FED สั่นสะเทือน Hassett ขึ้นแท่นประธานแทน Powell ทองคำจ่อรับอานิสงส์

กระแสการเลือกประธาน FED คนใหม่ ได้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย และดูเหมือนว่าชื่อของ “Kevin Hassett” ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว จะเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่ง ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดที่คุ้นเคยกับกระบวนการคัดเลือกของอดีตประธานาธิบดี “Donald Trump”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบงก์สหรัฐ-ยุโรปชี้ปี69 ทองพุ่งอีก สูงสุด 5,000 ดอลล์ ดอกเบี้ยขาลงหนุน

วันนี้ราคาทองร่วงต่อ ตัวเลขงานสหรัฐฯดีกว่าคาด แนวโน้มเฟดหั่นดอกเบี้ยลด

กูรูค้านทรัมป์แจกเงิน$2,000/คนจากภาษีนำเข้า ชี้เสี่ยงเงินเฟ้อ หนี้พุ่ง

หาก “Kevin Hassett” ได้รับเลือกให้เข้ามานั่งเก้าอี้ประธาน FED แทน “Jerome Powell” ที่วาระการเป็นประธานจะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม 2026 นี่อาจเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับตลาดทองคำและสินทรัพย์การลงทุนอื่น ๆ ที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวก

เนื่องจากการมาของ Hassett ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินครั้งใหญ่ โดยถือเป็นสัญญาณลดดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของ Trump ที่ต้องการเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

โดย Hassett ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนอย่างชัดเจนว่า “หากเขาเป็นประธาน FED เขาจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้เลย" (be cutting rates right now)  เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าควรทำเช่นนั้น

การที่บุคคลที่มีแนวคิดสนับสนุนการลดดอกเบี้ยอย่างแข็งขัน เข้ามาควบคุมทิศทางของ FED ย่อมสร้างแรงกดดันให้มีการดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มัก หนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะลดต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน และทันทีที่กระแสข่าวดังกล่าวได้ปะทุขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 4% เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือน ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดต่อทิศทางการลดดอกเบี้ยที่กำลังจะมาถึง

กระบวนการในคัดเลือกจะถูกควบคุมโดย “Scott Bessent” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างผู้สมัครที่สนับสนุนการลดดอกเบี้ย และผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งประธานาธิบดี และตลาดการเงิน  โดยผู้ท้าชิงท่ายอื่น ๆ ที่เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกและผ่านการสัมภาษณ์ ได้แก่ “Kevin Warsh” อดีตเจ้าหน้าที่ FED, “Christopher Waller” ผู้ว่าการ FED, “Michelle Bowman” รองประธาน FED และ “Rick Rieder” Chief Investment Officer จาก BlackRock Inc.

แม้ว่า FED จะเพิ่งเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในเดือนกันยายนและตุลาคม แต่ความเห็นของเจ้าหน้าที่ยังคงแตกแยกกันอย่างมาก Hassett ในฐานะผู้ที่มีแนวคิดชัดเจน จึงเป็นความหวังสำคัญของ Trump ที่จะผลักดันให้เกิดการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในปี 2026 ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำให้เป็นขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ในระยะสั้น ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) ยกเลิกการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของเดือนตุลาคม ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)  รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจของเดือนพฤศจิกายน ที่ถูกเลื่อนการประกาศออกไปทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm) จะถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 18 ธันวาคม จากเดิมวันที่ 10 ธันวาคม และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 16 ธันวาคม จากเดิม 15 ธันวาคม การเลื่อนการประกาศไปเป็นช่วงหลังการประชุมเฟดในวันที่ 9-10 ธันวาคม  ส่งผลให้ FED ขาดข้อมูลสำคัญถึง 2 เดือนในช่วงรอยต่อสำคัญนี้

คอนเทนต์แนะนำ

เข้าใจสมองยามน้ำท่วม ทำไมบางคนตอบสนองรุนแรง คำอธิบายเหตุยิงกู้ภัย

วิเคราะห์จากสมอง "ผู้นำ" ต้องมีบุคลิกแบบไหนในการรับมือวิกฤตน้ำท่วมใต้

Ultraformer III ต่างจาก HIFU อย่างไร ทำไมราคาสูงกว่าแต่คนยังเลือกทำ