Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กนง.มติเอกฉันท์ หั่นดอกเบี้ยเหลือ1.25%  พยุงเศรษฐกิจชะลอ-กำลังซื้ออ่อน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

กนง.มติเอกฉันท์ หั่นดอกเบี้ยเหลือ1.25% พยุงเศรษฐกิจชะลอ-กำลังซื้ออ่อน

17 ธ.ค. 68
14:14 น.
แชร์

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 โดยระบุว่า คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.50 เหลือร้อยละ 1.25 และให้มีผลทันที สะท้อนมุมมองของคณะกรรมการต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เริ่มชะลอตัวชัดเจนขึ้น พร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง แม้ภาคท่องเที่ยวจะทยอยกลับมา แต่การบริโภคภาคเอกชนและภาคส่งออกเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังตึงตัวสำหรับบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง กนง. จึงเห็นว่านโยบายการเงินควรมีบทบาทช่วยพยุงเศรษฐกิจและลดภาระทางการเงินในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังอยู่ในระดับสูง

ลดดอกเบี้ยรับมือเศรษฐกิจชะลอ เสริมแรงพยุงการฟื้นตัว

กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569 และ 2570 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยแรงฉุดหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัวตามแนวโน้มรายได้ และการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ แม้ภาคการท่องเที่ยวจะทยอยฟื้นตัว แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากภาคอื่นได้ทั้งหมด

ภายใต้บริบทดังกล่าว คณะกรรมการเห็นว่านโยบายการเงินยังมีพื้นที่ในการผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม ควบคู่กับการช่วยบรรเทาภาระหนี้ของภาคครัวเรือนและธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง รวมถึงเสริมประสิทธิผลของมาตรการทางการเงินและนโยบายด้านอื่นของภาครัฐ การลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการปรับจังหวะนโยบายให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลงและมีความเสี่ยงสูงขึ้น

แนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงินยังเปราะบาง

กนง. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 2569 และ 2570 จะขยายตัวร้อยละ 2.2 ร้อยละ 1.5 และร้อยละ 2.3 ตามลำดับ โดยเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ชะลอลงจากปัจจัยชั่วคราวในภาคการผลิต การลดลงของนักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ และผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งอาจลากยาวถึงต้นปีหน้า

ส่วนปี 2569 เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำลงตามการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกที่ถูกกดดัน ขณะที่ปี 2570 แม้จะเริ่มฟื้นตัว แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพ โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคบริการ ท่ามกลางการแข่งขันสูงในภาคการผลิตและการส่งออกสินค้า

ด้านเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงปี 2568–2570 ถูกปรับประมาณการลงมาอยู่ที่ร้อยละ -0.1 ร้อยละ 0.3 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ สะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่อยู่ในระดับต่ำจากราคาพลังงานโลกที่ลดลง มาตรการอุดหนุนค่าครองชีพของภาครัฐ และอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่แข็งแรง แม้ความเสี่ยงเงินฝืดจะอยู่ในระดับต่ำ แต่คณะกรรมการเห็นว่าจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ และเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย

ในด้านภาวะการเงิน อัตราดอกเบี้ยในระบบปรับลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ช่วยลดต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ได้บางส่วน อย่างไรก็ดี สินเชื่อรวมยังหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนความระมัดระวังของทั้งผู้กู้และสถาบันการเงิน โดยเฉพาะต่อ SMEs และครัวเรือนรายได้ต่ำที่ยังเผชิญข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าอยู่ในกลุ่มนำของภูมิภาคจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยเฉพาะของไทย ซึ่ง กนง. ระบุว่าจะติดตามการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

กนง. ย้ำว่า ภายใต้กรอบนโยบายที่มุ่งรักษาเสถียรภาพราคา สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน และดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน นโยบายการเงินในระยะต่อไปควรอยู่ในระดับผ่อนคลาย พร้อมความยืดหยุ่นในการปรับให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยคำนึงถึงข้อจำกัดของนโยบายการเงินในการรองรับความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดในอนาคตควบคู่กันไป

แชร์
กนง.มติเอกฉันท์ หั่นดอกเบี้ยเหลือ1.25%  พยุงเศรษฐกิจชะลอ-กำลังซื้ออ่อน