ทรัมป์เฮ สภาคองเกรสเคาะตัดงบ 9 พันล้าน เลิกช่วยต่างชาติและสื่อสาธารณะ
CNN รายงานว่า รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายลดค่าใช้จ่ายมูลค่าราว 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามนโยบายของกระทรวงประสิทธิภาพ หรือ DOGE ในเช้าวันนี้ (18 ก.ค. 68) โดยมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนโหวต 216 ต่อ 213 เสียง ในจำนวนนี้ มีสมาชิกพรรครีพับลิกันเพียง 2 รายที่โหวตสวน ได้แก่ ไมค์ เทิร์นเนอร์ และไบรอัน ฟิตซ์แพทริก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะผ่านร่างกฎหมายในขั้นตอนสุดท้าย ได้เกิดปัญหาเสียงแตกในสภา ทำให้ผลโหวตเห็นชอบผ่านร่างได้อย่างหวุดหวิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาตรการลดค่าใช้จ่ายจะหักเงินจากโครงการช่วยเหลือต่างประเทศ เป็นเงินราว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทำเนียบขาวที่ต้องการลดบทบาทของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID รวมถึงการตัดค่าใช้จ่าย 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากองค์การกระจายแสียงสาธารณะ Corporation for Public Broadcasting ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับ NPR และ PBS
ทั้งนี้ การบัญญัติกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นวาระสำคัญสำหรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่วิพากษ์วิจารณ์การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางที่เพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์พยายามให้ร่างกฎหมายผ่านกระบวนการแบบเงียบ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขวางจากกลุ่มวุฒิสภา คาดว่าขณะนี้มาตรการดังกล่าวจะถูกส่งไปยังประธานาธิบดีเพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้
ปัญหาขัดแย้งก่อนการอนุมัติ: คดี "เจฟฟรีย์ เอปสตีน"
ก่อนที่ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะผ่านการอนุมัติ เกิดปัญหาในสภาผู้แทนราษฎรที่เสียงข้างมากเฉือนกันเล็กน้อย เนื่องจากสมาชิกบางส่วนได้เรียกร้องดีลพิเศษกับผู้นำพรรครีพับลิกัน หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญคือพวกเขาต้องการความโปร่งใสมากขึ้นในคดี “เจฟฟรีย์ เอปสตีน"
เจฟฟรีย์ เอปสตีน (Jeffrey Edward Epstein) เป็นนักการเงินผู้มั่งคั่งชาวอเมริกัน เขาเริ่มสร้างฐานะจากอาชีพครู ก่อนจะผันตัวเข้าสู่วงการการเงินและสร้างความมั่งคั่งอย่างมหาศาล เขามีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่กว้างขวางกับบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง มหาเศรษฐี หรือแม้กระทั่งราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความมั่งคั่งและอิทธิพลของเขาคืออาชญากรรมร้ายแรงเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ เอปสตีนถูกกล่าวหาว่าล่อลวงเด็กสาวและหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจำนวนมาก
คดีของเอปสตีนเริ่มถูกเปิดโปงในปี 2005 เมื่อผู้ปกครองของเด็กสาวอายุ 14 ปีคนหนึ่งแจ้งความว่าลูกสาวของเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยชายผู้มั่งคั่งนามว่า "เจฟฟ์" การสอบสวนของตำรวจและ FBI เผยให้เห็นเครือข่ายการค้ามนุษย์ขนาดใหญ่ที่มีเหยื่อจำนวนมาก ในปี 2008 เอปสตีนถูกตั้งข้อหาและทำข้อตกลงกับอัยการรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการลดหย่อนโทษให้เขามากเกินไป ทำให้เขาได้รับโทษจำคุกเพียง 13 เดือน (แต่สามารถออกไปทำงานได้เกือบทุกวัน) และไม่ต้องรับผิดในข้อหาความผิดทางอาญาของรัฐบาลกลาง ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับเหยื่อและสาธารณชน
ในปี 2019 เอปสตีนถูกจับกุมอีกครั้งในข้อหาค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีและสมคบคิดเพื่อค้ามนุษย์ในระดับรัฐบาลกลาง คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณชน แต่แล้วในเดือนสิงหาคม 2019 เอปสตีนก็เสียชีวิตในห้องขังของเรือนจำที่นครนิวยอร์ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาและนำไปสู่ทฤษฎีสมคบคิดมากมาย เนื่องจากเขาถูกจับตาเป็นพิเศษและอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง
ประเด็นความโปร่งใสในคดีเอปสตีนได้ส่งผลกระทบต่อรัฐสภามาหลายวัน ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับผู้สนับสนุนที่เหนียวแน่น ซึ่งนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาฯ และทีมผู้นำได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเจรจากับสมาชิกคณะกรรมการกฎระเบียบของสภาฯ เพื่อหาทางออก แต่แล้วในที่สุด คณะกรรมการได้ลงมติเห็นชอบให้ตัดลดงบประมาณโดยไม่ที่ต้องนำการเปิดเผยข้อมูลของคดีเจฟฟรีย์มาเกี่ยวข้องเลย
ทรัมป์ดีใจ ไฟเขียวกฎหมายลดงบ
หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมาย DOGE แล้ว ทรัมป์ จอห์นสัน และสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันก็รีบออกมาประกาศถึงมาตรการนี้ ทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า "นี่มันยิ่งใหญ่มาก!!!"
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า “เราจะลดขนาดขอบเขตของรัฐบาลลง รัฐบาลมีขนาดใหญ่เกินไป ทำหลายอย่างเกินไป และแทบจะไม่ได้ทำอะไรได้ดีเลย เราเชื่อมั่นในรัฐบาลที่มีขอบเขตจำกัด มีความรับผิดชอบ มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อประชาชน และเราจะยังคงแสดงให้เห็นสิ่งนี้ผ่านการกระทำของเราในที่ประชุมสภา”
กฎหมายการใช้จ่ายนี้มีมูลค่าลดลง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงจากร่างของฉบับแรก เนื่องจากวุฒิสมาชิกปฏิเสธแผนการตัดงบประมาณ PEPFAR ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกเพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ ด้าน ส.ส. เอริก เบอร์ลิสัน จากรัฐมิสซูรีกล่าวว่า “น่าผิดหวังที่รัฐบาลมีหนี้ถึง 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่า DOGE ได้เปิดเผยการใช้งบประมาณในทางที่ผิดนี้อย่างชัดเจน จึงเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่วุฒิสภาได้ถอนการจัดงบประมาณ PEPFAR นี้ออกไป”
