ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2025 หลังจากที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารซึ่งส่งผลให้นายทหารระดับสูงและนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวจุดชนวนให้เกิดการตอบโต้ทางทหารจากฝ่ายอิหร่าน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงระดับภูมิภาคที่อาจส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดคริปโทฯ
ในเชิงกลยุทธ์มี 2 สถานการณ์ที่ต้องจับตาว่าสงครามครั้งนี้จะลุกลามและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างหรือไม่ คือ
โดยอิหร่านถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อันดับที่ 5 ของโลกตามข้อมูลจาก EIA โดยมีปริมาณการผลิตราว 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2025) อีกทั้งยังควบคุมเขตน่านน้ำสำคัญอย่างช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดผ่านของน้ำมันโลกกว่า 20% หากอิหร่านมีความเคลื่อนไหวเพื่อปิดช่องทางนี้จริง จะส่งผลกระทบต่อซัพพลายทันที และอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งเกินระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในระยะเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสน้อยที่จะเกิดกรณีดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันเรายังไม่เห็นสัญญาณว่ากลุ่มประเทศอาหรับจะแสดงท่าทีสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางทหารของอิหร่านแต่อย่างใด โดยตราบใดที่ราคาน้ำมันยังไม่ได้เหนือระดับ 90-100 เหรียญต่อบาร์เรลต่อเนื่องในระดับเดือน ผลกระทบต่อเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจโลก และการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่ายังคงจำกัด
แม้ความเสี่ยงในการยกระดับความขัดแย้งยังอยู่ในระดับ “ควบคุมได้” จากท่าทีที่ระมัดระวังของจีนและรัสเซียซึ่งต่างยังเผชิญกับปัญหาของตนเองทั้งสงครามการค้าและสงครามพรมแดน แต่สหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนผ่านถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหมว่า “จะไม่เพิกเฉย” หากอิหร่านยังคงใช้กำลังทางทหารต่อไปอีก โดยให้เวลาภายใน 14 วันเพื่อยุติปฏิบัติการ
ซึ่งดูเหมือนเป็นสไตล์การเจรจาและกดดันคล้ายกับสงครามการค้าของทรัมป์มากกว่า และการเข้ามาของสหรัฐฯ แต่เพียงฝ่ายเดียวดูจะเป็นตัวเร่งให้สงครามจบ กดดันให้อิหร่านยอมศิโรราบมากกว่าการทำให้สงครามยืดเยื้อบานปลาย ทำให้โอกาสเห็นการลุกลามของสงครามในวงกว้างยังคงจำกัดเช่นกัน
โดยเรามีมุมมองว่าสงครามอิสราเอล-อิหร่าน จะกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดคริปโทฯ จำกัดโดยมี Key factors ที่ต้องติดตามคือ (1)ราคาน้ำมันยืนเหนือ 90 เหรียญต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลานาน (2)การปิดช่องแคบฮอร์มุซ และ (3)การยกระดับเป็นสงครามตัวแทน ที่แม้ทั้ง 3 ปัจจัยนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่หากเกิดขึ้นจะเพิ่ม downside risk ให้กับตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้สถิติย้อนหลังที่ศึกษาผลกระทบของตลาดทุนซึ่งเป็นตัวแทนสินทรัพย์เสี่ยงกับเหตุการณ์สงครามต่าง ๆ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ย้อนหลังไปกว่า 80 ปีจนถึงปัจจุบันกว่า 30 สงครามโดย Bloomberg และ Deutsche bank พบว่าตลาดมักปรับตัวลงแค่เพียงช่วงแรกของสงคราม โดยจากค่ากลาง (Median) ตลาดจะปรับตัวลง 17 วัน ราว 6.3% ก่อนที่จะใช้เวลา 16 วันในการทำจุดสูงสุดใหม่ แม้สงครามยังยืดเยื้อต่อ
หมายเหตุ
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Sources:
https://www.marketwatch.com/livecoverage/stock-market-today-dow-futures-climb-after-iran-attack-on-israel-causes-little-damage/card/geopolitics-rarely-has-a-lasting-impact-on-stocks-at-least-not-recently-deutsche-bank-DxZj1kEXp31pLHR0Foch
https://www.voronoiapp.com/energy/-Chinas-Crude-Oil-Import-Sources-in-2024-3853
https://x.com/macromicrome/status/1933365886561444064?s=61&t=Z_MoS7bWZhnZr4qCmp-lQA