Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
วันนี้ราคาทองร่วงต่อ ตัวเลขงานสหรัฐฯดีกว่าคาด แนวโน้มเฟดหั่นดอกเบี้ยลด
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

วันนี้ราคาทองร่วงต่อ ตัวเลขงานสหรัฐฯดีกว่าคาด แนวโน้มเฟดหั่นดอกเบี้ยลด

21 พ.ย. 68
15:16 น.
แชร์

ราคาทองคำปรับตัวลงในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่งผลให้การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยถ่วงราคาทองคำที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินเดียวกัน

พร้อมกันนั้น นักลงทุนกำลังเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของ S&P Global และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งอาจสะท้อนทิศทางความแข็งแกร่งหรือความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มเติม หากตัวเลขออกมาน่าผิดหวัง ก็อาจหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้

ราคาทองคำในประเทศ ณ เวลา 14:18 น. มีการปรับเปลี่ยนแล้ว 17 ครั้ง โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 62,050 บาท และขายออกที่บาทละ 62,150 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 60,806.76 บาท และขายออกที่บาทละ 62,950 บาท ส่วนราคาทองคำสปอตเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 4,037.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ข้อมูลแรงงานสหรัฐกดดันความหวังลดดอกเบี้ย ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง สูงกว่าประมาณการที่ 50,000 ตำแหน่ง แม้ข้อมูลเดือนสิงหาคมจะถูกปรับลดลง 4,000 ตำแหน่งก็ตาม อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.3% เป็น 4.4% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรายงานที่เผยแพร่ล่าช้าจากเหตุการณ์ปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ข้อมูลแรงงานที่แข็งกว่าเกณฑ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนชะลอการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม

ข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าตลาดให้น้ำหนักเพียงราว 39% ต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนหน้า หลังรายงานแรงงานตอกย้ำว่าตลาดงานสหรัฐยังชะลอเพียงเล็กน้อยแต่มีเสถียรภาพ นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มนี้ทำให้การลดดอกเบี้ยปีนี้ “เป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ” ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องยิ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและการซื้อทองคำโดยธนาคารกลางยังหนุนราคา

แม้ข้อมูลแรงงานจะกดดันทองคำ แต่แรงหนุนจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังช่วยพยุงราคา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังคงเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารกลางจีน (PBOC) ที่เพิ่มการถือครองทองคำอีก 1.2 ตันในเดือนกันยายน และรายงานการซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ในเดือนตุลาคม ซึ่งตอกย้ำถึงแนวโน้มสะสมสินทรัพย์สำรองที่ปลอดภัยของหลายประเทศ

นักลงทุนยังจับตารายงาน PMI ของสหรัฐในคืนนี้อย่างใกล้ชิด หากข้อมูลชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้กระแสเงินไหลกลับเข้าสู่ทองคำมากขึ้น ช่วยพยุงราคาให้ทรงตัวเหนือระดับ 4,080-4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระยะสั้น

YLG ชี้ดอลลาร์แข็งกดดันทอง-จับตาเฟดลดดอกเบี้ยยากขึ้น

ด้าน YLG Bullion and Futures ระบุว่า ราคาทองคำในวันนี้ยังคงเผชิญแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ที่ทรงตัวในทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหวังของตลาดที่ประเมินว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธันวาคมมีน้อยลง สาเหตุจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนที่ออกมาสูงกว่าคาด ซึ่งถือเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายก่อนการประชุมดังกล่าว เนื่องจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) จะไม่เผยแพร่อัตราว่างงานของเดือนตุลาคม และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะถูกรวมประกาศพร้อมข้อมูลเดือนพฤศจิกายนในวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังการประชุมเฟดไปแล้ว

ในเชิงเทคนิค หลังราคาดีดตัวไม่ผ่านแนวต้านที่ 4,134 ดอลลาร์ เริ่มส่งสัญญาณว่าแรงดีดตัวรอบนี้อาจสิ้นสุดลง แต่แรงขายก็ยังไม่กดให้ราคาหลุดฐานสำคัญบริเวณ 4,040 ดอลลาร์ ส่งผลให้ภาพรวมการเคลื่อนไหวยังเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้าง พร้อมโอกาสดีดกลับเป็นระยะ สอดคล้องกับสัญญาณ RSI ที่เคลื่อนไหวแถวเส้นกลาง (Midline)

สำหรับวันนี้ YLG มองกรอบการซื้อขายที่ 4,134-4,040 ดอลลาร์ โดยการเบรกหลุดหรือเบรกผ่านกรอบดังกล่าวจะทำให้ทิศทางชัดเจนขึ้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ซื้อคืนสถานะขายหากราคายืนเหนือระดับ 4,040 ดอลลาร์ พร้อมขยับจุดตัดขาดทุนแบบไล่ตาม (Trailing Stop) มาที่ 4,109 ดอลลาร์เพื่อป้องกันกำไร

ส่วนการเปิดสถานะขายใหม่ให้รอจังหวะเมื่อราคาดีดแต่ไม่ผ่าน 4,134 ดอลลาร์ โดยควรตัดขาดทุนทันทีหากราคาทะลุแนวต้านดังกล่าว เพื่อประเมินทิศทางอีกครั้ง ทั้งนี้ใช้กราฟเวลา 1 ชั่วโมง ประกอบสัญญาณ RSI และ MACD ในการวิเคราะห์

ด้านแม่ทองสุก (MTS) ระบุว่า ทิศทางราคาทองคำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยล่าสุดราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 4,070 ดอลลาร์ หลังจากดีดขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4,100 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดยังถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm) เพิ่มขึ้นถึง 119,000 ตำแหน่ง สูงกว่าคาดการณ์เกือบสองเท่า แม้อัตราว่างงานจะดีดขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนความเปราะบางของตลาดแรงงาน

ขณะเดียวกัน ตัวเลข Non-Farm ของเดือนตุลาคมจะถูกรวมประกาศพร้อมข้อมูลเดือนพฤศจิกายนหลังการประชุมเฟด ทำให้เฟดยังประเมินแนวโน้มลดดอกเบี้ยไม่ได้อย่างชัดเจน ล่าสุด CME FedWatch ให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมต่ำกว่า 40% ส่งผลเป็นแรงกดดันต่อราคาทองในระยะสั้น ด้านค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ยังทรงตัวในระดับสูง ทดสอบ 100.30 จุด ส่วนเงินบาทเปิดตลาดที่ 32.43 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR ขายทองออก 4.29 ตัน ถือครองลดลงเหลือ 1,039.43 ตัน เดือนพฤศจิกายนขายสุทธิ 0.92 ตัน แต่ตั้งแต่ต้นปีซื้อสุทธิ 166.05 ตัน

สำหรับมุมมองในอนาคต MTS มองว่าราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงทั้งระยะสั้นและระยะกลาง โดยภาพรวมยังอยู่ในกรอบ “sideway down” นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายในช่วงสั้น โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 4,040-4,025 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 4,090-4,120 ดอลลาร์ ส่วนทองคำในประเทศมีแนวรับที่ 62,000 บาท และแนวต้านที่ 62,800 บาท


แชร์
วันนี้ราคาทองร่วงต่อ ตัวเลขงานสหรัฐฯดีกว่าคาด แนวโน้มเฟดหั่นดอกเบี้ยลด