Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทองขึ้นสูงสุดใน6สัปดาห์ เงินพุ่งทะลุสถิติ เก็งเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทองขึ้นสูงสุดใน6สัปดาห์ เงินพุ่งทะลุสถิติ เก็งเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

1 ธ.ค. 68
19:27 น.
แชร์

ราคาทองคำในตลาดโลกเปิดสัปดาห์ด้วยแรงซื้อ ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหกสัปดาห์ จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคมนี้ ผสานกับความไม่แน่นอนด้านทิศทางผู้นำองค์กรนโยบายการเงินของสหรัฐในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะที่ตลาดโลหะมีค่าโดยรวมอยู่ในภาวะร้อนแรง โดยเฉพาะ “เงิน” ที่พุ่งขึ้นแรงที่สุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

บรรยากาศลงทุนสะท้อนความเชื่อมั่นว่า วงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐใกล้สิ้นสุดลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐชุดล่าสุดบ่งชี้การชะลอตัวของตลาดแรงงาน และแรงกดดันเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ทำให้สินทรัพย์ที่กำหนดราคาด้วยดอลลาร์มีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งในมุมป้องกันความเสี่ยงและการเก็งกำไรระยะสั้น

เฟดยังเป็นแกนหลัก ขับเคลื่อนทองคำสู่ระดับสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์

ณ เวลา 10.54 น. ตามเวลา GMT ราคาทองคำสปอตปรับขึ้น 0.6% อยู่ที่ 4,255.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐสำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ขยับขึ้นแรงกว่า อยู่ที่ 4,290.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนมุมมองตลาดว่า ดอกเบี้ยสหรัฐอาจเข้าสู่ช่วงขาลงเร็วกว่าที่คาด

ปัจจุบัน ตลาดการเงินมองว่าเฟดมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนธันวาคมถึงประมาณ 88% ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอหลายระลอก ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงหลายคนออกมาส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายอย่างชัดเจน ทั้งคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟด และจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ซึ่งย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการพยุงเศรษฐกิจ

โจวันนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์จากยูบีเอส กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนเริ่มนำความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยกลับมาใส่ในแบบจำลองราคาอีกครั้ง พร้อมทั้งคาดว่าประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) คนใหม่ จะมีแนวโน้มดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลาย ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงยังช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองทองคำ ซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ปัจจัยทางการเมืองสหรัฐยังเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองในช่วงนี้ โดยในวันนี้ เควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจทำเนียบขาว ได้ออกมาประกาศว่ายินดีรับตำแหน่งประธานเฟด หากได้รับการเลือก ขณะที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนวันคริสต์มาส ทำให้ความไม่แน่นอนนี้ยิ่งตอกย้ำบทบาททองคำในฐานะแหล่งพักเงินในช่วงเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบาย

เงินพุ่งแรงกว่าทอง จากอุปทานตึงตัวและแรงเก็งกำไรระยะสั้น

นอกจากทองแล้ว ในวันนี้ราคาเงินยังขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 57.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อลงเล็กน้อยมาซื้อขายบริเวณ 57.63 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 2% ในวันเดียว และปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่หก โดยตั้งแต่ต้นปีราคาเงินพุ่งขึ้นแล้วเกือบเท่าตัว แซงหน้าทองคำที่เพิ่มขึ้นราว 60% ทำให้เงินกลายเป็นโลหะมีค่าที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้

แรงหนุนสำคัญมาจากภาวะตึงตัวของอุปทานทั่วโลก โดยแม้ในเดือนตุลาคมโลหะเงินจะไหลเข้าสู่ตลาดลอนดอนทำสถิติสูงสุดเพื่อคลี่คลายภาวะขาดแคลนรุนแรงในตลาดซื้อขายใหญ่ที่สุดของโลก แต่การที่เงินไหลเข้าตลาดลอนดอนกลับสร้างแรงกดดันต่อศูนย์กลางอื่น และทำให้สต็อกเงินในคลังที่เชื่อมโยงกับตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบสิบปี ขณะที่ต้นทุนการยืมโลหะเงินระยะหนึ่งเดือนยังอยู่ในระดับสูง บ่งชี้อุปทานเงินในโลกกำลังตึงตัว

ขณะเดียวกัน อัตราส่วนราคาทองคำต่อเงิน ซึ่งสะท้อนจำนวนออนซ์ของเงินที่ต้องใช้เพื่อซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ ยังปรับลดลงในวันนี้แตะระดับต่ำสุดของปี 2569 และเข้าใกล้ระดับ 70 สะท้อนว่า ราคาเงินแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทองคำ และบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในโลหะเงินมากขึ้นในช่วงนี้

ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยเศรษฐกิจ ตลาดยังกำลังจับตาความเสี่ยงเชิงนโยบายการค้า หลังสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐบรรจุโลหะเงินเข้าในบัญชีแร่วิกฤตเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพิ่มความเป็นไปได้ในการตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าแร่เงินในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้เงินในสหรัฐมีพรีเมียมสูงขึ้น และยิ่งซ้ำเติมภาวะอุปทานเงินตึงตัวในตลาดโลก

ในฝั่งการลงทุน นักวิเคราะห์ยังพบว่าเม็ดเงินเริ่มไหลกลับเข้า ETF เงินที่มีโลหะจริงหนุนหลังมากขึ้นอีกครั้ง หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อทันทีที่ราคาทะลุจุดสูงสุดเดิม ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเหมืองเงินในตลาดหลักหลายแห่งปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยในออสเตรเลีย หุ้น Sun Silver พุ่งกว่า 20% และ Silver Mines เพิ่มขึ้นเกือบ 13% ส่วน China Silver Group ในตลาดฮ่องกงก็ปรับขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักระหว่างวัน สะท้อนแรงเก็งกำไรที่กลับมาชัดเจนในสินทรัพย์ที่อิงกับโลหะเงิน

นักวิเคราะห์จากยูบีเอสประเมินว่า หากทิศทางดอกเบี้ยขาลงและภาวะอุปทานตึงตัวยังดำเนินต่อไป ราคาทองคำมีโอกาสไต่ขึ้นสู่ระดับ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า ขณะที่ราคาเงินอาจแตะระดับ 60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากสถานะของโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์หลบภัย และเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนสูง


แชร์
ทองขึ้นสูงสุดใน6สัปดาห์ เงินพุ่งทะลุสถิติ เก็งเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า