ราคา-หุ้นลิเทียมพุ่งแรง หลัง CATL ปิดเหมืองใหญ่ในจีนคุมการผลิตส่วนเกิน
ราคาลิเทียมและหุ้นกลุ่มผู้ผลิตปรับตัวพุ่งแรงในวันจันทร์ หลังจาก Contemporary Amperex Technology Co. Ltd. (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศระงับการดำเนินงานที่เหมืองลิเทียม Jianxiawo ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญในเมืองอี้ชุน มณฑลเจียงซี ประเทศจีน เหตุการณ์นี้จุดกระแสคาดการณ์ในตลาดว่ารัฐบาลปักกิ่งอาจเดินหน้าระงับโครงการเหมืองลิเทียมอื่นเพิ่มเติม เพื่อควบคุมปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่กดดันเศรษฐกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
CATL ระบุว่าการปิดเหมืองเริ่มมีผลตั้งแต่เช้าวันจันทร์ และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตซึ่งหมดอายุไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับ Bloomberg News ว่า การหยุดดำเนินการครั้งนี้อาจยาวนานอย่างน้อย 3 เดือน
ข่าวการปิดเหมืองดังกล่าวได้จุดกระแสเก็งกำไรในทันที นักลงทุนเร่งเข้าซื้อหุ้นผู้ผลิตลิเทียมจากความกังวลต่อภาวะซัพพลายในอนาคต หุ้น Tianqi Lithium Corp. ในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 19% ขณะที่หุ้น Ganfeng Lithium Group Co. พุ่งแรง 21% ส่งแรงหนุนให้หุ้นกลุ่มเหมืองในออสเตรเลียปรับตัวขึ้นตาม ขณะเดียวกัน ราคาลิเทียมในตลาดซื้อขายล่วงหน้า Guangzhou Futures Exchange ก็ทะยานแตะเพดานการปรับขึ้นรายวันทันทีหลังข่าวถูกเผยแพร่
ราคาซื้อขายล่วงหน้าพุ่ง หุ้นเหมืองออสเตรเลียรับแรงหนุน
รายงานระบุว่า หลังข่าวการปิดเหมือง Jianxiawo ถูกเผยแพร่ สัญญาคาร์บอเนตลิเทียมที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดซื้อขายล่วงหน้า Guangzhou Futures Exchange พุ่งขึ้นทันทีเต็มเพดานรายวัน 8% ตั้งแต่เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ โดยสัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนซื้อขายที่ระดับ 81,000 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้นจากระดับปิดวันศุกร์ที่ 75,000 หยวน
แรงซื้อจากความกังวลด้านซัพพลายยังลุกลามไปถึงตลาดหุ้นออสเตรเลีย หุ้นผู้ผลิตลิเทียมรายสำคัญปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดย PLS Ltd. (เดิมชื่อ Pilbara Minerals Ltd.) พุ่งสูงสุด 19% Liontown Resources Ltd. พุ่ง 25% และ Mineral Resources Ltd. ขยับขึ้นสูงสุด 14%
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนและผู้บริหารอุตสาหกรรมกำลังจับตาว่า จีนจะเดินหน้าจำกัดการทำเหมืองเพิ่มเติมรอบเมืองอี้ชุนหรือไม่ หลังมีรายงานว่าหน่วยงานท้องถิ่นได้ร้องขอให้ผู้ประกอบการเหมือง 8 แห่ง ส่งรายงานข้อมูลปริมาณสำรองแร่ภายในสิ้นเดือนกันยายน ภายหลังการตรวจสอบพบข้อบกพร่องในกระบวนการจดทะเบียนและการอนุมัติใบอนุญาต
จาง เว่ยซิน นักวิเคราะห์จาก China Futures Co. ให้ความเห็นว่า “การหยุดเหมืองของ CATL ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนโครงสร้างอุปทานล้นตลาดในปัจจุบัน แต่หากการระงับการผลิตขยายไปยังเหมืองอื่นในอี้ชุนหลังวันที่ 30 กันยายน ราคาลิเทียมอาจมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก”
แรงกดดันจากอุปทานล้นตลาด และบทบาทของนโยบายรัฐ
ก่อนที่ CATL จะประกาศระงับการดำเนินงาน เหมือง Jianxiawo ในเมืองอี้ชุน มณฑลเจียงซี ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการผลิตลิเทียมที่สำคัญที่สุดของจีนและใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้ตกเป็นเป้าจับตาของตลาดและภาคอุตสาหกรรมมาหลายสัปดาห์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าทางการจีนอาจไม่ต่ออายุใบอนุญาตเพื่อชะลอการผลิตที่เกินความต้องการของตลาด
ข้อมูลจาก Bank of America Corp. ระบุว่า เหมือง Jianxiawo มีสัดส่วนการผลิตราว 6% ของปริมาณลิเทียมทั่วโลก ขณะที่เหมืองอื่นในพื้นที่อี้ชุนมีส่วนแบ่งการผลิตร่วมกันอย่างน้อยอีก 5% ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาคนี้ต่อห่วงโซ่อุปทานลิเทียมโลก
ตลาดลิเทียมในปัจจุบันกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญมาจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัว ประกอบกับนโยบายของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลดแรงจูงใจด้านภาษีและมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ในฝั่งจีน กระแส “ต่อต้านการทำงานเกินจำเป็น” (anti-involution) กำลังสร้างความคาดหวังว่ารัฐบาลอาจเข้มงวดขึ้นในการควบคุมภาคอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตส่วนเกิน เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและเพิ่มอำนาจต่อรองด้านราคาในระยะยาว
ยูจีน เซียว (Eugene Hsiao) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นจีนของ Macquarie Capital ให้ความเห็นว่า “แม้การหยุดเหมือง Jianxiawo จะไม่กระทบต่อการผลิตแบตเตอรี่โดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือห่วงโซ่อุปทานลิเทียมโดยรวมอาจเผชิญข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตมากขึ้นหรือไม่ และมาตรการนี้จะดำเนินไปในทิศทางเดียวกับการประสานงานของรัฐบาลจีนหรือไม่”
ในมุมมองของ Citigroup Inc. การปิดเหมือง Jianxiawo อาจเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “anti-involution” ที่มุ่งให้จีนสามารถกำหนดราคาทรัพยากรยุทธศาสตร์อย่างลิเทียมใหม่ในระยะยาว พร้อมสร้างหลักประกันว่าการทำเหมืองและการสกัดแร่จะเป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
