูงมาก การส่งออกสินค้าที่กัมพูชาส่งไปยังสหรัฐอเมริกาคิดเป็นประมาณ 40% ของสินค้าส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา โดยในปี 2024 กัมพูชาส่งออกไปยังสหรัฐฯเป็นมูลค่าประมาณ 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ฝั่งการนำเข้า กัมพูชานำเข้าจากสหรัฐฯ 319 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กัมพูชาได้ดุลและสหรัฐฯขาดดุล 12,300 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ กัมพูชาถูกสหรัฐฯกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 49% ก่อนที่ลดลงเหลือ 19% ในระหว่างที่โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่ขณะนี้ อัตราภาษีและข้อตกลงทางการค้ายังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ข้อตกลงทางการค้าเป็นเงื่อนไขให้กัมพูชาและไทยยุติการสู้รบ โดยชะลอการเจรจาการค้า และขู่ว่าจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากทั้งสองประเทศ หากไม่ยุติการสู้รบกัน
อัตราภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของกัมพูชา ตอกย้ำถึงความจำเป็นที่กัมพูชาจะต้องกระจายตลาดส่งออก และคาดว่านี่เป็นตัวเร่งให้กัมพูชาเร่งกระบวนการเพื่อยื่นสมัครเข้าร่วม CPTPP อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหกเดือน หลังจากที่ ฮุน มาเน็ต (Hun Manet) นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาได้ลงนามจัดตั้งคณะทำงานของรัฐบาลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าเป็นภาคี CPTPP เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025
การเข้าร่วม CPTPP ซึ่งเป็นกรอบความตกลงที่มุ่งส่งเสริมการค้าในประเทศสมาชิก โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้า หรือกำหนดอัตราภาษีในระดับที่ต่ำลง จะเป็นการเปิดโอกาสให้กัมพูชาเข้าถึงตลาดมูลค่าสูงที่มีประชากรประมาณ 590 ล้านคน มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันประมาณ 15.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 15% ของ GDP โลก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน CPTPP เป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เมื่อพิจารณาจาก GDP โดยมีสมาชิก ได้แก่ เม็กซิโก ญี่ปุ่น สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย เวียดนาม เปรู มาเลเซีย ชิลี บรูไน และสหราชอาณาจักร ซึ่งกัมพูชายังส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านี้ไม่มาก โดยมี 8 ใน 12 ประเทศที่กัมพูชาส่งออกไปเป็นมูลค่าไม่ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2024
การเจรจาเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP จะเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกทั้ง 12 ประเทศให้ความยินยอม โดยจะมีการเจรจาในหลายประเด็น รวมถึงขอบเขตของการยกเลิกภาษีศุลกากร ส่วนการเข้าเป็นสมาชิก จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิก
ปัจจุบันมี 10 ประเทศและภูมิภาค (รวมกัมพูชา) ที่กำลังเจรจาหรือยื่นสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP โดยคอสตาริกาอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย ขณะที่อุรุกวัยได้รับความยินยอมเปิดการเจรจาจากประเทศสมาชิก CPTPP เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
สื่อกัมพูชาเคยรายงานเชิงวิเคราะห์ว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่จะวางตำแหน่งประเทศของตนเองให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในระบบการค้าโลก
นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์นโยบายเชื่อว่า แม้เส้นทางสู่การเข้าร่วม CPTPP จะยาวนานและซับซ้อน แต่ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับนั้นจะช่วยเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของกัมพูชาซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นอย่างมาก ทั้งจะเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น เพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และจะช่วยในการปฏิรูปภายในประเทศ
จายันต์ เมนอน (Jayant Menon) นักวิจัยอาวุโสจากสถาบัน ISEAS–Yusof Ishak ในสิงคโปร์กล่าวว่า การเป็นสมาชิก CPTPP จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่มีมูลค่าสูงของกัมพูชาได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังจะช่วยให้กัมพูชาสามารถกระจายความร่วมมือทางการค้าและลดการพึ่งพาตลาดดั้งเดิม อย่างสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการให้สิทธิพิเศษบางครั้งเชื่อมโยงกับข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล
อ้างอิง: Nikkei Asia, USTR, Cambodianess