ช่วงบ่ายของวันที่ 10 กันยายนตามเวลาท้องถิ่นรัฐยูทาห์ นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา ชาร์ลี เคิร์ก วัย 31 ถูกยิงที่บริเวณคอขณะประกอบกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เอเลน เทรเนอร์ ตัวแทนมหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์เปิดเผยว่า ปืนถูกยิงมาจากอาคาร Losee Center ซึ่งเป็นอาคารที่ห่างออกไปจากจุดปราศัยราว 180 เมตร
นักศึกษาผู้เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์ เอ็มมา พิตตส์กล่าวว่า เห็นเลือดออกมาจากคอของชาร์ลีในทันที
“คุณจะได้เลยว่าเคิร์กตัวเซ คอเขาบิดเบี้ยว แล้วเลือดก็ไหลออกมาในทันที” เธอบรรยาย
หลังการสังหาร มหาวิทยาลัยปิดพื้นที่เอาไว้ เจ้าหน้าที่เร่งหาผู้ต้องสงสัย แม้มีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยแล้วสองคน แต่เจ้าหน้าที่พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้ปล่อยตัวไปแล้ว ขณะนี้ยังหาผู้ก่อการไม่พบ
เคิร์กเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองฝ่ายขวา และผู้ก่อตั้งกลุ่ม Turning Point USA กลุ่มกิจกรรมทางการเมืองที่ดำเนินการโดยคนรุ่นใหม่ กลุ่มจัดกิจกรรมทางการเมืองให้โรงเรียนมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัย ด้วยการจัดการเสวนาหรือการประชุมการเมืองเพื่อให้ข้อมูลด้านการเมือง เศรษฐกิจ ในแง่มุมอนุรักษ์นิยม
เช่นเดียวกับที่กลุ่มทำเป็นประจำ เมื่อวานนี้เคิร์กจัดกิจกรรมในพื้นที่มหาวิทยาลัย โดยได้รับเชิญจากกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์เอง เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เคิร์กเพิ่งเริ่มปราศัยได้เพียง 20 นาทีก่อนเสียงปืนจะดังขึ้น เคิร์กถูกยิงบริเวณคอ
วินาทีก่อนถูกยิง เคิร์กกำลังตอบคำถามเกี่ยวกับการกราดยิงในสหรัฐฯ โดยคนข้ามเพศ ที่ปรากฎว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีการกราดยิงถึง 5,700 ครั้ง และมีผู้กระทำเป็นคนข้ามเพศ 5 ครั้ง
วิดีโอจากที่เกิดเหตุฉายภาพนักศึกษาหลายคนล้อมรอบเต๊นท์สีขาว มีป้ายติดว่า “การกลับมาของอเมริกัน” และ “พิสูจน์สิว่าฉันผิด” ผู้เข้าร่มแต่งกายด้วยสีขาว แดง และน้ำเงิน สีที่ปรากฎบนธงชาติอเมริกัน
กิจกรรมที่มหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์เป็นกิจกรรมแรกในกิจกรรมทัวร์มหาวิทยาลัยของเคิร์กที่มีชื่อว่า “การกลับมาของอเมริกัน ร่วมด้วย เคิร์ก” ซึ่งจะมีอีกมากกว่า 14 กิจกรรมในอนาคตอันใกล้ ในทัวร์นี้มีกิจกรรมที่ชื่อว่า “พิสูจน์สิว่าฉันผิด” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เคิร์กตั้งโต๊ะถกเถียงกับผู้เห็นต่างต่อหน้าสาธารณะ
หลังการเสียชีวิต ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ กล่าวคำอาลัย
“ชาร์ลี เคริร์กผู้ยิ่งใหญ่ อาจกล่าวได้ว่าเป็นตำนาน เสียชีวิตแล้ว [...] ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจเพื่อเยาวชนในสหรัฐอเมริกาดียิ่งกว่าชาร์ลี เขาเป็ฯที่รักและชื่นชมจากทุกคน โดยเฉพสะผม” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์กล่าวด้วยว่า ชาร์ลีเป็นแรงบันดาลใจของคนหลายล้าน ชื่นชมการอุทิศตนให้การถกเถียงทางการเมืองอย่างเปิดเผย และกล่าวว่า เคิร์กเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทรัมป์มีฐานเสียงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยเสียงคนรุ่นใหม่กว่า 37% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทรัมป์ชี้ว่า สูงกว่าสัดส่วนคนรุ่นใหม่ทั่วไปของรีพับลิกัน
เขาลดธงชาติที่หน้าทำเนียบขาวลงครึ่งเสาเพื่อเป็นการอาลัยต่อนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา
พรรคเดโมแครตเองก็ออกมาประณามการลอบสังหารครั้งนี้ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม เรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “น่ารังเกัยจ ชั่วร้าย และสมควรประณาม”
“ในสหรัฐอเมริกา เราต้องปฏิเสธความรุนแรงทางการเมืองในทุกรูปแบบ”
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและสมาชิกรัฐสภาหลายคนออกมาแสดงความอาลัยและตกใจต่อเหตุการณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนภาพการเมืองอันรุนแรงในสหรัฐฯ