ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อวานนี้ (13 พฤษภาคม) ว่า ไม่มีพันธมิตรใดแข็งแกร่งไปกว่าซาอุดีอาระเบีย โดยการเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของทรัมป์ ซึ่งเลือกจะเดินทางไปยังประเทศอ่าวอาหรับ และเน้นไปที่การส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศ
ขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงริยาดห์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังให้คำมั่นว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่อซีเรีย พร้อมระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมโอกาสสู่ความยิ่งใหญ่
ในวันแรกของการเยือน สหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียได้ประกาศข้อตกลงซื้อขายอาวุธมูลค่า 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 5.2 ล้านล้านบาท พร้อมความร่วมมือด้านการลงทุนอื่น ๆ ซึ่งมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ คาดว่า มูลค่ารวมในอนาคตอาจสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
ซาอุดีอาระเบียเคยเป็นประเทศแรกที่ทรัมป์เลือกเยือนอย่างเป็นทางการในปี 2017 เช่นกัน และในการเยือนครั้งนี้ เขามีกำหนดเดินทางต่อไปยังกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
การเดินทางถึงกรุงริยาดห์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้รับการต้อนรับสุดยิ่งใหญ่อลังการ โดยทางการซาอุดีอาระเบียได้ปูพรมสีม่วงลาเวนเดอร์แทนพรมแดง เพื่อต้อนรับผู้นำสหรัฐฯ ขณะที่ทรัมป์เองก็เลือกสวมเนกไทสีม่วงให้เข้ากับพรมดังกล่าว
ซาอุดีอาระเบียเริ่มใช้พรมลาเวนเดอร์แทนพรมแดงตั้งแต่ปี 2021 โดยระบุว่า เป็นสัญลักษณ์ของดอกไม้ป่าในทะเลทรายและความมีน้ำใจของราชอาณาจักร
ด้านมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงเดินทางมาต้อนรับทรัมป์ด้วยพระองค์เองที่สนามบิน พร้อมขบวนม้าพิธีการแบบอาหรับที่คุ้มกันรถประธานาธิบดีอย่างสมเกียรติ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมด้านการลงทุน ทรัมป์ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดีอาระเบียว่า ทรงพลังกว่าที่เคยเป็นมา และนับตั้งแต่วิดนาทีที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ ความมั่งคั่งก็หลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐฯ และยังคงหลั่งไหลต่อเนื่อง
รายงานระบุว่า การเดินทางครั้งนี้ของทรัมป์มีเป้าหมายหลักในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ที่ดำรงตำแหน่งในสมัยที่สองมาแล้วราวๆ 4 เดือน
การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในซาอุดีอาระเบียครั้งนี้เต็มไปด้วยความหรูหราและพิธีการที่ยิ่งใหญ่ แตกต่างจากการเยือนของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างเรียบง่ายและเป็นทางการ
ในการเยือนครั้งนี้ ทรัมป์ยังมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการลงทุน และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการเจรจาทางเศรษฐกิจ ทรัมป์มาพร้อมกับผู้นำธุรกิจระดับโลกหลายราย อาทิ อีลอน มัสก์ ซีอีโอพันธมิตรคนสนิท, แซม อัลท์แมน ซีอีโอของ OpenAI, แลร์รี ฟิงก์ ซีอีโอของ BlackRock และเจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia
บรรดานักธุรกิจชั้นนำเหล่านี้เดินทางมาพบกับรัฐบาลซาอุฯ ที่กำลังเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาน้ำมัน และมุ่งสู่การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในโอกาสนี้ เจนเซน หวง ประกาศว่า Nvidia จะขายชิป AI รุ่นล่าสุดมากกว่า 18,000 ชิ้นให้กับบริษัท Humain ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อสนับสนุนการขยายขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของประเทศ.
ทรัมป์กล่าวถึงสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสด้วย โดยระบุว่า ประชาชนในกาซาควรได้รับอนาคตที่ดีกว่านี้ และกล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่าเลือกใช้วิธีลักพาตัว ทรมาน และโจมตีพลเรือนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดย อ้างอิงถึงเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023
อีกหนึ่งประกาศสำคัญคือ ทรัมป์จะยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมดต่อซีเรีย โดยเขาอ้างว่าเป็นคำขอจากมกุฎราชกุมารซาอุฯ และกล่าวติดตลกว่า เขาทำให้มกุฎราชกุมารได้ทุกอย่าง
มาตรการคว่ำบาตรซีเรียของสหรัฐฯ ถูกบังคับใช้มานานกว่า 10 ปี เพื่อกดดันระบอบเผด็จการของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งพ้นจากอำนาจเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ซีเรียมีประธานาธิบดีชั่วคราวคนใหม่ คือ อาเหม็ด อัล-ชาอารา เปิดทางให้ความพยายามทางการทูตของสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง