Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เกาหลีใต้ปราบปราม "แก๊งสแกมเมอร์"  อาจดีต่อไทย อย่างไร?
โดย : ผศ.ดร.กมล บุษบรรณ์

เกาหลีใต้ปราบปราม "แก๊งสแกมเมอร์" อาจดีต่อไทย อย่างไร?

23 ต.ค. 68
17:02 น.
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

  • ทำไมรัฐบาลเกาหลีใต้ถึงทำงานได้รวดเร็วเช่นนั้น คำตอบมาจากปัจจัยที่ชัดเจน คือ ความเร่งรีบ และความโปร่งใส
  • บทบาทของประธานาธิบดีและรัฐบาลคือการปกป้องพลเมืองของตนจากอันตราย หากไม่ทำเช่นนั้น จะนำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์
  • ในโอกาสนี้ ประเทศไทยควรที่จะยกระดับการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีไปสู่ “การทูตระดับพรีเมียม”

ความไวในการปราบ "แก๊งสแกมเมอร์" ในกัมพูชา ของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี เน้นย้ำถึงความรับผิดชอบในการปกป้องประชาชนของรัฐบาลได้ดี แต่คำถามที่ว่า ทำไมรัฐบาลถึงทำงานได้รวดเร็วเช่นนั้น คำตอบมาจากปัจจัยที่ชัดเจน คือ ความเร่งรีบ และความโปร่งใส

ความโปร่งใส (Corruption Perceptions Index : CPI) ของสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในอันดับที่สูงของโลก สิ่งที่คนเกาหลีใต้อยากเห็นจากสังคมเกาหลีนี้ เริ่มมีขึ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การปรับโครงสร้างของประเทศสาธารณรัฐเกาหลีหลังปี พ.ศ. 2540 ทั้งทางด้านการเงิน การเมือง และกฎหมาย โดยประชาชนเกาหลีใต้ส่งแรงกดดันทางการเมืองและภาครัฐให้ตระหนักถึงเหตุผลในการดำรงอยู่ของรัฐบาล เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มมากขึ้นจากสื่อและสาธารณชนที่ว่า “รัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จ” ก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้จำเป็นต้องมีผู้นำที่ปฏิบัติการรวดเร็ว

เมื่อสื่อและสาธารณชนมีความวิตกกังวลสูงในประเด็นใดก็ตาม ทำให้ประธานาธิบดีต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง เพื่อส่งสัญญาณไปสู่ประชาชนเกาหลีใต้ว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และช่วยลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองได้

ขนาดและความรุนแรงของเหตุการณ์ “แก๊งสแกมเมอร์” ในกัมพูชาเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีรายงานเกี่ยวกับชาวเกาหลีที่ถูกลักพาตัวและกักขังในกัมพูชาในรูปแบบของ “การล่อลวงเพื่อหางานและหลอกลวงเรื่องความรัก” พุ่งสูงขึ้น (คาดการณ์ว่ามีจำนวนหลายสิบถึงหลายร้อยราย) และมีรายงานจากสื่อเกี่ยวกับเหยื่อบางรายถึงขั้นเสียชีวิตและเป็นนักศึกษา สิ่งนี้จึงจำเป็นต้องมีการตอบสนองจากรัฐบาลอย่างทันท่วงทีและเป็นระบบ ระบบการส่งตัวชาวเกาหลีในกัมพูชากลับประเทศต้องปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด

บทบาทของรัฐบาลคือการปกป้องพลเมืองจากอันตราย

บทบาทของประธานาธิบดีและรัฐบาลคือการปกป้องพลเมืองของตนจากอันตราย หากไม่ทำเช่นนั้น จะนำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ และด้วยรัฐบาลปัจจุบันที่มีการแบ่งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชาชนกำลังต่อสู้กัน หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะนำไปสู่การเมืองที่เผชิญกับผลกระทบร้ายแรง คือ รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ

เนื่องมาจากบทบาทของประธานาธิบดีและรัฐบาล คือ การปกป้องประชาชนจากอันตราย หากพวกเขาทำไม่ได้ พวกเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ในสถานการณ์ที่รัฐบาลแตกแยกเป็นสองฝ่าย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชาชนต่อสู้กัน ปัญหาร้ายแรงก็จะตามมา ดังนี้

1. การเมืองภายใน
ภาพการประท้วงปัจจุบันจากผู้สนับสนุนประธานาธิบดี ยูน ซอกยอล มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายในที่กำลังตึงเครียดมากขึ้นในเกาหลีใต้

2. นิสัยเร่งรีบอย่างมากของชาวเกาหลี (ปั๊ลลี ปั๊ลลี)
นิสัยเร่งรีบของชาวเกาหลี หรือที่เรียกว่า “ปั๊ลลี ปั๊ลลี” เน้นย้ำถึงความรับผิดชอบในการปกป้องประชาชน “รัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จ” คือถ้อยคำที่สะท้อนแนวคิดของประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ซึ่งจึงต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน

3. การตอบสนองของรัฐบาล
นิสัยเร่งรีบอย่างมากของชาวเกาหลี (ปั๊ลลี ปั๊ลลี) ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องมีการตอบสนองอย่างทันท่วงทีและเป็นระบบ หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจในการแก้ปัญหา (Task Force: TF) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่จัดตั้งขึ้นชั่วคราวเพื่อบรรลุภารกิจหรือเป้าหมายเฉพาะ

ผู้รับผิดชอบโดยตรงคือ คุณคิม จินนา ซึ่งเป็นตัวแทนมาจากฝ่ายการเมืองโดยตรง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ผู้นำทัพลุยปราบ “แก๊งสแกมเมอร์” ในกัมพูชา

ไทยควรยกระดับทางการทูต

ในโอกาสนี้ ประเทศไทยควรที่จะยกระดับการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีไปสู่ “การทูตระดับพรีเมียม” คือให้ความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับประเทศไทย เนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลีมีข้อมูลทางการข่าวที่ดีเยี่ยมประเทศหนึ่ง ผ่านความร่วมมือทางด้านการข่าวของ GSOMIA

ฝ่ายที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดของการขยับเช่นนี้ คือการสร้างภาพลักษณ์ความปลอดภัยของประเทศไทยเอง เนื่องมาจากสาธารณรัฐเกาหลีมีกลยุทธ์ที่สำคัญในเวทีต่างประเทศ ผ่านข้อตกลงการแลกเปลี่ยนทางทหารเพื่อความปลอดภัย (General Security of Military Information Agreement: GSOMIA)

ข้อตกลงนี้ถือเป็นการเสริมสร้างพันธมิตรไตรภาคี สหรัฐฯ – เกาหลีใต้ – ญี่ปุ่น โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกในระดับทางทะเล ทางพื้นดิน ทางอากาศ ทางดาวเทียม และอวกาศ ทำให้ประเทศเกาหลีมีความมั่นคง และสามารถดูแลประเทศของตนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยตรง ทันเวลา และมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

ข้อตกลง GSOMIA อนุญาตให้มีการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองทางทหารที่เป็นความลับระหว่างกันได้โดยตรงและทันทีทันใด ซึ่งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าวิธีการเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตที่มีภัยคุกคามรวดเร็ว เช่น การยิงขีปนาวุธ

ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง GSOMIA จัดเตรียมกรอบการทำงานที่เป็นสถาบันและมีผลผูกพันทางกฎหมายสำหรับความร่วมมือด้านกลาโหมทวิภาคีระหว่างสองพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกาในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ สิ่งนี้ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพันธมิตรโดยรวมของสหรัฐฯ และเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงในระยะยาวของเกาหลีใต้

สหรัฐอเมริกาเห็นว่า GSOMIA เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเป้าหมายด้านความมั่นคงในภูมิภาค การรักษาข้อตกลงนี้ไว้เป็นการย้ำเตือนภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้ในฐานะหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่เชื่อถือได้ และทำให้มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะยังคงให้ความสำคัญและจัดสรรทรัพยากรสำหรับการป้องกันประเทศ

หากประเทศไทยให้ความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีไปสู่ “การทูตระดับพรีเมียม” จะทำให้เราสามารถมีโอกาสแก้ปัญหาเรื่องโควต้าแรงงานไทยไปเกาหลี และความช่วยเหลืออื่น ๆ เช่น การลงทุนจากประเทศเกาหลีใต้และนานาชาติสู่ประเทศไทย

รัฐบาลสมัยท่านประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ซึ่งสังกัดพรรคเดียวกันกับประธานาธิบดี อี แจ-มยอง เคยมีนโยบายหลักที่สำคัญ คือ นโยบายมุ่งใต้ (New Southern Policy: NSP) ซึ่งเป็นนโยบายที่เน้นการแลกเปลี่ยนและลงทุนกับกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้ เงินลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลีส่วนใหญ่เน้นไปที่ประเทศเวียดนามมากกว่าประเทศอื่น

หากเราร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีได้ในระดับดี ข้าพเจ้ามั่นใจว่ารัฐบาลปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะให้การลงทุนกับประเทศอาเซียนเป็นนโยบายหลักอยู่แล้ว การลงทุนในอนาคต ประเทศไทยอาจได้รับการลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลีและพันธมิตรมากกว่าประเทศอื่น หรืออย่างน้อยคือการลงทุนกับประเทศไทยมากขึ้น

แต่หากเราให้ความร่วมมือกับเกาหลีช้า หรือในระดับน้อย จะทำให้การเหมารวมเกิดขึ้น หากประเทศไทยดำเนินการช้า หรือดำเนินการน้อย จะนำพาประเทศไทยไปสู่กับดักการโดนเหมารวมจากชาวเกาหลีใต้และชาวต่างชาติ ซึ่งเรียกว่า “Orientalism”

แนวคิดนี้คิดขึ้นโดยนักวิชาการ Edward Said หมายถึงวิธีการที่ชาวตะวันตกพูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออกในเชิงเหยียดเชื้อชาติ เพศ รวมไปถึงการดูแคลนสินค้าที่ผลิตจากประเทศที่ถูกมองต่ำเช่นกัน การเหมารวมประเทศไทยอาจเกิดขึ้นได้ หากปัญหา “แก๊งสแกมเมอร์” ในกัมพูชายังไม่หมดไป และอาจนำไปสู่การลงทุนจากต่างประเทศที่หดตัวลงในภายภาคหน้า

ต้องไม่ลืมว่าสาธารณรัฐเกาหลีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงในอันดับ 13 ของโลก และชาวเกาหลีใต้มาเที่ยวประเทศไทยในอันดับต้น ๆ เช่นกัน เนื่องจากภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อชาวเกาหลีใต้ ณ ปัจจุบันยังคงมีภาพรักที่ดี และชาวไทยน่ารักเป็นมิตร

ด้วยเหตุนี้ การยกระดับการทูตเป็น “การทูตระดับพรีเมียม” กับสาธารณรัฐเกาหลีใต้ จึงยังมีความจำเป็นในการร่วมมือกันหลายมิติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม นำไปยกระดับ Nation Branding ผ่าน Soft Power ของประเทศไทย

ส่งผลให้รัฐบาลต่อไปของประเทศไทยสามารถสานต่อการพัฒนานโยบายของชาติได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลเป็นคนละพรรคการเมืองกันก็ตาม

ดังเช่น สาธารณรัฐเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเพื่อการส่งออกโดยภาพรวม ตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ส่งผลให้การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจจากประเทศยากจนสู่ประเทศที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

ผศ.ดร.กมล บุษบรรณ์

ผศ.ดร.กมล บุษบรรณ์

ผอ.หลักสูตร Korean Studies for International Management คณะบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แชร์
เกาหลีใต้ปราบปราม "แก๊งสแกมเมอร์"  อาจดีต่อไทย อย่างไร?