
การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ตกในทะเลตะวันออก สร้างความวิตกกังวลให้แก่หลายฝ่าย เนื่องจากเหล่าผู้นำคนสำคัญของโลกหลายคน รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังจะเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจจะทดสอบขีปนาวุธอีก ก่อนการประชุม APEC จะเริ่ม เพราะเกาหลีเหนือมักทำเช่นนั้นเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ
สำนักข่าวยอนฮัพของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเกาหลีเหนือมีศัยกภาพในการพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก หรือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง แต่ชี้ว่า เกาหลีเหนือมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยี Reentry หรือเทคโนโลยีที่ยิงขีปนาวุธออกไปแล้วขีปนาวุธสามารถวกกลับเข้าชั้นบรรยากาศได้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังแสดงความเป็นกังวลว่า รัสเซียอาจจะช่วยเกาหลีเหนือในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างสองประเทศ
กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ (28 ตุลาคม 68) ว่า จะมีการส่งทหาร 3,900 นายลงไปปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่การประชุม APEC ในสัปดาห์นี้ โดยนายทหารเหล่านั้นจะกระจายไปประจำการทั่วประเทศ ทั้งบนบก ทางทะเล และทางอากาศ
นอกจากนี้ จะมีการประจำการทหารเป็นพิเศษที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองปูซาน เมืองท่าขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นสนามบินที่เหล่าผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ จะใช้เพื่อเดินทางมาเข้าร่วมการประชุม
ส่วนในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศต่าง ๆ เริ่มเดินทางมาถึงเมืองคยองจูแล้ว ก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอดผู้นำ APEC จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม - เสาร์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธตกในทะเลตะวันออก ทั้งที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธมาหลายเดือนแล้ว และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ นับตั้งแต่อี แจมยอง ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และยังเกิดขึ้นก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้
สำนักข่าว AP รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายได้เตือนล่วงหน้าว่า เกาหลีเหนืออาจดำเนินการทดสอบขีปนาวุธเชิงยั่วยุก่อนหรือระหว่างการประชุม APEC เพื่อแสดงจุดยืนว่าต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับตนในฐานะรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธการที่นานาประเทศสั่งแบนโครงการพัฒนาอาวุธ โดยยืนยันว่า โครงการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันประเทศจากภัยคุกคามของ “ศัตรู” อย่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
หลายฝ่ายสงสัยว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทรัมป์และคิมจะเจอกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ในห้วงการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC อย่างไรก็ตาม กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ชี้ว่า จะไม่มีการหารือเรื่องนี้ระหว่างทรัมป์และอี แจมยอง
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า ในวาระการหารือระหว่างทรัมป์ และประธานาธิบดีอี แจมยองที่กำลังจะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้ (29 ตุลาคม 68) ระหว่างที่ทรัมป์เยือนเกาหลีใต้ จะไม่มีประเด็นความเป็นไปได้ของจัดประชุมสุดยอดผู้นำทรัมป์-คิม จองอึนครั้งที่สาม
โดยเขาคาดการณ์ว่า คิม ยอจอง น้องสาวของคิม จองอึน อาจจะออกแถลงการณ์ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เกี่ยวกับจุดยืนของเกาหลีเหนือต่อข้อเสนอของทรัมป์ที่จะหารือกับคิม
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก ทรัมป์เคยพบกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือมาแล้ว และเมื่อไม่นานนี้ ทรัมป์ได้กล่าวว่า เขาหวังจะได้พบกับคิมอีกครั้งภายในปีนี้
ด้านเกาหลีเหนือแถลงว่า นายคิมเปิดกว้างต่อการเจรจากับทรัมป์ในอนาคต แต่ย้ำชัดว่า เกาหลีเหนือจะไม่ยอมปลดระวางอาวุธนิวเคลียร์ของตนอย่างเด็ดขาด