
Bank of America ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าธนาคารจะเริ่มอนุญาตให้ที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่ง สามารถแนะนำการจัดสรรสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีในพอร์ตการลงทุนของลูกค้าได้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
นับตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม เป็นต้นไป ที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งของ Bank of America Private Bank, Merrill, และ Merrill Edge จะสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีได้หลายรายการแก่ลูกค้า โดยไม่มีการจำกัดเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ (Asset Threshold) ใด ๆ
ก่อนหน้านี้ Bank of America ไม่ได้ปฏิเสธคริปโทเคอร์เรนซีเสียทีเดียว แต่ระเบียบของธนาคารกำหนดให้ลูกค้าที่มีมูลค่าสินทรัพย์ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สามารถเข้าถึง Bitcoin ETF ได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงล่าสุดนี้นับเป็นการยกระดับบทบาทของที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งของธนาคาร จากการเป็นผู้ดำเนินการคำสั่งคริปโทเคอร์เรนซีเป็นผู้แนะนำการลงทุนอย่างเต็มตัว
ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบันหลายรายนิยมถือครองคริปโทเคอร์เรนซีผ่าน ETF และ ETP เนื่องจากให้สภาพคล่องและความปลอดภัยที่สูงกว่า รวมถึงมีความซับซ้อนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการจัดการสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง
Chris Hyzy ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Merrill และ Bank of America Private Bank กล่าวว่าสำหรับนักลงทุนที่มีความสนใจในนวัตกรรมและสามารถยอมรับความผันผวนที่สูงได้ การจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงเล็กน้อยที่ระดับ 1-4% อาจเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม
ความเคลื่อนไหวของ Bank of America นับเป็นสัญญาณการยอมรับที่สำคัญในภาคสินทรัพย์ดิจิทัล สอดคล้องกับแนวทางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงผลักดันมาตรการผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับสินทรัพย์ประเภทนี้ ส่งผลทำให้คริปโทเคอร์เรนซีได้รับอานิสงส์จากการนำไปใช้โดยสถาบันต่าง ๆ อย่างกว้างขวางมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ได้ออกมาเตือนถึงความผันผวนและแสดงความกังวลด้านความปลอดภัยในฐานะสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง โดยระบุว่า Bitcoin สูญเสียมูลค่าไปกว่า 18,000 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีเงินจำนวนมากไหลออกจากตลาดอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับเป็นการสูญเสียมูลค่ารายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่สกุลเงินดิจิทัลจำนวนหนึ่งล่มสลาย
อ้างอิง: Reuters