Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ผ่าอนาคตคริปโทฯ เมื่อสหรัฐฯโอบรับ Bitcoin ผ่านมุมมอง 3 กูรูไทย
โดย : ปาณิสรา สุทธิกาญจนวงศ์

ผ่าอนาคตคริปโทฯ เมื่อสหรัฐฯโอบรับ Bitcoin ผ่านมุมมอง 3 กูรูไทย

12 พ.ย. 68
17:20 น.
แชร์

หลังจากที่โดนัล ทรัมป์ กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าทิศทางของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะได้รับแรงหนุนเป็นพิเศษ ทั้งการส่งเสริมให้รัฐบาลสหรัฐถือครอง Bitcoin, การเปลี่ยนแปลงหัวหน้าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SEC) หรือแม้แต่การผลักดันกฎระเบียนที่สนับสนุนตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยเฉพาะในวันที่โลกแบ่งเป็น 2 ขั้วคือ สหรัฐฯและจีน ได้ส่งผลมายังตลาดการลงทุนด้วยเช่นกัน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศเป็น Crypto Capital ส่วนประเทศจีนประกาศหนุนการสะสมทองคํา คําถามสำคัญคือ ประเทศไทยเราควรเลือกแบบไหน ? เราควรเก็บ Bitcoin ไว้ในกองทุน Strategic reserve หรือไม่? เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลเร็วทีสุดของโลก

บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาหาคําตอบ โดยได้สรุปเนื้อหาสำคัญมากจากงานเสวนาหัวข้อ "อนาคตประเทศไทยในวันที่สหรัฐฯ โอบรับ Bitcoin " โดยคุณพิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้ง Right Shift คอมมูนิตี้บิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย, ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ, นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์แห่งประเทศไทย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เเละ คุณทิพยสุดา ถาวรามร อดีตรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ณ งาน Thailand BlockChain Week 2025

ประเทศไทยและกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล

คุณทิพยสุดา ถาวรามร อดีตรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากฎเกณฑ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และระบบนิเวศการลงทุนยุคใหม่ในประเทศไทย เล่าให้ฟังถึงช่วงการผลักดันกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยในช่วงเริ่มต้นว่า ในช่วงแรกกระทรวงการคลังอยากออกกฎหมายนี้เพื่อต้องการ “ความชัดเจน” ให้การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ภายใต้กรอบการกำกับดูแลในขอบเขตที่กฎหมายสามารถทำได้และที่สำคัญคือกฎหมายต้องปฎิบัติได้จริง

ซึ่งตอนนั้นประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่ผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีสถานะทางกฎหมาย ในปี พ.ศ. 2561 ด้วยพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

คุณทิพยสุดา ยังได้เล่าต่ออีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่เราต้องการ คือ การแสดงให้เห็นว่าคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ใช่ของผิดกฎหมาย มันสามารถมีความชัดเจนได้ และเป็นของที่ถูกกำกับดูแลได้อย่างถูกต้องด้วยตัวกฎหมาย

สิ่งที่ดีขึ้นมันทำให้มีความชัดเจน ว่าคริปโทฯไม่ได้ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ถูกกำกับดูแลอย่างถูกต้องได้ ซึ่งดีกว่าปล่อยให้คลุมเครือ ไม่รู้ว่ามันถูกหรือไม่ถูก

คลังควรเก็บ Bitcoin ไว้ในกองทุน Strategic reserve

ด้านคุณพิริยะ สัมพันธารักษ์ ได้แชร์มุมมองต่อรัฐบาล ในฐานะ ผู้ก่อตั้ง Right Shift คอมมูนิตี้บิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ว่า รัฐบาลควรพิจารณาการเก็บ coin ซึ่งเป็น  Strategic reserve (สำรองเชิงยุทธศาสตร์) หรือ ทรัพยากรที่รัฐบาล องค์กร หรือธุรกิจสำรองไว้เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิกฤตที่คาดไม่ถึง

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ให้ Bitcoin มาใช้แทนเงิน หรือสามารถใช้จ่ายแทนได้ทุกอย่าง เพราะต้องอย่าลืมว่า Bitcoin เกิดมาเพียงแค่ 17 ปี ซึ่งถือว่ามีอายุน้อยมากๆหรือเรียกกว่าเป็น baby เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น Bitcoin ยังไม่สามารถมาควบคุมเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่คลังจะไม่มี Bitcoin ในพอร์ตบ้าง

มองการลงทุน คริปโทฯ ผ่าน ดร.กอบศักดิ์

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ, นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์แห่งประเทศไทย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เล่าว่า หากทุกคนยังจำกันได้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ทุกคนต่างกลัวการมีบทบาทของคริปโทเคอร์เรนซี โดยกระทรวงการคลังของทุกประเทศบอกว่าเราต้องฆ่าคริปโทฯให้ได้

แต่วันนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจกลไกการทำงานของ Blockchain อย่าง Bitcoin ก็ได้ถูกพัฒนามาระยะเวลาหนึ่ง ทุกสินทรัพย์ต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากก่อนที่จะเข้าสู่ยุครุ่งเรือง ซึ่งในช่วงแรกๆ Bitcoin ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์หน้าใหม่ ทำให้หน่วยงานกำกับดูแล หรือ ผู้ควบคุม ยังเกิดความสับสนในการออกกกฎหมายให้ตอบโจทย์และคลอบคลุม

ดร.กอบศักดิ์ ได้แชร์มุมมองต่อว่า การที่ทรัมป์ได้ประกาศว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็น Crypto Capital อาจะส่งผลดีต่อตลาดคริปโทฯในระยะยาว เพียงแต่เราอาจต้องรอเวลา พร้อมทิ้งท้ายว่า “คิดว่ายังไงคริปโทฯก็มาแน่”

จีนเลือกทองคำ สหรัฐฯเลือกคริปโทฯ แล้วไทยต้องเลือกอะไร ?

คุณพิริยะ ได้เล่าว่า เมื่อ 2 ประเทศ 2 ขั้วอำนาจเลือกสินทรัพย์ที่สร้างบทบาทผู้นำโลกทางการเงิน แล้วประเทศไทยต้องเลือกอะไร ?

สหรัฐอเมริกา ขั้วอำนาจเก่าที่ยังคงต้องการเป็นผู้นำโลกยุคใหม่เลือกสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin และ Stablecoin เป็นส่วนหนึ่งของระบบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของดอลลาร์ในระยะยาว

ส่วนจีน ประเทศขั้วอำนาจใหม่ที่มีเงินเฟ้อมหาศาลจากแรงอัดฉีดจากรัฐบาล และเมื่อจีนกับสหรัฐฯขัดแย้งกัน ทางออกคือจีนต้องทิ้งสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับสหรัฐฯเพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ และคำตอบก็คือ “การเก็บและสะสมทองคำ” เพราะถ้าหากเข้าไปยุ่งกับ Bitcoin จะทำให้ควบคุมกระแสเงินทุนไม่ได้

ส่วนมุมมองของประเทศไทย คุณพิริยะ ได้แชร์ความคิดเห็นว่า เราควรเป็นกลางเพราะมันจะอันตรายมากหากเราเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งอย่างจริงตัง โดยภาคธุรกิจก็อาจเริ่มถือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้เป็นทุนสำรอง หรือรองรับชำระในรูปแบบ Bitcoin และ Stablecoin

เลิกขีดเส้นการเงินโลกเก่า VS การเงินโลกใหม่

ดร.กอบศักดิ์ ได้แชร์มุมมองในฐานะ บุคคลที่ที่ทำงานในวงการการเงินทั้ง 3 บทบาท (ตลาดทุน, banker,แบงก์ชาติ) ว่าเราควรเลิกขีดเส้นแบ่งโลกการเงินเก่า (traditional asset) และ โลกการเงินใหม่ (digital asset) เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างมันจะผสมผสานกันในทุกมิติ

ส่วนในฐานะ Banker ก็ต้องยอมรับว่าการที่คริปโทเคอร์เรนซีเข้ามา มันทำให้สถานบันการเงินได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม สิ่งที่เราต้องทำคือ “ต้องปรับตัว ต้องสู้กับการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเราที่ตาย” โดยสิ่งที่ดีของคริปโทเคอร์เรนซี ของกลไก Blockchain ซึ่งตอนนี้เราทุกคนก็ควรที่จะเรียนรู้และปรับใช้ให้ได้มากที่สุด เช่น ปรับโครงสร้างระบบเงินฝากให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ดร.กอบศักดิ์ ได้เล่าว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมาย Digital Asset เร็วที่สุดประเทศหนึ่งของโลก จากบทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าเราควรมีกฎหมายเข้มไว้ก่อนดีกว่า เพราะทุกสถาบันการเงินจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่น ดังนั้นกฎหมายเปรียบเสมือนกับสิ่งที่คุ้มครองทั้งประเทศ และนักลงทุนในบ้าน

แชร์
ผ่าอนาคตคริปโทฯ เมื่อสหรัฐฯโอบรับ Bitcoin ผ่านมุมมอง 3 กูรูไทย