สินทรัพย์ดิจิทัล

จับคดีเหรียญ LUNA คนแรกได้แล้ว! เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของ "โด ควอน"

7 ต.ค. 65
จับคดีเหรียญ LUNA คนแรกได้แล้ว! เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของ "โด ควอน"

คดีเหรียญ LUNA มีความคืบหน้าสำคัญ เมื่อเกาหลีใต้สามารถรวบตัวมือขวาคนสนิทของ "โด ควอน" ได้แล้ว แต่ยังต้องลุ้นต่อว่ากฎหมายจะทำอะไรได้แค่ไหน หลังถูกปล่อยตัวแล้วเพราะศาลไม่อนุมัติการออกหมายจับ

 

สำนักข่าว Forkast รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้สามารถควบคุมตัวนาย Yoo Mo ซึ่งเป็นผู้ช่วยของ "โด ควอน" (Do Kwon) ผู้ก่อตั้ง Terraform Labs ได้แล้ว โดยนับเป็นบุคคลแรกที่ถูกควบคุมตัวได้ในคดีเหรียญ LUNA ล่มสลายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ควบคุมตัวนาย Yoo Mo ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมธุรกิจของ Terraform Labs ไว้ในชั้นสอบสวน และได้แจ้งข้อหาละเมิดกฎหมายตลาดทุนและข้อหาฉ้อโกง จากการปั่นราคาเหรียญ TerraUSD (UST) จากโปรแกรม Bot แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่ามีการเข้าควบคุมตัวอย่างไร หรือนาย Yoo Mo เดินทางกลับมาจากประเทศไหน หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม รายงานของสื่อท้องถิ่นอย่าง SBS และ Yonhab ระบุว่า อัยการได้ปล่อยตัว Yoo Mo  ในเวลาต่อมา หลังจากศาลเกาหลีใต้ไม่อนุมัติการขอออกหมายจับ โดยผู้พิพากษาฮงจินพโย ให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาบางส่วนไปแล้ว อีกทั้งเจ้าตัวและครอบครัวยังมีแหล่งพำนักที่ชัดเจนในเกาหลีใต้ และยังอยู่ภายใต้คำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องออกหมายจับแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ อัยการเกาหลีใต้ออกหมายจับโดควอนและพวก เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจสากลหรือ Interpol จะได้รับการร้องขอจากรัฐบาลเกาหลีใต้ และออกหมายแดงเพื่อจับกุมตัวแก๊งค์นี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย.

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานจากตำรวจสิงคโปร์ว่า โดควอนไม่ได้อยู่ในประเทศสิงคโปร์แล้ว ซึ่งเป็นไปได้ว่าเขาอาจหลบหนีออกจากสิงคโปร์ไปแล้ว หลังเผชิญหมายจับของทั้งเกาหลีและอินเตอร์โพล อีกทั้งยังถูกเกาหลีใต้เพิกถอนหนังสือเดินทางอีกด้วย แต่เจ้าตัวได้ระบุผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ไม่ได้หลบหนี และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่การพยายามจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนนั้นถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว

slcv_25

เหตุการณ์ที่เหรียญ LUNA และ UST ล่มสลายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นมหากาพย์และเป็นเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ในวงการคริปโทเคอร์เรนซีรุนแรงที่สุด

เพราะไม่เพียงแต่อีโคซิสเต็มของ Terra มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์จะล่มสลายแล้ว ก็ยังทำให้มูลค่าของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีหายวับไปถึงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลกระทบชิ่งเป็นลูกโซ่ไปถึงเจ้าหนี้และลูกหนี้อีกหลายราย เกิดการล้มละลายของบริษัทคริปโทอีกหลายแห่งตามมา เช่นเดียวกับผู้เล่นหลายรายที่ถึงขั้นล้มละลาย และมีรายงานการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในต่างประเทศด้วย 

ทั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงอัยการเกาหลีใต้ที่ตั้งข้อหาโดควอนและพวก แต่ยังมีผู้เสียหายในเกาหลีที่รวมตัวกันยื่นฟ้อง เช่นเดียวกับในสหรัฐ ที่มีทั้งการฟ้องเดี่ยวและการรวมกลุ่มกันฟ้อง (Class action lawsuit) เกิดขึ้นถึง 3 เคสด้วยกัน ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนกฎหมายเพื่อควบคุมอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีให้รัดกุมขึ้น 

advertisement

SPOTLIGHT