สินทรัพย์ดิจิทัล

บิตคอยน์ อาจแตะ 1 แสนดอลลาร์ ในปี 2024 จุดเริ่มต้นภาวะตลาดกระทิง 

4 ธ.ค. 66
บิตคอยน์ อาจแตะ 1 แสนดอลลาร์ ในปี 2024 จุดเริ่มต้นภาวะตลาดกระทิง 

ราคาบิตคอยน์วันนี้ (4/12/66) ปรับตัวพุ่งขึ้น 3.3% ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทะลุ 40,000 ดอลาร์สหรัฐต่อบิตคอยน์ ขณะที่กระดานเทรดของ Bitkub ราคาบิตคอยน์ ทะลุ 1,400,000 บาทต่อบิตคอยน์เช่นกัน โดยทำราคาสูงสุดที่ 1,419,000 บาท/บิตคอยน์ 

การที่ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 40,000 ดอลลาร์นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 โดยมีหลายปัจจัยหนุนให้ราคาพุ่งขึ้น โดยเฉพาะปีน้าที่มีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย  ขณะเดียวกันก็จะมีกาจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF สำเร็จเป็นครั้งแรกในสหรัฐคาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมกราคมปีหน้า  และนับจากต้นปี 2566 นี้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 120% ในปีนี้ 

บิตคอยน์พุ่ง

ข้อมูลจาก : Bitkub Blog   รายงานสกุลเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ เช่น Ethereum (ETH) ก็มีมูลค่าสูงขึ้นมาประมาณ 3.11% ทำระดับสูงสุดที่ 75,788 บาท หรือ Cardano (ADA) ที่ปรับขึ้นได้ 2.44% ทำระดับสูงสุดที่ 14.00 บาท

ขณะที่ CNBC รายงานความคิดเห็นของบรรดาผู้บริหารในวงการคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มองช่วงเวลานี้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะตลาดกระทิง ทั้งนี้มีการประเมินราคาบิตคอยน์สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นการทำลายสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบิตคอยน์ที่เคยทำไว้ราว 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021

Pascal Gauthier ซีอีโอของ Ledger ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อสัปดาห์ก่อน มองว่า บิตคอยน์ในปี 2023 เป็นปีแห่งการเตรียมพร้อมเพื่อวิ่งขึ้นต่อเข้าสู่ตลาดกระทิงในปี 2024 และ 2025 

Bitkub Blog   วิเคราะห์ว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 FED ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อถึง 11 ครั้ง ทำให้อัตราดอกเบี้ยขึ้นมาอยู่ที่  5.25% - 5.5% นับเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงมักส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ซบเซามาเกือบตลอดปี พ.ศ. 2566

แต่ในการประชุม FED ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการ FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสัญญาณว่า FED อาจเริ่มควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้แล้ว ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ค่อย ๆ ปรับสูงขึ้นหลังทราบผลการประชุม

สำหรับการประชุม FED ครั้งต่อไปที่จะเกิดช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าคณะกรรมการน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อจับตาดูสถานการณ์ของเศรษฐกิจ ขณะที่ทาง Jerome Powell ประธาน FED ได้กล่าวว่า “ยังเร็วเกินไปที่เราจะตัดสินว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสม หรือเริ่มคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่เราจะเริ่มผ่อนคลายนโยบาย”

แม้ถ้อยคำของประธาน FED จะกล่าวในเชิงระมัดระวัง แต่ดูเหมือนว่าตลาดจะมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง จึงส่งผลให้ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้นกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง BTC

อีกปัจจัยที่ส่งผลบวกกับราคา Bitcoin น่าจะมาจาก Bitcoin Halving ที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่มักทำให้ตลาดคริปโตกลับเข้าสู่ขาขึ้นในระยะยาวได้ โดยคาดว่า Bitcoin Halving ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นภายในช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้รางวัลจากการขุด Bitcoin ลดลงอีกครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ส่งผลให้อุปทานของบิทคอยน์น้อยลงไปอีก นักลงทุนจึงเริ่มซื้อบิทคอยน์เพื่อสะสมรอการมาถึงของ Bitcoin Halving4

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ความร้อนแรงของราคาในโลกสินทรัพย์ดิจิทัลพุ่งแรงในปี 2021 ต้องยอมรับว่าในปี 2022 นี้อุตสาหกรรมคริปโทฯได้รับผลกระทบจากปัญหามากมายตั้งแต่การล่มสลายของหลายๆเหรียญและหลายโครงการสินทรัพย์ดิจิทัล  ที่สั่นสะเทือนวงการเห็นจะเป็นการล้มละลายและการพิจารณาคดีทางอาญขอ FTX อดีตบริษัทซื้อขายคริปโทที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทำให้ผู้ก่อตั้งอย่าง Sam Bankman-Fried ต้องเผชิญกับโทษจำคุกกว่า 100 ปี หลังจากที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงทางอาญาถึง 7 กระทง

ในขณะเดียวกัน CEO Binance อย่างจ้าว ฉางเผิง ก็ได้ลาออกหลังจากรับสารภาพความผิดฐานละเมิดพ.ร.บ.ความลับของธนาคารและถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อกำหนดต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาต้องรับผิดชอบค่าปรับกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ (1.51 แสนล้านบาท) กับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่กดดันบรรยากาศการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี่ในช่วงปี 2023 แต่ปลายปีส่งท้ายที่ราคาบินคอยน์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ทำให้ในปั 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่กำลังถูกจับจ้องอีกครั้ง และหวังว่าบทเรียนในอดีตจะทำให้นักลงทุนทำความเข้าใจกับการลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัลได้มากขึ้น

ที่มา Bitkub , CNBC 

advertisement

SPOTLIGHT