ปฏิบัติการล่า ‘Do Kwon’ เจ้าพ่อเหรียญ LUNA ยังคงดำเนินต่อไปหลัง มหันตภัย LUNA เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 8 เดือน ซึ่งจากข้อมูลเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักอัยการของเกาหลีได้เปิดเผยว่าเขาได้เดินทางจากสิงคโปร์ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศหนึ่งในยุโรป โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด แหล่งข่าววงในเชื่อว่าประเทศที่เขากำลังกบดานอยู่นั้น คือ ‘เซอร์เบีย’
istock-586187250.jpg "Do Kwon เซอร์เบีย")
หนังสือพิมพ์ Chosun Ilbo รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้ ได้เบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ปัจจุบันของ Do Kwon ว่าเขากำลังอยู่ที่ประเทศเซอร์เบีย และอ้างว่าข่าวกรองดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง โดยในขณะนี้ ทางการเกาหลีใต้ กำลังอยู่ในระหว่าง “การขอความร่วมมือจากรัฐบาลเซอร์เบีย” เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป
ในช่วงปลายเดือนเมษายนก่อนเหตุการณ์การล่มสลายของเหรีญ LUNA - TerraUSD เพียงไม่นาน Do Kwon ได้เดินทางออกจากประเทศเกาหลีใต้ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และห่างหายไปจากหน้าสื่อพักใหญ่ ทิ้งให้ทั้งแฟนคลับ เจ้าหนี้ และเจ้าหน้าที่รัฐคิดถึงอยู่หลายเดือน ก่อนจะกลับมาปรากฏโฉมผ่านรายการสัมภาษณ์ของ Coinage ซึ่ง Terraform Labs บริษัทของเขาเป็นหนึ่งในผู้ลงทุน ในการสัมภาษณ์ครั้งนั้นเขากล่าวว่า
“เราไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่สืบสวนเลย พวกเขาไม่เคยตั้งข้อหาอะไรกับเราเลย”
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ แต่คำพูดดังกล่าวก็ดูเหมือนว่าจะไป ‘กระตุกหนวดเสือ’ หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยงานในเกาหลีใต้ก็ตั้งข้อหา Do Kwon กับพรรคพวกหลากหลายกระทง อาทิ สำนักงานอัยการในเกาหลีได้ออกหมายจับ Do Kwon และพวกในข้อหาฝ่าฝืนกฎตลาดทุนของเกาหลี (14 ก.ย. 65), ตำรวจสากลได้ออกหมายแดง (Red Notice) แก่ Do Kwon (26 ก.ย. 65), กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้ออกคำสั่งให้ Do Kwon คืนพาสปอร์ต หากฝ่าฝืนจะเพิกถอนพาสปอร์ต (6 ต.ค. 65) โดย
นอกจากจะถูกตั้งข้อหาจากทางการเกาหลีใต้แล้ว Do Kwon ยังถูกฟ้องในสิงคโปร์เรียกค่าเสียหายมูลค่า 57 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 2 พันล้านบาทอีกด้วย
อย่างไรก็ดี Do Kwon ก็ยังถือว่า ‘ลอยนวล’ อยู่ เพราะเขาก็ยังไม่ถูกจับกุมตัวโดยรัฐบาลเกาหลี แม้ปัจจุบัน เกาหลีใต้กับเซอร์เบียก็ยังไม่มีความร่วมมือแบบทวิภาคีในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ทั้งสองประเทศนั้นก็ยังต้องปฏิบัติตามในสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหภาพยุโรป
ซึ่งตัว Do Kwon เองก็ยืนยันว่าเขา ‘ไม่ได้กำลังหนี และไม่มีอะไรต้องปิดบัง’ และกลับมาเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลตามปกติแล้ว
ที่มา : Coin Telegraph, CoinMarketCap, Yahoo Finance, Coinage