17 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าว Al Jazeera รายงานว่า กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมไว้อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 78 คนเสียชีวิต รวมไปถึงคนที่มาร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่การเจรจาหยุดยิงถูกยื้อออกไป ปัญหาพลังงานและความหิวโหยกลับทรุดหนักต่อเนื่อง
สำนักข่าวปาเลสไตน์ Wafa รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 อิสราเอลโจมตีใกล้ศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือในราฟาห์ ทำให้มีชาวกาซาเสียชีวิต 5 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตใกล้ศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเป็น 838 คนแล้ว
ศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือ หรือ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) เป็นความร่วมมือระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ได้รับเสียงวิจารณ์และเป็นหัวข้อถกเถียงมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ ด้านสหประชาชาติและองค์กรมนุษยธรรมหลายแห่งประณามการดำเนินการของ GHF ว่าไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเนื่องจาก GHF เป็นองค์กรเดียวที่สามารถแจกจ่ายอาหารในพื้นที่ฉนวนกาซาได้ จึงเป็นการดึงดูดชาวเมืองที่หิวโหยจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่จำกัด แต่กลับเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหลากหลายครั้งจากทหารอิสราเอลที่กราดยิงชาวกาซา
นอกจากนี้ ยังมีการโจมตีที่พื้นที่อื่นของกาซาหลายแห่ง เช่น ค่ายผู้ลี้ภัยในข่าน ยูนิส (Khan Younis) ทางตอนใต้ของกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย รวมไปถึงค่ายผู้ลี้ภัยอัล-บูเรอิจ ทางตอนกลางของกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ขณะนี้กองทัพอิสราเอลกำลังเพิ่มการโจมตีพื้นที่ทางเหนือและกาซาซิตี้อีกครั้ง สื่ออิสราเอลชี้ว่ามีการซุ่มโจมตีในกาซาซิตี้ รถถังของอิสราเอลถูกโจมตีด้วยจรวดและอาวุธขนาดเล็ก มีรายงานการพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ขนย้ายผู้เสียชีวิต ต่อมากองทัพอิสราเอลยืนยันว่า มีทหารเสียชีวิต 3 นาย
กองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศชุดใหญ่ และสำนักข่าว Wafa รายงานว่ามีชาวปาเลสไตน์ 24 คนเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว และอีกหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ
ด้านสหประชาชาติยังคงร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากสถานการณ์ความหิวโหยไม่ทุเลาลง ซ้ำยังแย่ลงต่อเนื่อง พร้อมกับปัญหาขาดแคลนพลังงานรุนแรง ส่งผลต่อการสาธารณสุขให้ทรุดหนัก ปัญหาด้านพลังงานยังส่งผลต่อการจัดการน้ำ เนื่องจากโรงงานบำบัดน้ำเสียต้องหยุดทำงาน เพราะขาดพลังงาน รวมไปถึงสถานีสูบน้ำด้วยเช่นกัน
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ บัดร์ อับเดลอัตตี (Badr Abdelatty) กล่าวว่า ความช่วยเหลือที่ถูกส่งไปยังฉนวนกาซาไม่เพิ่มขึ้นเลย แม้ว่าอาทิตย์ก่อน อิสราเอลได้ลงนามในสัญญาร่วมกับสหภาพยุโรปเพื่อเร่งส่งความช่วยเหลือไปฉนวนกาซา เขากล่าวว่า “ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย [...] ภัยพิบัติที่แท้จริงกำลังเกิดขึ้นอยู่ในกาซา เป็นผลมาจากการปิดล้อมอย่างต่อเนื่องของอิสราเอล”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (10 กรกฎาคม 2568) นักการทูตสหภาพยุโรปกล่าวว่า EU และอิสราเอลตกลงร่วมพัฒนาสถานการณ์มนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งจะเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนของรถขนอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และอุปกรณ์จำเป็นต่อการดำรงชีพ พร้อมการอำนวยความสะดวก เปิดจุดผ่านแดนและเส้นทางขนส่งความช่วยเหลือให้มากขึ้น
ขณะเดียวกันการเจรจาหยุดยิงยังคงติดขัดอยู่ แม้จะดำเนินมาครบสองสัปดาห์แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตัวกลางยังคงหาทางปิดช่องว่างระหว่างอิสราเอลและฮามาส แต่การเจรจาทางอ้อมที่กาตาร์ไม่มีความคืบหน้า เพราะต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าได้ละเมิดการปล่อยตัวประกันและการหยุดยิง 60 วัน
ฝ่ายฮามาสกล่าวประณามนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ว่าเขาคือปัญหาหลัก จากแนวคิดที่เขาเคยกล่าวว่า “ต้องการเห็นกลุ่มชาวปาเลสไตน์กลุ่มนี้ถูกทำลาย” ฮามาสยังโพสต์บน Telegram เพิ่มเติมว่า “เนทันยาฮูมีความเชี่ยวชาญในการบ่อนทำลายการเจรจารอบแล้วรอบเล่า และไม่เต็มใจที่จะบรรลุข้อตกลงใด ๆ”
ขณะเดียวกันฝ่ายเนทันยาฮูกำลังเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นให้ยุติสงคราม ขณะที่จำนวนทหารที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และความไม่พอใจของสาธารณชนก็ทวีความรุนแรง และยังเผชิญเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแผนการสร้าง “เมืองแห่งมนุษยธรรม” เพื่อรองรับชาวปาเลสไตน์ 600,000 คน ว่าอาจนำไปสู่ค่ายกักกันที่ขังชาวปาเลสไตน์เอาไว้ในอนาคต