Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทองขึ้นหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย เงินพุ่งทำสถิติใหม่ จากดีมานด์สูง-อุปทานตึง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทองขึ้นหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย เงินพุ่งทำสถิติใหม่ จากดีมานด์สูง-อุปทานตึง

11 ธ.ค. 68
10:20 น.
แชร์

ราคาทองคำในตลาดโลกกลับทิศขึ้นในคืนวันพุธที่ 10 ธันวาคม หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แม้ผลลงคะแนนยังสะท้อนความเห็นแตกต่างภายในคณะกรรมการอย่างชัดเจน การดีดตัวของทองคำเกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณจากเฟดที่บ่งชี้ว่าการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอาจต้อง “หยุดพัก” ไประยะหนึ่ง เพื่อรอข้อมูลที่ชัดเจนกว่าเกี่ยวกับตลาดแรงงานและภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นโจทย์หลักในการกำหนดจังหวะการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีหน้า

ในขณะนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินโลกยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยปี 2568 เพราะแม้นักลงทุนยอมรับสัญญาณการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ในเชิงบวก แต่เฟดก็ไม่ได้ให้คำแนะนำต่อทิศทางในอนาคต โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุชัดว่า นโยบายดอกเบี้ยในปัจจุบัน “อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมรับมืออนาคต” แต่หลีกเลี่ยงการตอบคำถามสำคัญว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในระยะสั้นหรือไม่

ขณะเดียวกันซิลเวอร์พุ่งแรงจนทำสถิติสูงสุดตลอดกาล หนุนโดยดีมานด์อุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และภาวะตึงตัวในตลาดจริง ซึ่งยิ่งกระตุ้นแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนเก็งกำไร

ราคาทองคำในประเทศเช้าวันนี้ขยับขึ้น 300 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 63,450 บาท และขายออกที่ 63,550 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 62,186.32 บาท และขายออกที่ 64,350 บาท ขณะที่ราคาทองคำสปอตในตลาดโลกเคลื่อนไหวบริเวณ 4,238.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ทองคำฟื้นตัวสู่ระดับสูงของวัน แม้เฟดส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ย-ตลาดยังแตกเป็นสองฝ่าย

ณ 15.17 น. เวลาสหรัฐฯ ราคาทองคำสปอตขยับขึ้น 0.7% แตะ 4,236.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ในตลาด COMEX ปิดลดลงเล็กน้อย 0.3% ที่ระดับ 4,224.70 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงภาวะผันผวนระหว่างวันหลังผลประชุมเฟดเผยแพร่สู่ตลาด

ในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟดมีมติลดดอกเบี้ยในการลงคะแนนที่ “แตกเป็นสองขั้ว” โดยมีเสียงคัดค้าน 3 เสียง และแม้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะต้องปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีหน้า แต่ก็มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยเลย บางรายถึงขั้นประเมินว่าอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในบางจังหวะหากเงินเฟ้อหรือกิจกรรมเศรษฐกิจเบี่ยงเบนจากเป้าหมาย นับเป็นหนึ่งในชุดการประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) ที่สะท้อนความแตกแยกภายในเฟดมากที่สุดชุดหนึ่งในรอบหลายปี

ไท วอง นักเทรดโลหะอิสระ ให้ความเห็นว่าตลาดทองคำตอบรับผลประชุมในเชิงบวก โดยระบุว่า “เทรดเดอร์ทองคำชอบผลลัพธ์วันนี้ ราคาทองดีดกลับขึ้นสู่ระดับสูงสุดของวัน หลังผ่านแรงขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้าไปได้” วองชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน เช่น ทองคำ ทำให้เงินทุนบางส่วนไหลกลับเข้ามา

ในฝั่งของเฟด พาวเวลล์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 3.5%-3.75% สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในอนาคตได้ แต่ปฏิเสธที่จะระบุว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด โดยนักลงทุนจำนวนมากยังตั้งคำถามว่าทองคำจะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ (All-time high) ได้อีกครั้งภายใต้ความไม่แน่นอนของทิศทางดอกเบี้ยที่ยังคงกดดันความเชื่อมั่นในตลาด

ซิลเวอร์พุ่งแตะสถิติสูงสุดตลอดกาล หนุนโดยดีมานด์อุตสาหกรรม-อุปทานลดลง และแรงเก็งกำไรที่ยกระดับขึ้น

นอกจากทองแล้ว มูลค่าของโลหะมีค่าอย่างแร่เงินก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยซิลเวอร์สปอตดีดตัวแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 61.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาได้เพิ่มขึ้นกว่า 113% ตั้งแต่ต้นปี ผลักดันให้ซิลเวอร์กลายเป็นสินทรัพย์ที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดชนิดหนึ่งในกลุ่มโลหะมีค่าในปีนี้ การทะยานขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการจากอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น สต็อกสินค้าที่ลดลงต่อเนื่อง และสถานะ “แร่ธาตุเชิงยุทธศาสตร์” ซึ่งรัฐบาลสหรัฐประกาศกำหนดให้ซิลเวอร์เป็นหนึ่งในแร่สำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

นักวิเคราะห์จาก SP Angel ระบุว่า แรงซื้อเก็งกำไรเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ผลักดันราคาซิลเวอร์ให้พุ่งแรง โดยหลายกองทุนเลือกเข้าลงทุนในซิลเวอร์ในฐานะ “สินทรัพย์ที่ขยายผลตอบแทนได้มากกว่า” หลังราคาทองคำปรับฐานในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมซึ่งผู้ค้าระบุว่ามีภาวะ “Supply Squeeze” รุนแรง ทำให้ราคาซิลเวอร์ได้รับแรงดันเพิ่มเติม

ท่ามกลางกระแสพุ่งแรงของซิลเวอร์ โลหะมีค่าชนิดอื่นยังเผชิญแรงขาย โดยพลาตินัมปรับตัวลดลง 2.4% สู่ระดับ 1,654.55 ดอลลาร์ ขณะที่พัลลาเดียมอ่อนลง 2% แตะ 1,475.94 ดอลลาร์ สะท้อนภาพรวมตลาดโลหะที่ยังตึงเครียดและผันผวนตามปัจจัยเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

แชร์
ทองขึ้นหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย เงินพุ่งทำสถิติใหม่ จากดีมานด์สูง-อุปทานตึง