
สำนักข่าวยอนฮัพของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยวันนี้ (30 ตุลาคม 68) ว่า เขาอนุมัติเกาหลีใต้ให้สามารถสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ได้ โดยเรือลำดังกล่าวจะได้รับการต่อขึ้นที่อู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟียของสหรัฐฯ
ทรัมป์เขียนข้อความลงบนโซเชียลมีเดียหนึ่งวันหลังเข้าหารือกับประธานาธิบดีอี แจมยองของเกาหลีใต้ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่จะต้องมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ไว้ ซึ่งการหารือนี้เกิดขึ้นในห้วงการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC
ทรัมป์ระบุว่า ผมอนุญาตให้พวกเขาสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แทนที่จะเป็นแบบเดิม แบบเรือดำน้ำพลังงานดีเซลที่พวกเขามีอยู่แล้ว
การอนุมัติดังกล่าวเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ โดยทรัมป์ระบุว่า “ตอนนี้เข้มแข็งยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา และนี่คือการเดินทางเยือนที่ดีมาก กับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ผู้ยิ่งใหญ่”
ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า เกาหลีใต้จะสร้างเรือดำน้ำลำดังกล่าวที่อู่ต่อเรือฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ
สำหรับอู่ต่อเรือฟิลาเดลเฟีย ซึ่งถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มบริษัทฮันฮวา (Hanwha Group) ของเกาหลีใต้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมต่อเรือระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ โดยรัฐบาลโซลให้คำมั่นว่า จะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ ตามข้อตกลงทางการค้าฉบับล่าสุดของทั้งสองประเทศ
ทรัมป์ยังกล่าวผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของเขาว่า อุตสาหกรรมต่อเรือของประเทศเรากำลังจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในไม่ช้า
กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ ถูกกำกับดูแลภายใต้ข้อตกลงด้านพลังงานที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอนุญาตให้เกาหลีใต้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ไม่เกิน 20% ภายใต้การยินยอมของสหรัฐฯ ทั้งนี้ เกาหลีใต้จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากสหรัฐฯ เสียก่อน เพื่อจัดหาเชื้อเพลิงยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงที่เหมาะสมสำหรับใช้ในเรือดำน้ำนิวเคลียร์
ระหว่างการหารือกับทรัมป์เมื่อวันก่อนหน้า ประธานาธิบดีอีได้ระบุว่า เรือดำน้ำพลังดีเซลของเกาหลีใต้มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาในการดำดิ่งลงใต้น้ำ ซึ่งทำให้กองทัพเกาหลีใต้มีข้อจำกัดในการติดตามเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือและจีน ดังนั้นจึงร้องขอให้สหรัฐฯ อนุมัติให้จัดหาเชื้อเพลิงสำหรับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า เกาหลีใต้ตกลงจะจ่ายเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับการลดภาษีนำเข้า และจะซื้อพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ “ในปริมาณมหาศาล” พร้อมระบุว่าการลงทุนจากบริษัทเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ จะมีมูลค่ารวมเกินกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ