ความยั่งยืน

บางจากจับมือคอสโม ออยล์ ญี่ปุ่น รุกตลาดเชื้อเพลิงอากาศอย่างยั่งยืน

7 ธ.ค. 66
บางจากจับมือคอสโม ออยล์ ญี่ปุ่น รุกตลาดเชื้อเพลิงอากาศอย่างยั่งยืน

กลุ่มบริษัทบางจาก และคอสโม ออยล์ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมรุกตลาดเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) นำทัพตลาดภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสู่น่านฟ้ายั่งยืน

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท คอสโม ออยล์ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้วยการลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่สำนักงานใหญ่ของคอสโม ออยล์ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยกรอบข้อตกลงความร่วมมือนี้ครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ซึ่งผลิตโดยบางจากฯ สู่ประเทศญี่ปุ่นโดยคอสโม ออยล์

โดย มิสเตอร์ ยาซูฮิโร ซูซูกิ ประธาน บริษัทคอสโม ออยล์ ได้ร่วมลงนามกับ นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจ โรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในนามของบริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก

บางจากจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ซึ่งมีการผลิต SAF ปริมาณ 1,000,000 ลิตรต่อวัน  ที่โรงกลั่นบางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ โดยได้ประกาศแผนดำเนินการผลิต SAF เมื่อเดือนกันยายน 2565 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2567 ทั้งนี้ SAF ที่ผลิตได้ในสัดส่วนที่สำคัญจำนวนหนึ่งจะส่งออกไปให้คอสโม ออยล์ ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 10 ปี ตามข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกัน

คอสโม ออยล์ที่มีเป้าหมายการจัดหา SAF 300,000 กิโลลิตรต่อปีภายในปี 2573 การร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มอุปทานการจัดหา SAF ให้มีความหลากหลายมากขึ้น

การร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ เนื่องจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบางจากและคอสโม ออยล์เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 เพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน  ครอบคลุมการนำเข้าและการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คอสโม ออยล์รับจากบางจาก ได้แก่ SAF ไบโอแนฟทา และไบโอเอทานอล 

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมีแผนร่วมศึกษาการใช้ประโยชน์และการขนส่งไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ รวมถึงเทคโนโลยีการดักจับ การกักเก็บและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization, and Storage - CCUS) และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานอีกด้วย

นายปฏิวัติ กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเป็นพันธมิตรระหว่างบางจากฯ กับคอสโมออยล์ ซึ่งต่อยอดมาจากความร่วมมือที่ใกล้ชิดยาวนานกว่าทศวรรษ ความตกลงนี้เกิดเป็นรูปธรรมจากความทุ่มเทของทั้งสององค์กรเพื่อมุ่งสู่อนาคตของการผลิตพลังงานที่สะอาดยิ่งขึ้น”

สำหรับบางจาก ถือเป็นการบุกเบิกเชิงกลยุทธ์เพื่อผลิตและจำหน่าย SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว สะท้อนความมุ่งมั่นในด้านนวัตกรรมพลังงานสีเขียวของบริษัทฯ ซึ่งการผลิต SAF ปริมาณ 1,000,000 ลิตรต่อวัน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 80,000 ตันต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่มบริษัทบางจากในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ด้านมิสเตอร์ซูซูกิ กล่าวว่า "อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการเร่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาส ทั้งคอสโม ออยล์ และบางจาก ตระหนักถึงวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและได้ประกาศเป้าหมายร่วมในการ "ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050" ด้วยเหตุนี้ การทำความร่วมมือในระดับโลกจึงมีความสำคัญ” 

การที่บริษัททั้งสองสามารถทำข้อตกลงร่วมได้ในครั้งนี้ นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญสู่การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ โดยโอกาสของความร่วมมือของเราจะไม่จำกัดเพียงเรื่อง SAF เท่านั้น ซึ่งผมหวังว่าจะมีความร่วมมือเพิ่มเติมในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งหวังที่จะผสานพลังร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นต่อไป

สำหรับพิธีลงนามดังกล่าว นอกจากจะมีผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัทคอสโม ออยล์ เข้าร่วมแล้ว ยังได้รับเกียรติจาก นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมและกล่าวแสดงความยินดี โดยนายฉันทพัทธ์ได้กล่าวว่าความร่วมมือเป็นพันธมิตรของ ทั้งสองบริษัทในวันนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือระหว่างประเทศที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการส่งเสริม และถือเป็นการปูทางสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมควบคู่กันไป

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT