สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานว่า ประชาชนชาวกัมพูชาราว 150,000 คน ออกมาเดินขบวน “Solidarity March” เพื่อแสดงความสามัคคีในการสนับสนุนรัฐบาลและกองกำลังแนวหน้าของกัมพูชา ในสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน
สหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา (UYFC) ได้นัดแนะให้ประชาชนออกมารวมตัวกันที่ด้านหน้าโรงละครโคพิช การเดินขบวนจะมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์เอกราช โดยผ่านเขตดวนเปญ, จัมการ์ โมนและ เบืองเกงกางในกรุงพนมเปญ ขณะที่แกนนำการเดินขบวนมาจากฝ่ายรัฐบาลเอง
รองนายกรัฐมนตรี ฮุน มานี ประธานสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา ซึ่งเป็นบุตรชายอีกคนของสมเด็จฮุน เซน เป็นแกนนำจัดงานดังกล่าว เปิดเผยว่า การที่ครอบครัวชาวกัมพูชารวมตัวกันในวันนี้เป็นมากกว่าการรวมตัวกันเพื่อแสดงความสามัคคี จิตวิญญาณอันเข้มแข็ง และความไว้วางใจต่อรัฐบาลกัมพูชาและกองกำลังทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณ เมื่อกัมพูชาถูกคุกคาม ประชาชนกัมพูชาจะไม่นิ่งเฉยหากมีการดูหมิ่นเกียรติศักดิ์และบูรณภาพแห่งดินแดนของประชาชนกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต กล่าวว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทยยังคงไม่มั่นคง โดยทหารไทยยังคงขุดสนามเพลาะและเคลื่อนกำลังปืนใหญ่หนักทุกวัน ขณะกล่าวสุนทรพจน์ ในงานปิดการประชุมใหญ่วิสามัญของคณะลูกเสือกัมพูชาที่กรุงพนมเปญ เขากล่าวว่า “จนถึงขณะนี้ สถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลาย ข้อกล่าวหาและจุดยืนที่ขัดแย้งกันยังคงมีอยู่ กองทัพไทยยังคงปฏิบัติการประจำวันในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารใหม่”
นอกจากนี้ เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองใดก็ตาม ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใด และให้ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการสถานการณ์นี้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความพยายามที่จะนำคดีนี้ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เขายังโต้แย้งว่า เอกสารที่เกี่ยวข้องบางฉบับยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ หลังจากที่รัฐบาลไทยอ้างว่ายังไม่เห็นเนื้อความฟ้องร้องที่กัมพูชายื่นต่อศาลโลก
ฮุน มาเนต กล่าวว่า “บางคนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่ากัมพูชากำลังจัดฉากเผชิญหน้ากับไทยที่ชายแดนและปิดด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยเป็นเกมวางแผนระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและไทย ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงเลย พวกเขาคิดว่าการปิดชายแดนเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น ผมรู้สึกท้อแท้กับความคิดเห็นดังกล่าวจริง ๆ”